อื่นๆ
คำสัญญา

พรกับรุ่งแต่งงานอยู่กินกันมาได้หลายปีและมีลูกด้วยกันหนึ่งคนอายุเพียง 1 ขวบ ด้วยความที่ทั้งสองมีฐานยากจนรุ่งจึงตัดสินใจเข้าไปทำงานที่กรุงเทพและสัญญากับพรว่าจะทำให้พรและลูกสบาย จะส่งเงินมาให้ทุกเดือน จะส่งจดหมายมาหาบ่อย ๆ
เพียงหนึ่งปีรุ่งก็จะกลับมาอยู่บ้าน วันรุ่งขึ้นพรกับลูกก็พากันไปส่งรุ่งขึ้นรถไปเข้ากรุงเทพฯ รุ่งเป็นคนขยันขันแข็ง เอาการเอางานและไม่เกี่ยงงาน ทำให้เป็นที่รักใคร่ของเถ้าแก่ จนได้รับความไว้วางใจให้รุ่งเป็นหัวหน้างาน ทำให้รุ่งมีเงินส่งเสียให้ลูกเมียมากขึ้น รุ่งเขียนจดหมายถึงพรทุกสัปดาห์ เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้พรฟังอยู่ตลอดผ่านตัวหนังสือที่เขียนไปทางจดหมาย
ทางด้านพรและลูกก็เฝ้ารอคอยให้เวลาผ่านไปครบปีเพื่อที่รุ่งจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันพ่อแม่ลูก และแล้วเวลาที่พรกับรุ่งรอคอยก็มาถึง เพราะอีกแค่เพียงสัปดาห์เดียวก็จะครบกำหนดที่รุ่งจะกลับบ้านแล้ว พรและลูกดีใจมากและอยากให้เวลาผ่านไปเร็ว ๆ ซึ่งรุ่งเองก็รู้สึกไม่ต่างกันอยากจะกลับบ้านไปนอนกอดลูกกอดเมียเต็มที รุ่งซื้อของฝากใส่ไว้เต็มกระเป๋าหวังจะให้พรกับลูกได้กินได้ใช้ของดี ๆ ที่ซื้อมาแถวตลาดเยาวราช
Advertisement
Advertisement
และก็มาถึงวันที่รุ่งจะได้เดินทางกลับบ้าน พรได้พาลูกมานั่งรอรถไฟที่สถานีแต่รถไฟแล่นผ่านไปหลายขบวนก็ยังไม่เห็นวี่แววของรุ่ง พรกับลูกนั่งรอจนค่ำ รถไฟขบวนสุดท้ายก็ได้จอดที่สถานีแต่ก็ไม่เห็นรุ่งเลย พรจึงพาลูกกลับบ้านด้วยความผิดหวัง และตั้งใจว่าวันพรุ่งนี้ จะพาลูกมานั่งรออีกเผื่อว่ารุ่งอาจจะเลื่อนวันกลับ แต่พอกลับไปถึงบ้านพรเห็นรุ่งยืนรออยู่หน้าบ้าน พรดีใจมากรีบพาลูกเข้าไปกอดรุ่งด้วยความคิดถึง แต่รุ่งกลับยืนให้กอดนิ่ง ๆ ไม่ได้พูดทักทายเมียกับลูกเท่าไรนักและดูหน้าซีด ๆ
พรได้ถามไปว่า " พี่มายังไงจ๊ะ พรกลับลูกไปนั่งรอที่สถานีรถไฟไม่เห็นเจอพี่เลย "
รุ่งจึงตอบกลับไปว่า " พี่มารถทัวส์น่ะ " รุ่งพูดมาด้วยเสียงอันเบา
พรเข้าใจว่ารุ่งคงเหนื่อยจึงพากันเข้ามาในบ้าน แต่รุ่งบอกกับพรว่า " คืนนี้พี่ขอนอนในกระต๊อบหน้าบ้านนะ เพราะพี่ไม่สบายกลัวพรกับลูกจะติดไข้ " พรได้ยินดังนั้นจึงพอลูกเข้าบ้านและให้รุ่งได้นอนพักผ่อน
Advertisement
Advertisement
วันต่อมาพรรีบตื่นแต่เช้าแล้วลงมาดูว่ารุ่งอาการดีขึ้นหรือยัง แต่กลับไม่พบรุ่งจึงเข้าไปนั่งรอในบ้านเพราะคิดว่ารุ่งคงออกไปเดินเล่นแถว ๆ บ้าน พรนั่งรอจนสายก็ยังไม่เห็นรุ่งกลับมาจึงรู้สึกเป็นห่วงกำลังจะออกไปตามหา ขณะที่กำลังจะออกจากบ้าน ก็มีรถมูลนิธิมาจอดหน้าบ้านและถามว่านี่ใช่บ้านของรุ่งหรือไม่ พรก็ตอบว่าใช่ คนขับรถจึงยื่นเอกสารให้พรอ่าน หลังจากที่อ่านแล้วพรก็ถึงกับเป็นลมหงายหลังไป เพราะรถมูลนิธิคันนี้ได้ขนศพของรุ่งกลับมาด้วยและในเอกสารก็ระบุว่ารุ่งเสียชีวิตแล้วตั้งแต่เมื่อวานจากอุบัติเหตุรถชน พรร้องหายเสียใจเหมือนคนเสียสติ
จากนั้นก็มีรถกระบะมาจอดต่อท้ายรถมูลนิธิ คนที่เดินลงมาจากรถเป็นเถ้าแก่ของรุ่ง ได้ถือกระเป๋าเป้ใบใหญ่มาให้พร และบอกพรว่านี่คือของที่รุ่งตั้งใจจะนำมาฝากพรกับลูก หลังจากที่พรเริ่มตั้งสติได้ เถ้าแก่ของรุ่งก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พรฟังว่า รุ่งโดนรถชนตายตั้งแต่เมื่อวานเถ้าแก่เป็นคนรับศพรุ่งมาเอง
Advertisement
Advertisement
พรจึงบอกว่า "จะเป็นไปได้ยังไงจ๊ะ ในเมื่อพี่รุ่งกลับมาตั้งแต่เมื่อคืน พรกับลูกยังเข้าไปกอดพี่รุ่งอยู่เลย "
เถ้าแก่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับสะดุ้งและบอกพรไปว่า "รุ่งมันคงห่วงพรกับลูก ตั้งแต่ทำงานมารุ่งขยันทำงานและใช้จ่ายอย่างประหยัด รุ่งพูดอยู่เสมอว่า จะเก็บเงินไว้ให้ลูกกับเมียให้ได้มากที่สุด เพราะสัญญากับเมียไว้ว่าจะทำให้เมียกับลูกสบาย "
เถ้าแก่ผู้จบก็ให้พรเปิดกระเป๋าออกมาดู ก็มีของฝากเต็มกระเป๋าจะมีสมุดบัญชีเล่มหนึ่งไม่น่าเชื่อว่ารุ่งจะเก็บเงินได้มากขนาดนี้ ยิ่งเห็นดังนี้พรยิ่งร้องให้หนัก และสงสารรุ่งมาก เพราะรู้ว่ารุ่งไม่มีวันกลับมาอีกแล้วถึงแม้ว่ารุ่งจะทำคำสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะทำให้พรกับลูกอยู่อย่างไม่ลำบาก และถึงแม้จะมีเงินอยู่จำนวนมาก แต่ก็ทดแทนกับการที่ต้องเสียรุ่งไปไม่ได้เลย
ความคิดเห็น
