เรื่องเล่าหลัง มินิมาราธอนครั้งแรกในชีวิต อยุธยามาราธอน 2016 เรื่องเล่าก่อนมินิฯ - เริ่มวิ่งครั้งแรก เดือน กันยายน 2557 ที่สวนรถไฟ วิ่งได้ประมาณ 1 กม. เหมือนจะตายคาสวนรถไฟ/วิ่งที่สวนจตุจักรและนครปฐมมาเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยมีวินัย วิ่งบ้างหยุดบ้าง บางครั้งหยุดเป็นเดือนๆ วิ่งไกลสุดได้เต็มที่ 6 กม. จนเดือนกันยายน 2559 เริ่มมีวินัย 1 สัปดาห์อย่างน้อยต้องวิ่ง 3-4 ครั้ง ค่อยๆฝึกฝนมาเรื่อยๆ จนวิ่งได้ 10 กม. ครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2559 หลังจากนั้นก็วิ่ง 10 กม. อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ความมุ่งมั่นในการขอทดลองลงแข่งมินิจึงเกิดขึ้น วิ่งได้ 10 กม. ครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2559 ทำไมต้องเลือกสนามแรกที่พระนครศรีอยุธยา? - ง่ายๆเลยคือ เรียนจบป.ตรี เอกประวัติศาสตร์มา ชอบวัดและโบราณสถานเก่าๆอยู่แล้ว ในใจคิดว่าไม่อยากเริ่มจากถนนหรือสวนสาธารณะในกรุงเทพฯ เห็นมีจัดที่อยุธยาก็เลยรีบสมัครเลย คิดว่าวิ่งในสถานที่ที่ชอบ ข้างทางสวยๆคงช่วยเราได้เยอะ การฝึกซ้อมก่อนไปแข่งมินิมาราธอน - ครั้งแรกที่วิ่ง ได้ระยะ 10 กม.ใช้เวลากว่า 1:07:15 ในใจคิดแต่ว่าถ้าอยู่ภายใน 1 ชม.จะดีมาก ก็ซ้อมมาเรื่อยๆ จนการซ้อมครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2559 วิ่งได้ 0:55:59 ดังนั้นเป้าหมายในการลงวิ่งมินิมาราธอนครั้งแรก จึงโดนตั้งไว้ว่าวิ่งให้เร็วกว่า 55 นาที เป็นแฮปปี้ วันแข่งมินิมาราธอน อยุธยามาราธอน 2016 - งานนี้ไปแข่งคนเดียว ไม่มีเพื่อนวิ่ง แต่อย่างใด จะมีก็แต่คุณน้ำ @Seasuree Jutasilparat ขาโหดสุดอึดที่เธอไปวิ่งระยะมาราธอน (42 กม.)(มีคนแข่งระยะนี้ 620 คน) ซึ่งตอนวิ่งไม่ได้เจอกันเลยเพราะระยะมาราธอนปล่อยตัวตั้งแต่ตี 4 ระยะมินิอย่างเราปล่อยตัวตอน 6 โมงเช้า พบไปถึงสถานที่ปล่อยตัวประมาณตีห้ากว่า โอ้วคนเยอะมาก เป็นจังหวะเค้ากำลังจะปล่อยตัวระยะฮาฟมาราธอน (21 กม.) (มีคนแข่งระยะนี้ 1,317 คน) แค่เดินเข้าไปก็ตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูก ไม่มีเพื่อน ไม่รู้จักใคร ก็เดินดูโน้นนี่ไปเรื่อยๆ ประชาสัมพันธ์ก็เริ่มประกาศว่าใกล้เวลาปล่อยตัวระยะมินิตอน 6 โมงเช้าให้ไปเข้าจุดปล่อยตัวก่อน 15 