ตู้เย็นมือสอง

         เจิดนำทีวีมาซ่อมที่ร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าของโจ้ที่เป็นร้านประจำ เจิดเป็นคนใช้จ่ายประหยัด เวลามีเครื่องใช้ในบ้านเสียเขาก็จะเอามาซ่อมก่อน  หากซ่อมไม่ได้จริงๆ จึงจะซื้อใหม่  แต่จะเลือกซื้อของมือสองเพราะราคาถูกกว่า  ระหว่างที่นั่งรอโจ้ซ่อมทีวีให้อยู่นั้นเขาก็มองไปเห็นตู้เย็นมือสองสภาพดี  ปิดป้ายประกาศขายในราคาที่ถูกมากแค่พันกว่าบาท  เขาจึงรีบขอซื้อตู้เย็นหลังนี้ทันที เพราะที่บ้านเขาก็ยังไม่มีตู้เย็นใช้  เขาดีใจมากที่ได้ตู้เย็นหลังนี้มาในราคาถูกแถมบริการส่งฟรีอีกต่างหาก

          เมื่อกลับมาถึงบ้านเขาก็รีบอวดให้ภาเมียของเขาดูด้วยความตื่นเต้น ภาก็ยืนมองแล้วทำหน้ายิ้มๆ ที่เห็นท่าทางเจิดดูร่าเริง จากนั้นภาจึงนำผัก และอาหารสดมาแช่ตู้เย็น และพูดว่า “ดีจังเลยนะ เราได้ตู้เย็นดีๆ ถูกๆ มาใช้  สภาพก็ใหม่มากๆ ด้วย” เจิดจึงตอบมาว่า “ใช่ เราโชคดีมาก นี่ถ้าเราไปซื้อของใหม่ต้องราคาเป็นหมื่นแน่ๆ ” เมื่อคุยกันจบทั้งสองก็กินข้าวแล้วพากันเข้านอน ขณะนอนอยู่เจิดได้ยินเหมือนเสียงใครมาเคาะอะไรสักอย่างดัง ป๊อกๆ ป๊อกๆ ป๊อกๆ  เจิดจึงลุกขึ้นมาดูว่าเสียงมาจากที่ไหน พยายามเดินหารอบบ้านก็ไม่เจอที่มาของเสียง จึงกลับเข้ามานอน และหลับไปจนเช้า

          พอเช้ามาเจิดได้เล่าให้ภาฟังว่า “เมื่อคืนเจิดได้ยินเสียงเคาะอีกจึงได้ลุกไปดูอีกที ก็ได้ยินว่าเสียงออกมาจากตู้เย็น เจิดจึงได้เปิดตู้เย็นดู เห็นหัวคนวางอยู่ในตู้เย็น เจิดตกใจถอยออกมากำลังจะวิ่งเข้าห้องก็เห็นร่างผู้หญิงเดินออกมาจาตู้เย็น เจิดจึงรีบวิ่งเข้าห้องทันทีแล้วมาปลุกภาเมื่อคืนนั่นแหล่ะ”  ภากับเจิดจึงปรึกษากันว่าจะเอาตู้เย็นไปทิ้ง เพราะคิดว่าตู้เย็นหลังนี้ต้องมีประวัติไม่ดีแน่ๆ พอดีว่าช่างโจ้เจ้าของร้านซ่อมเครื่องใช้ไปฟ้าได้มาที่บ้านเจิดกับภา และบอกว่ามีคนมาขอซื้อตู้เย็นคืน เพราะจะเอาไปทำพิธีส่งวิญญาณ เจิดจึงถามไปว่า “วิญญาณอะไร”  ช่างโจ้จึงตอบว่า “เห็นคนที่มาซื้อคนเขาบอกว่าเป็นหลานของเจ้าเก่าตู้เย็นหลังนี้ ที่ถูกฆ่าหั่นศพแล้วเอายัดไว้ในตู้เย็น พอดีเขาฝันว่าวิญญาณของคนตายยังไม่ไปสู่สุขติ ยังอยู่ในตู้เย็น จึงอยากจะเอาตู้เย็นกลับไปทำพิธีส่งวิญญาณ” เมื่อเจิดกับภาได้ยินดังนั้นจึงรีบขายคืนตู้เย็นด้วยความยินดี แถมคนที่ซื้อคืนยังแถมเงินให้เจิดไปซื้อตู้เย็นใหม่อีก หลังจากนั้นเจิดก็ไม่กล้าที่จะซื้อของเก่าราคาถูกมาใช้โดยที่ไม่เช็คประวัติอีกเลย