อื่นๆ
บ้านผีตายโหง

โจ้และรินชื่นชอบบ้านเช่าหลังใหม่เป็นอย่างมาก ทั้งภายนอกและภายในสวยงาม อยู่หัวมุมติดถนน แถมราคาค่าเช่ายังถูกมาก ไม่ง่ายเลยที่จะหาบ้านเช่าในเมืองดีๆ ราคาถูกแบบนี้ได้ เพียงแต่บรรยาดูเงียบเหงาไปหน่อยไม่ค่อยมีเพื่อนบ้านสักเท่าไร แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับโจ้กับรินที่เพิ่งแต่งงานกันจะย้ายมาทำงานที่ราชบุรี เมื่อขนสัมภารพต่างๆ เข้ามาในบ้านเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็ค่อยๆ จัดเก็บสัมภาระจนเข้าที่เรียบร้อย เวลาก็ผ่านไปจนค่ำ โจ้จึงขับรถออกไปหาซื้อกับข้าวมแถวหน้าปากซอย ส่วนรินขอทำงานต่อในบ้านลำพัง ระหว่างที่รินขึ้นไปเปลี่ยนผ้าม่านอยู่ที่ชั้นสองนั้น ก็เห็นผู้ชายยืนอยู่ตรงถนนหน้าบ้านแต่รินก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าคงเป็นคนในหมู่บ้าน พอหันไปมองอีกทีก้ไม่เห็นชายคนนั้นแล้ว
เมื่อโจ้กลับมาถึงก็ชวนรินมานั่งกินข้าวกันสองคนตามประสาผัวเมีย ระหว่างกินข้าวกันก็ได้ยินเสียงมีคนมาเคาะประตูบ้านแต่พอโจ้ไปเปิดประตูก็เห็นแค่หลังคนไวๆ เดินออกไปแล้ว รินจึงถามโจ้ว่าใครมา โจ้จึงตอบกลับไปว่า " ส่งสัยมาเคาะผิดบ้านนะ เดินออกไปแล้วล่ะ " หลังจากกินข้าวเสร็จกันเสร็จ ทั้งสองก็เข้าห้องอาบน้ำนอนที่ชั้นสอง เมื่อนอนไปได้สักพักทั้งสองก็ได้ยินเหมือนเสียงคนคุยกันอยู่ที่ชั้นล่าง โจ้จึงเดินลงมาดูเพราะอาจลืมปิดทีวีไว้ แต่พอลงมาดู กลับไม่มีเสียงอะไร ทีวิก็ปิดไว้แล้ว โจ้จึงเดินกลับขึ้นห้องนอน ขณะที่กำลังจะนอนโจ้เดินอ้อมเตียงเปิดผ้าม่านเพราะแสงไฟส่องถนนส่องเข้ามา สายตาได้เหลือบมองไปเห็นชายคนหนึ่งยืนบนถนน และเดินออกไปทางหน้าหมู่บ้าน โจ้ก็ไม่ได้สนใจอะไร จึงปิดผ้าม่านแล้วลงมานอนต่อ
Advertisement
Advertisement
เช่าวันรุ่งขึ้นโจ้ก็บอกรินว่า " มีผู้ชายท่าทางแปลกๆ มายืนตรงถนนหน้าบ้านเราด้วยนะ " รินก็ตอบกลับไปว่า " จริงหรอค่ะ เมื่อตอนหัวค่ำรินก็เห็นเหมือนกันนะ แต่คิดว่าคงจะเป็นคนในหมู่บ้าน " โจ้จึงถามรินไปอีกว่า " แล้วรินรู้สึกว่าบ้านหลังนี้มันมีอะไรแปลกๆ บ้างหรือป่าว เมื่อคืนได้ยินเสียงคนคุยกัน คิดว่าเปิดทีวีทิ้งไว้แต่พอลงมาดูกลับไม่มีอะไร " รินจึงตอบว่า " มันก็แปลกอยู่นะค่ะ แต่รินว่าดูจากสภาพบ้านหลังนี้คงไม่มีอะไรหรอก หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พากันออกไปทำงาน และครับมาอีกทีในตอนค่ำ