นาที มีคนแข่งขันระยะมินิมาราธอนทั้งสิ้น 2,937 คน โอ้วแม่เจ้า อย่างเยอะเลยยยยยยย แต่เราไม่ได้มาแข่งกับใคร เป้าหมายคือวิ่งให้จบภายใน 55 นาทีเท่านั้น ก็อ่ะสู้ๆ เดินไปเข้าจุดปล่อยตัว คนเยอะมาก ไม่มีทางที่จะเข้าไปใกล้มากกว่าที่ยืนอยู่ (อยู่ประมาณกลางๆแถว) พวกตัวแรงมือล่ารางวัลคงอยู่ด้านหน้า พอเริ่มปล่อยตัวเสียงปืนเสียงแตรดังเท่านั้นแหละ เค้าไม่ได้วิ่งกันครับ เค้าเดินเพราะขบวนยาวและติดมาก เมื่อเดินมาถึงจุดเริ่มนับเวลาถึงเริ่มวิ่งกัน (ห่างจากจุดที่ยืนรอประมาณ 70 เมตร) พอเริ่มวิ่งคนเยอะมาก เรามีเป้าหมายแข่งกับเวลาก็เริ่มต้องแซง วิ่งเป็นงูอยู่ซ้ายกลางขวาของถนนไปเรื่อยๆ แต่มีแกนนำวิ่งแบบเราเยอะ ก็วิ่งตามๆเค้าเอา 2 กม.แรก วิ่งเป็นงูตลอดเลย คนเยอะกลัวชนคนอื่น แต่ก็วิ่งไปเรื่อยๆ จนเริ่มเห็นมีคนเดิน คนเริ่มหายไปเรื่อยๆ (คนมักหายไปตรงจุดให้น้ำที่มีทุกๆ 2 กม.) จนได้เจอกับลุงเสื้อเทาคนหนึ่ง ที่ดูแล้วความเร็วของแกวิ่งพอๆกับเรา ก็เลยวิ่งตามหลังแกไปเรื่อยๆ พอกิโลที่ 4 มีจุดให้น้ำก็วิ่งหยิบแก้วน้ำ ดื่ม 1 อึกแล้วก็ล้างหน้า (ให้ความรู้นิดนึงตอนแรกๆที่วิ่งได้ 10 กม.ไม่เคยดื่มน้ำเลย ซึ่งเพื่อนๆที่วิ่งแนะนำว่าเป็นสิ่งอันตรายควรจะดื่มน้ำทุกๆ 2 กม. ไม่ต้องกลัวจุก เพราะเวลาเสียเหงื่อมากๆร่างกายต้องการน้ำมาก ตัวอย่างง่ายๆคือเวลาวิ่งแล้วคอแห้งแสดงว่าเริ่มขาดน้ำ) เล่าเรื่องลุงต่อ เริ่มก็วิ่งไปเรื่อยๆตามลุง วิ่งแซงคนอื่นบ้าง เจอฝรั่ง ตำรวจ ทหาร วิ่งแซงบ้าง วิ่งไปจนถึงกิโลเมตรที่ 5 ปรากฏว่า ลุงหยุดซะงั้น ลุงเริ่มหมด เราก็งงเพราะเห็นแกวิ่งสเตปดี วิ่งปกติ แต่หมดแรงเฉยเลย พอลุงแกหยุดเราก็ต้องหาคนเกาะกลุ่มต่อไป ที่ต้องหาคนเกาะกลุ่มเพราะว่าจะได้มีกำลังใจวิ่ง จะได้รู้จังหวะตัวเองว่าวิ่งแบบไหนอย่างไรดี อันนี้ถือเป็นข้อดีในการลงแข่งอย่างที่น้องๆเพื่อนๆหลายคนบอกจริงๆว่าจะทำให้เรามีแรงกระตุ้น ยิ่งพอเห็นคนวิ่งไม่ไหว คนเดินตอนระยะประมาณ 6 กิโลไปแล้ว เราก็ยิ่งฮึด เพราะเราจะไม่อยากเป็นแบบนั้น การแข่งขันอยุธยามาราธอนมีระบบความปลอดภัยค่อนข้างดีทุกโค้งทุกแยกมี อปพร. ตำรวจช่วยดูให้หมด ถนนตรงไหนแคบมีรถสวนก็มีคนดูให้ มีรถประกบดีเลยทีเดียว พอวิ่งไปถึงระยะ 8 กม. ก็เป็นไปตามที่ซ้อมคือต้องเริ่มเร่งเพื่อให้ทันเวลา 55 นาที