หน้าฝนมาเยือนอีกครา พาหัวใจให้คิดถึง “อยุธยา” ขึ้นมาอีกหน ทุ่งนาเขียวขจีกับสายฝนโปรยปราย รายล้อมด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่ ทำให้ไม่รอช้าที่จะเก็บกระเป๋า ขอไปพักกายและใจ ณ อยุธยาเมืองเก่า...อีกสักครั้ง อยุธยาครานี้...ขอเลือกที่พักเรียบง่าย เล็ก ๆ แต่อบอุ่น ณ บ้านเคียงชล พี่เจ้าของบ้าน อำนวยความสะดวกและดูแลอย่างดีตั้งแต่วันที่ติดต่อขอเข้าพักจนวันกลับ โซนพักผ่อนริมน้ำ ณ บ้านเคียงชล วันนี้เราได้ที่พักห้องที่ดีที่สุด มีระเบียงยื่นออกไปสัมผัสบรรยากาศเย็น ๆ หน้าฝน สามารถดื่มด่ำบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างใกล้ชิด และชมวัดพุทไธสวรรย์ที่แสนงดงาม เรียกได้ว่าเปิดประตูห้องออกมาก็ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ยามฝนพรำ และชมวิถีชีวิตริมน้ำที่ทุกย่างก้าวเนิบช้า แต่ทว่าทรงพลัง วิวจากห้องพัก ณ บ้านเคียงชลวันนี้ บ้านเคียงชล ตั้งอยู่บนถนนอู่ทอง ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก วิวริมน้ำเยื้องวัดพุทไธสวรรย์ ด้านในมีที่จอดรถไว้รับรอง ราคาห้องพักมีให้เลือกตั้งแต่ 800 - 1,500 บาท (มีส่วนลดให้ด้วยนะคะ) มีระเบียงริมน้ำให้นั่งชิว เจ้าของน่ารัก เป็นกันเอง ดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี ให้สิบดาวเต็มเลยค่ะ สนใจติดต่อได้ทุกเวลาที่ Facebook บ้านเคียงชล หรือ http://ayutthaya-homestay.blogspot.com/ พักผ่อนสูดอากาศเต็มอิ่มแล้ว เตรียมออกเดินทางไปไหว้พระกัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอดีตราชธานีอันรุ่งเรือง มีวัดเก่าให้นักท่องเที่ยวเลือกสักการะและเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก ทริปนี้อากาศดีขอพาทุกท่านไปสักการะหลวงพ่อมงคลบพิตร และชมมรดกโลก วัดพระศรีสรรเพชญ์ พร้อมแล้วตามมาเลยค่ะ พระมงคลบพิตรเป็นพระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 9.55 เมตร และสูง 12.45 เมตร ประดิษฐานในวิหารมงคลบพิตร ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นระหว่างปี พ.ศ. 1991–2145 วันนี้มีพุทธศาสนิกชนมาทำบุญและร่วมสักการะพระมงคลบพิตรกันอย่างล้นหลาม แสดงให้เห็นถึงพลังศรัทธาในศาสนาพุทธที่มีมาอย่างยาวนาน ถัดจากวิหารพระมงคลบพิตรไปทางทิศเหนือคือที่ตั้งของ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา วันนี้อากาศไม่ร้อนจนเกินไปนัก จึงเหมาะกับการเยี่ยมชมโบราณสถานอันเก่าแก่ซึ่งอดีตเคยเป็นวัดประจำพระราชวัง เมื่อเดินผ่านประตูทางเข้าเข้าไปก็จะได้พบกับความยิ่งใหญ่ของเจดีย์ทรงลังกาสำคัญ 3 องค์ ตั้งเรียงรายเป็นสัญลักษณ์ของวัดพระศรีสรรเพชญ์ ประกอบด้วย เจดีย์ทางด้านทิศตะวันออก เจดีย์องค์กลาง และเจดีย์ทางด้านทิศตะวันตก นอกจากนั้นภายในวัดยังมีสิ่งก่อสร้างสำคัญอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น พระวิหาร หอระฆัง พระอุโบสถ ที่เก่าแก่และสวยงาม