อื่นๆ

กลิ่นหอมยามราตรี

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
กลิ่นหอมยามราตรี

เรือนไทยหลังใหญ่ตั้งตระหง่านล้อมรอบด้วยสวนมะพร้าวและต้นไม้นานาพันธุ์  มะขามอายุนับร้อยปี  ต้นจัน  ประดู่ป่าต้นสูงใหญ่ชนิดที่ต้องแหงนคอมอง  และต้นอินทนิลที่เจ้าของบ้านไม่ได้เป็นผู้ปลูก  อินทนิลต้นนี้ยืนตระหง่านอยู่บนแผ่นดินผืนนี้มานานเท่าไรไม่มีใครรู้  ด้วยกิ่งก้านสาขาที่แผ่กระจายสร้างร่มเงาให้พื้นที่ดูร่มรื่น  ทำให้เจ้าของบ้านตัดสินใจสร้างบ้านบริเวณนี้

บ้านโบราณหลังนี้หันหน้าสู่ทิศตะวันออกด้านหน้ามีลำคลองไหลผ่าน  ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรทางเรือมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ  แม้แต่ปัจจุบันนี้ก็ยังคงมีเรือขายของแล่นผ่าน   อาจไม่ครึกครื้นเท่าอดีตแต่ยังคงมีกลิ่นอายของบ้านสวนอยู่ไม่น้อย  ฝั่งขวาของตัวบ้านติดกับวัดมีเพียงลำกระโดงเล็กๆเป็นเส้นแบ่งเขตแดน  ด้วยความรกครึ้มของต้นไม้ที่รายล้อมและอยู่ติดกับวัดด้วยจึงเพิ่มความวังเวงให้กับเรือนไทยหลังใหญ่หลังนี้ไม่น้อย  แต่จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกลับเป็นเพราะเทคโนโลยีที่ทันสมัย 

Advertisement

Advertisement

ปัญหาส่วนใหญ่ของคนต่างจังหวัดคือสัญญาณอินเตอร์เน็ต    ที่มักขาดๆหายๆ ดังนั้นภายในบริเวณบ้านจะมีเพียงมุมเหมาะๆไม่กี่มุมที่สามารถรับสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้   เรือนไทยหลังใหญ่หลังนี้ก็เช่นกัน ไม่เว้นชายหนุ่มต่างถิ่นที่มารับจ้างดูแลชายสูงวัยเจ้าของบ้าน เขาจำเป็นต้องลงมาอาศัยโต๊ะหินอ่อนใต้ถุนบ้านเพื่อนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ  ผ่านไป  5 ทุ่มกว่าเขายังคงนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือที่โต๊ะหินอ่อน   แต่ทันใดนั้นจมูกของเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมจางๆที่ลอยมาตามสายลม  หอมหวานชวนสูดดมให้ชื่นใจ  จนเขาต้องละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่เขาจ้องอยู่เพื่อหาต้นต่อของกลิ่นหอม ไม่ใช่กลิ่นธูปที่เขาคุ้นเคย โดยพลันสายตาของของเขาสบกับร่างหญิงสาวผมยาวประบ่าในชุดสีขาวที่ยืนอยู่ใต้ต้นอินทนิลข้างบ้าน   เขามั่นใจว่าไม่ใช่คนแน่นอน  เรือนไทยหลังนี้มีผู้อาศัยคือคุณตาวัยเจ็ดสิบปีและเขาเท่านั้น   ชายหนุ่มลุกขึ้นทันทีเพื่อมองร่างนั้นให้ชัดเจน  แต่ร่างนั้นกลับลอยถอยห่างเขาออกไปอย่างช้าๆ   ความกลัวเริ่มเข้ามาเกาะกุมหัวใจของเขาในนาทีนั้น  ทำให้เขารีบขึ้นเรือนใหญ่ทันที  แต่เมื่อเวลาผ่านไปความกลัวก็จางหายไปตามเวลา  จากที่ไม่กล้านั่งเล่นข้างล่างคนเดียวเขาก็เริ่มกลับมานั่งอีกครั้ง  แต่แล้วก็ถึงวันที่เขาต้องพบเจอกับสิ่งลี้ลับก็มาถึง  ตีหนึ่งแล้วเขายังคงนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่โดยไม่ได้สนใจบรรยากาศรอบตัว    แต่แล้วกลิ่นหอมเย็น  จะว่าเป็นกลิ่นดอกไม้ก็ไม่ใช่กลิ่นธูปก็ไม่เชิง   หอมจนเขาต้องเงยหน้ามอง  ทันใดนั้นภาพความทรงจำของเหตุการณ์วันนั้นก็กลับมา   ที่ใต้ต้นอินทนิลเขาก็ได้พบกับหญิงสาวคนเดิมจริงๆ ร่างในชุดขาวผมยาวประบ่า   ผิดกันที่คราวนี้หญิงสาวคนนั้นกำลังยืนมองเขาอยู่แล้ว  เหมือนตกอยู่ในภวังค์   เขายืนขึ้นพร้อมกับก้าวขาเดินตามหญิงชุดขาวคนนั้น  เดินอย่างไร้สติ นานเท่าไรไม่รู้  แต่แล้วอยู่ดีๆเข้าต้องสะดุ้งสุดตัวเพราะเสียงสุนัขที่เขาเลี้ยงไว้พากันเห่าหอนระงมราวกับจะช่วยดึงสติของเขาให้กลับมา   เขาพบว่าตัวเองเดินออกจากบ้านและมุ่งหน้าสู่ถนน  และเพียงไม่ถึง 5 เมตรเท่านั้นเขากำลังจะถึงถนนใหญ่   เส้นขนทุกเส้นในร่างกายเขาลุกชัน  เมื่อสติของเขากลับมาครบบริบูรณ์เขาบอกตัวเองให้หันหลังและวิ่งไปจากจุดนี้ให้เร็วที่สุด

Advertisement

Advertisement

ทุกวันนี้อินทนิลต้นนั้นยังคงยืนต้นอยู่เช่นเดิม  ไม่มีใครรู้ว่าหญิงสาวตนนั้นคือใครมาจากไหน  กลิ่นหอมที่เขาได้กลิ่นก่อนพบเธอมีความหมายอย่างไร   และเธอต้องการอะไร  หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเขาไม่เคยพบเธออีกไม่ว่าจะลองอยู่ดึกดื่นแค่ไหน  สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำให้หญิงสาวตนนั้นคือ  เมื่อมีโอกาสทำบุญทุกครั้งเขาจะอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับหญิงสาวชุดขาวที่มาพร้อมกลิ่นหอมใต้ต้นอินทนิล

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์