วัดหน้าพระเมรุ มาจากชื่อ วัดพระเมรุราชิการามวรวิหาร ซึ่งในสมัยอยุธยา วัดนี้ตั้งอยู่บริเวณทุ่งหน้าพระเมรุ เลยได้รับการตั้งชื่อตามนั้น และได้มีการพระราชทานชื่อใหม่จากในหลวงรัชการที่ 3 ให้เป็นชื่อ พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลิศรีสรรเพรชบรมไตรโลกนาถ โดยวัดหน้าพระเมรุ ถูกบันทึกไว้ในพระราชพงศาวดารครั้งแรกในตอนที่อยุธยาจะเสียกรุงครั้งที่ 1 ในสมัยที่พระเจ้าบุเรงนองได้ยกทัพเข้ามาที่กรุงศรีอยุธยา และพระเจ้าบุเรงนองก็ได้ตั้งทัพของตนเองไว้ที่บริเวณทุ่งหน้าพระเมรุ บริเวณใกล้เคียงกันกับตัววัดนั่นเอง ก่อนที่ทางพระเจ้าบุเรงนองจะทำการยึดอยุทธยาเป็นประเทศราชได้ในที่สุด และบันทึกในพระราชพงศาวดารในครั้งที่ 2 ครั้งที่พระเจ้าอลองพญาเข้ามาล้อมกรุงศรีอยุธยาเมื่อศึกที่จะเสียกรุงครั้งที่ 2 โดยได้ทำการตั้งทัพทั้งหมดของพม่าไว้ที่บริเวณทุ่งหน้าพระเมรุอีกครั้ง และตั้งใจจะตั้งปืนใหญ่ยิงเข้าไปยังรั่วกรุงศรี แต่ระหว่างที่กำลังจะยิงนั้นเอง ปืนใหญ่ได้แตกเสียก่อน จึงทำให้พระเจ้าอลองพญาเจ็บหนัก ต้องยกทัพกลับพม่าและสิ้นพระชนม์ระหว่างเดินทาง หากใครที่ได้ไปวัดหน้าพระเมรุ คงจะทราบดีว่าบริเวณองค์พระประธานได้สวมเครื่องชุดเต็มยศ ซึ่งได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยพระเจ้าปราสาททอง ซึ่งได้ปรับปรุงให้บริเวณองค์พระทำจากสำริด ล้อมด้วยทอง และได้มีการให้สวมเครื่องทรงเต็มยศอย่างที่เราได้เห็นในปัจจุบัน ที่สำคัญวัดหน้าพระเมรุยังเป็นวัดเดียวที่ถูกทำลายในสมัยครั้งที่กรุงศรีอยุธยาแตกพ่ายเป็นครั้งที่ 2 และยังอยู่มาจนถึงปัจจุบัน โดยในทุกวันนี้วัดหน้าพระเมรุยังได้มีการบูรณะซ่อมแซมอยู่ตลอดจนสวยงาม แต่ก็ยังเป็นวัดที่ผู้คนรู้จักไม่มาก จึงทำให้บริเวณภายในวัดเงียบสงบ แต่ภายในด้านในเรายังจะสามารถเห็นสถาปัตยกรรมจากตัวโบสถ์และการปั้นตัวองค์ปั้นที่แตกต่าง แสดงถึงสมัยอยุธยาได้อย่างชัดเจน ที่เราเชื่อว่าถ้าหากใครไม่เคยเห็น จะต้องรู้สึกอัศจรรย์เหมือนกับเราแน่ ๆ การที่ยังมีวัดในประวัติศาสตร์ให้เราได้เรียนรู้ในปัจจุบัน ถือว่าหลักฐานสำคัญที่คนจากในอดีตสื่อสารอะไรมากมายมาสู่ผู้ที่ยังอยู่ในทุกวันนี้ ถ้าหากใครที่ยังไม่เคยไป เราอยากให้ทุกท่านได้ไปลองกราบไหว้วัดหน้าพระเมรุสักครั้ง เพราะนอกจากจะได้พบความสวยงามที่ไม่เหมือนวัดที่ไหนแล้ว ทุกคนก็ยังจะได้เจอกับร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในสมัยกรุงศรี ที่ถ้าหากเราได้มองลงไปให้ลึกซึ้ง เราก็จะพบรายละเอียดอะไรมากมายเยอะแยะ ในสิ่งที่เป็นรูปธรรมวัถตุในอดีต สวัสดี เรื่องโดย : เลดี้ โลลิต้า (Lady Lolita) วัน-เวลา เปิดทำการ : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 - 17.30 น. ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการเข้าชม