วัดพระศรีสรรเพชญ์ ตั้งอยู่บนถนนศรีสรรเพชญ์ อำเภอพระนครศรีอยุธยา เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. ค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่คนละ 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่คนละ 50 บาท เด็ก นักเรียน นักศึกษา ไม่เสียค่าเข้าชม หากใครที่ชื่นชอบการปั่นจักรยาน ก็สามารถเช่าจักรยานปั่นชมรอบอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาได้ อ่านข้อมูลประวัติวัดพระศรีสรรเพชญ์ได้ที่ https://ww2.ayutthaya.go.th/travel_top10/detail/5 การเดินทางครั้งนี้เราใช้รถส่วนตัวจึงไม่ได้ปั่นจักรยานอย่างที่ตั้งใจ แต่ครั้งหน้าต้องขอเป็นสิงห์นักปั่นกับเขาสักหน ออกจากวัดพระศรีสรรเพชญ์เรามุ่งหน้าไปยัง วัดหน้าพระเมรุ วัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระพุทธนิมิตพิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ พระพุทธรูปทรงเครื่องหล่อสำริดขนาดใหญ่ พระประธานในอุโบสถซึ่งสร้างขึ้นปลายสมัยอยุธยา วัดหน้าพระเมรุ หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดหน้าพระเมรุราชิการาม เป็นหนึ่งวัดในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ถูกพม่าทำลาย และยังคงสภาพที่ดีมาก บ้างสันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะพม่าได้ไปตั้งกองบัญชาการอยู่ที่วัดนี้กับวัดหัสดาวาส การได้มาสักการะหลวงพ่อ ฯ ณ วัดหน้าพระเมรุแห่งนี้ มีความพิเศษเนื่องจากทุกท่านจะได้ชมความงามของพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ที่งดงามและใหญ่ที่สุดหนึ่งในสองแห่งของไทย วัดหน้าพระเมรุ ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองสระบัว อำเภอพระนครศรีอยุธยา เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตั้งแต่เวลา 08:00 - 17:30 น. การเดินทางมาไม่ยากเลย เปิด Google Map ก็ช่วยได้ https://www.google.co.th/maps/place/Wat+Na+Phra+Meru/@14.3624966,100.5568049,17z/data=!3m1!4b1!4m5!3m4!1s0x30e27444957bb4f5:0x59d99950dbdce716!8m2!3d14.3624966!4d100.5589936 ออกจากวัดหน้าพระเมรุเพลาบ่ายคล้อย ท้องเริ่มหิวกันแล้ว มื้อเย็นวันนี้เราได้รับคำแนะนำจากพี่มนัสเจ้าของ "บ้านเคียงชล" ให้ไปทานอาหารเย็นที่ร้าน De Riva Ayothaya ชื่อร้านอาจเป็นฝรั่งแต่เมนูเด็ดของร้าน คือ อาหารไทยถูกปากอย่างแน่นอน การันตีโดยคนพื้นถิ่น บรรยากาศภายในร้านจัดที่นั่งลดหลั่นไปถึงริมน้ำ มีทั้งโซนรับลม และโซนห้องปรับอากาศ ตกแต่งร้านด้วยโคมไฟสีขาว สวยงามอย่างยิ่ง โต๊ะริมน้ำเจ้าพระยานอกจากจะได้สัมผัสอากาศเย็น สดชื่นแล้ว ยังได้ชมความงดงามของโบสถ์คริสต์วัดนักบุญยอแซฟ ที่อยู่อีกฝากฝั่งลำน้ำอีกด้วย หากใครที่ชื่นชอบการฟังดนตรีสด ที่ De Riva ก็มีบริการไว้ด้วย เรียกได้ว่ามาที่นี่ ไดีลิ้มรสอาหารถูกปาก บรรยากาศถูกใจ และรื่นรมย์กับดนตรีที่แสนไพเราะ มื้อเย็นที่อยุธยาทั้งที