ซึ่งคนอื่นๆก็น่าจะเป็นแบบเดียวกันเพราะพอเข้ากิโลที่ 8 ก็เริ่มสับกันเลย สับกันเร็วมากกกกก ยิ่งพอกิโลที่ 9 นี่วิ่งกันเหมือนไม่ได้วิ่งมา 9 กิโลกันเลยทีเดียว เราก็ยิ่งมีแรงใจในการวิ่งไปกับเค้า แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า พอวิ่งไปครบ 10 กิโล อ้าว! ยังไม่ถึงเส้นชัย ซึ่งก่อนมาวิ่งมีเพื่อนเตือนไว้แล้วว่าอยุธยามาราธอนระยะ 10 โลเค้าจะแถมสัก 500 เมตร ไอ้ 500 เมตรสุดท้ายเนี่ยถึงแม้จะสับอยู่แต่ก็เริ่มจะหมดแรงล่ะนะ จนถึง 400 เมตรสุดท้ายก็คิดในใจว่าอีกแค่ 1 รอบสนามบอลเอง ยังไงก็ต้องสับ แต่ขอบ่นกับคนข้างๆสักหน่อยว่ารายการนี้แถมเยอะนะครับ เค้าก็หัวเราะกับเราวิ่งสับเพื่อเข้าเส้นชัยกับเรา สุดท้ายก็สับแหลกจนเข้าเส้นชัย แฮปปี้ มีความสุข บอกไม่ถูก ไม่คิดว่าจะทำได้ พอเข้าเส้นแล้วดีใจมาก ยิ้มและภูมิใจกับตัวเองอยู่นานเลย มินิแรกฯ ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร วิ่งจบที่ 00:57:55 สรุปเวลาและสถิติเป็นอย่างไร? - สรุปคือการวิ่งมินิมาราธอนอยุธยามาราธอน 2016 ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร วิ่งจบที่ 00:57:55 ได้ที่ 183 จากผู้เข้าแข่งขัน 2,937 / ได้ที่ 156 จากผู้ชาย 1,585 คน / ได้ที่ 46 จากผู้ชายอายุ 30-39 613 คน ผลออกมาแฮปปี้มาก เพราะถ้านับ 10 กิโลเมตรจริงๆ วิ่งจบที่ 00:55:33 ตามเป้าคือ 55 นาที แถม Avg pace ทุกกิโลเมตร ขึ้นต้นด้วยเลข 5 ทั้งหมด (ยกเว้น 500 เมตรสุดท้ายเลข 4) สถิติคือความสุขที่ทำได้ ลำดับที่คือของแถมที่ไม่คิดว่าลงแข่งครั้งแรกจะติด 1 ใน 200 แถมในอายุเดียวกันติด 1 ใน 50 เข้าใจเลยว่าทำไมคนถึงชอบวิ่ง ประสบการณ์ครั้งนี้ล้ำค่าจริงๆ เข้าใจเลยว่าทำไมคนถึงชอบวิ่งหรือมาแข่งวิ่ง มันท้าทายร่างกายและจิตใจตัวเองมาก แถมสุขภาพก็ยังแข็งแรงอีกด้วย สำหรับใครที่อยากจะวิ่งหรือออกกำลังกายให้เริ่มเลยนะครับ ร่างกายเราไม่เคยรอใคร เวลาก็เช่นกัน เริ่มจากวันละนิด ขอให้เหงื่อได้ขับออกมาบ้างแล้วชีวิตคุณจะดีขึ้น สุดท้ายขอขอบคุณทุกคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดมินิมาราธอนครั้งแรกในชีวิต.......11 ธ.ค. 2559 (ปล.สุดท้ายที่คิดว่า "วิ่งในสถานที่ที่ชอบ ข้างทางสวยๆคงช่วยเราได้เยอะ" ไม่จริงเลย เพราะไม่มีเวลาดูวัดหรือโบราณสถานอะไรทั้งนั้น มองไปข้างหน้าอย่างเดียว 555