อื่นๆ
กลับด้วยคน

เรื่องที่ผมจะเล่าเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วโดยเกิดเรื่องขึ้นบริเวณวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ซึ่งอยู่ติดกับบ้านญาติที่เป็นเหตุทำให้เกิดเหตุการณ์ชวนขนลุกนี่ขึ้นมา
เริ่มเรื่องเลยนะครับ ตอนนั้นผมอายุประมาณ 15 ปีอยู่ช่วงเรียนม.ต้น แล้วหมู่บ้านที่ผมอยู่เขาจะมีลักษณะเวลาที่มีงานบุญ หรืองานศพก็จะยกกันไปช่วยบ้านงานกันนะครับ ก็เวลาบ้านใครมีงานต่างๆคนในหมู่บ้านก็จะไปช่วยกันบ้านละคนสองคนแล้วแต่ความสะดวก แล้วมีอยู่คืนหนึ่งประมาณตี 3 ครึ่งแม่เข้ามาปลุกผมบอกให้ขับรถมอเตอไซค์ไปส่งที่บ้านงานหน่อย ผมก็คิดในใจทำไมให้ไปส่งเช้าจัง แต่ด้วยความง่วง+อยากจะรีบไปส่งแล้วกลับมานอนผมก็รีบล้างหน้า แล้วขับมอเตอไซค์ขับพาแม่ไปบ้านงาน ซึ่งการจะไปบ้านงานมีเส้นทางสองเส้น เส้นแรกตัดผ่านวัดประมาณ 3-5 ร้อยเมตรจะถึงบ้านงานครับ แต่ถ้าอ้อมอีกเส้นนึงมันจะต้องไปอีกเกือบ 2กม. ผมเลยตัดสินใจขี่ผ่านวัดไปเลยเพราะอยากกลับไปนอน ด้วยความที่เราเคยเป็นเด็กวัดที่นี่มาก่อนคิดว่าคงไม่มีอะไร ภายในวัดที่ผมขับรถผ่านเข้าไปนั้นบริเวณด้านหน้าทางเข้าจะเป็นต้นตะเคียนยัก แล้วมีศาลกับชุดนางรำอยู่ ส่วนทางที่ใช้ตัดผ่านไปบ้านงานเป็นป่าช้าเก่าที่มีต้นไม้รกและสูง เวลาขี่เข้าไปจะวังเวงนิดนึงเพราะมีความมืดทึบพอสมควร แต่เราชินทางเลยขับประมาณ2-3นาทีก็มาถึงบ้านงาน สรุปแล้วที่แม่ให้ผมมาส่งเป็นบ้านงานศพ ซึ่งเป็นบ้านญาติผมเอง ผมก็ตะหงิดใจนิดนึงแต่ด้วยความอยากนอน พอผมส่งแม่เสร็จก็บิดรถกลับไปทางเดิมเลยเพราะระยะทางสั้นจะได้กลับไปนอนไวๆ ผมก็ขี่ผ่านป่าช้าเก่าทางที่เข้ามาตอนพาแม่มาส่ง แต่เริ่มรู้สึกเอะใจว่าขี่รถไปแต่ทางข้างหน้าเหมือนไม่มีทางออก ผมก็ขี่ไปเรื่อยๆตามความรู้สึกมันผ่านไปเกิน 5 นาทีแล้ว ทั้งๆที่เส้นนี้ขี่ไม่นานก็จะหลุดไปเส้นหลักขี่กลับบ้านได้เลย จากง่วงๆความกลัวมันเริ่มมาแทนที่ ด้วยบรรยากาศป่าช้าต้นไม้ทึบสูงทำให้มีอากาศเย็นวาบทั้งหลังเลยตอนนี้ ขับไปได้อีกสักแปปนึง ผมสังเกตุเห็นกระจกมองหลังมอเตอไซค์มันพับลงไปครับ ผมเลยดึงมันขึ้นมาเพื่อจะได้อยู่ในระดับสายตา แต่ผมก็ต้องตกใจ เพราะกระจกที่ผมหันมันขึ้นมาจากที่พับอยู่มันมีคนนั่งซ้อนท้ายมาด้วย แล้วด้วยไฟแดงจากท้ายรถมันตีขึ้นมาทำให้เห็นว่าเป็นผู้ชายใส่เสื้อลายสก๊อท คราวนี้ผมเครียดเลยครับเหงื่อเริ่มแตกขนหัวเริ่มลุกใจเต้นรัวๆ ขี่รถออกจากเส้นนี้ก็ไปไม่ถึงทางออก แล้วผมก็ไม่กล้างัดกระจกขึ้นสุดเพราะกลัวจะเห็นหน้าแล้วจะช๊อคทำให้คุมสติตัวเองไม่ได้ ตอนที่สถานการณ์มันแย่สุดๆผมนึกถึงคำแม่ว่าถ้าเจอสิ่งพวกนี้ให้ผมบอกกับเขาว่าจะอุทิศส่วนกุศลไปให้ ก็เลยบอกไปว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะทำบุญใส่บาตรไปให้นะครับ สิ้นเสียงรถผมขี่ทะลุมาที่ทางออกเลยจนเกือบจะพุ่งชนศาลเจ้าแม่ตะเคียนเพราะเราขับมาเร็วพอสมควร พอหลุดออกมาได้ผมรีบบิดกลับบ้านเลยครับ พอช่วงเช้าสักประมาณ 10 โมงแม่ผมมาปลุกบอกให้ผมไปถวายสังฆทาน ที่วัด ตอนนั้นหัวผมตั้งเลยเพราะมันน่ากลัวจริงๆแล้วก็ไม่รู้ว่าไคร แล้วจะตามผมกลับมาหรือเปล่า แต่ผมก็สงสัยว่าทำไมแม่ให้ผมไปถวายสังฆทานที่วัด ผมไปทำการถวายสังฆทานเสร็จหลวงพ่อก็เรียกขวัญให้ครับ
Advertisement
Advertisement
หลังจากนั้นก็ไม่เจออะไรอีกจนถึงวันเผาศพของญาติผม แม่ก็ชวนให้ไปงานเผาศพญาติ พอถึงตอนที่เขาไห้เปิดโลงดูหน้าศพครั้งสุดท้ายผมนี่เข่าอ่อนเลยครับ เสื้อของญาติผมที่นอนในโลงเป็นลายเดียวกับที่ผมเห็นตอนที่เลื่อนกระจกขึ้นมาครับแล้วแม่ผมก็ยังบอกอีกว่า วันที่ผมไปส่งแม่ตอนที่ผมรีบกลับบ้านเพื่อจะกลับไปนอน ตอนนั้นคนทั้งงานเห็นพร้อมกันหมดเลยครับว่าญาติที่เสีย นั่งรถมอเตอไซค์ผมไปด้วยแต่เรียกผมไม่ทันเพราะขับรถออกไปเร็วจึงทำให้ผมไปเจอเข้ากับตัวเองตอนที่ขี่ผ่านเข้าไปในป่าช้าเก่าภายในวัดนั่นแหละครับ
Advertisement
Advertisement
ความคิดเห็น