ถ้าไม่จัดกุ้งเผาก็คงเรียกว่ามาไม่ถึง กุ้งแม่น้ำ 1 กิโลกรัมเผาอุ่นๆ กับข้าวสวยร้อน ๆ ช่วยทำให้บรรยากาศอาหารเย็นยามฝนพรำอร่อยเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ร้านเดอริว่า อโยธยา (De Riva Ayothaya) ตั้งอยู่ที่ถนนอู่ทอง ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา เปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 11:00 - 22:00 น. จองโต๊ะผ่าน https://www.facebook.com/derivaayothayathailand/ รับรองไม่ผิดหวังจริง ๆ ค่ะ ค่ำคืนวันฝนพรำที่อยุธยา เรานอนฟังเสียงฝน และเสียงหริ่งหรีดเรไร เป็นเพื่อนขับกล่อมตลอดทั้งคืน เช้าตื่นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน โปรแกรมวันนี้ก่อนกลับกรุงเทพ ฯ เราตั้งใจไปชมความงดงามของวัดพุทไธสวรรว์ ที่อยู่ตรงข้ามที่พักของเราครั้งนี้ ก่อนจะปิดท้ายทริปกับคาเฟ่ บ้านรักษ์นา ที่ใครมาอยุธยาต้องไม่พลาด พร้อมแล้วก็เก็บกระเป๋าข้ามฝั่งไปเที่ยว วัดพุทไธสวรรว์กันค่ะ เราออกเดินทางจากที่พัก "บ้านเคียงชล" ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงวัด วัดพุทไธสวรรย์ ตั้งอยู่ในเขตตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา นอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาทางด้านทิศใต้ เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมื่อ พ.ศ. 1896 หลังจากทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาขึ้นเป็นราชธานี 3 ปี มีอายุกว่า 600 ปี วัดพุทไธสวรรย์แห่งนี้ในปัจจุบันคนนิยมมาท่องเที่ยวมากเนื่องจากกระแสของละครบุพเพสันนิวาส ซึ่งแม้จะลาจอไปนานแล้ว แต่ความนิยมก็ยังไม่เสื่อมคลาย วัดพุทไธสวรรย์ เปิดให้เที่ยวชมตั้งแต่เวลา 08:00 - 17:00 น. การเดินทางมาก็แสนง่ายดาย ตาม google map มาได้เลยค่ะ https://www.google.co.th/maps/place/Wat+Phutthai+Sawan/@14.3395257,100.5560478,17z/data=!3m1!4b1!4m5!3m4!1s0x30e27424da85ed97:0x2af4fe75d5d159a0!8m2!3d14.3395257!4d100.5582365 มาอยุธยาครั้งหน้าอย่าลืมแวะมาที่วัดพุทไธสวรรย์กันนะคะ ปิดท้ายทริปหน้าฝนกับการสัมผัสบรรยากาศท้องนาเขียวขจีที่ "บ้านรักษ์นา" หน้าฝนแบบนี้ ได้ดื่มด่ำนาข้าวเขียวขจีสมใจ จะมีอะไรสบายตาสบายใจไปกว่าการจิบกาแฟหอม ๆ และทอดสายตาไปยาว ๆ ที่ท้องทุ่งข้าวเขียวขจี หรือใครอยากทานอาหารที่บ้านรักษ์นาก็มีบริการอย่างหลากหลาย รักษ์นา คาเฟ่ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00 - 17:30 น. ให้ Google map นำทางได้เลย หรือจะติดต่อจองที่นั่งในร้านผ่านเพจ Facebook ก็เข้าไปที่นี่ได้เลยค่ะ https://www.facebook.com/raknacafeayutthaya/ จบทริปสั้น ๆ แสนสุขใจที่พระนครศรีอยุธยากับบรรยากาศหน้าฝน หลายครั้งที่อ่อนล้ากับสภาวการณ์รอบตัว อยุธยาจะเป็นอีกสถานที่ที่ช่วยให้ผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้มาเยือน...... เครดิตภาพ: ภาพถ่ายโดยผู้เขียน