เมื่อขับรถเข้ามาถึงบ้านก็เห็นผู้ชายคนเดิมยืนอยู่ตรงถนนหน้าบ้าน จึงรีบเลี้ยวรถเข้ามาจอดในบ้านแล้วรีบลงรถเพื่อออกไปถามชายคนนั้นว่าเป็นใคร แต่พอเดินออกมาจากรั้วบ้านก็ไม่เห็นชายคนนั้นแล้ว ทำให้รู้สึกว่ามันเริ่มมีอะไรแปลกๆ จึงเดินกลับเข้ามาในบ้านเห็นรินยืนนิ่งอยู่หลังโซฟา โจ้จึงถามว่ารินเป็นอะไร รินจึงตอบว่า " เมื่อกี้ตอนรินเดินมาเปิดไฟ ไฟมันกระพริบแล้วรินเหมือนเห็นคนนั่งอยู่บนโซฟาเลยอะค่ะ " โจ้จึงบอกว่า " รินน่าจะตาฝาดรึป่าว ไม่มีอะไรหรอก หาข้าวกินกันดีกว่า " ระหว่างที่รินจัดกับข้าวที่โต๊ะอาหาร โจ้เดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องนอน ตอนนั้นทำให้รินต้องยืนตัวชาขาแข็งอีกครั้งเมื่อเห็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งเดินขอเอียงตามหลังโจ้ขึ้นบันไดไป จนต้องตะโกนเรียกโจ้ " โจ้ ลงมาก่อนอย่าขึ้นไป รินกล้ว " โจ้หันมามองรินที่ท่าทางหวาดกลัว ตัวสั่นน้ำตาไหลและรีบวิ่งลงบันไดมาที่รินพร้อมกับจับตัวรินเขย่าแล้วถามว่า " ริน เป็นอะไร " รินก็ตอบมาว่า รินเห็นผีที่บันได " โจ้มองไปที่บันไดและบอกรินไปว่า " ไม่เห็นมีเลยริน รินคงเหนื่อยไปนั่งพักที่โซฟาก่อนนะ เดี๋ยวโจ้ไปเอาน้ำเย็นๆ มาให้กิน " ขณะที่โจ้พารินไปนั่งที่โซฟาก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น โจ้รีบไปเปิดประตูทันที แต่ก็ไม่เห็นใคร เมื่อหันกลับมาหารินทำให้โจ้แทบล้มหงายหลัง เมื่อเห็นชายคนหนึ่งเลือดท่วมตัว มีมีดปักอยู่ที่คอ นั่งอยู่ข้างรินบนโซฟา โจ้รีบบอกให้รินวิ่งมาหาโจ้ทันที ทั้งสองกอดกันแน่ ทันใดนั้นก็มีร่างของผู้หญิงเดินออกมาจากห้องนอนชั้นสอง แล้วเอาเชือกมาผูกคอตัวเองห้อยอยู่ที่ราวบันได ทั้งสองหวาดกลัวและตกใจ พากกันวิ่งออกมาหน้าบ้าน เห็นชายคนที่ยืนอยู่บนถนน โดนรถขับมาชนร่างกระเด็นมานอนคว่ำหน้าอยู่ตรงหน้าของทั้งสองแล้วลุกขึ้นมายืนหน้าเละ แขนขาหักผิดรูปไปหมด ทั้งสองจึงประครองกันวิ่งหนีจนไปถึงป้อมยามหน้าหมู่บ้าน และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ยามหน้าหมู่บ้านฟัง
Advertisement
Advertisement
ยามหน้าหมู่บ้านได้บอกว่า ไม่คิดว่าเจ้าของโครงการจะให้คนไปเช่าบ้านหลังนั้น เพราะบ้านหลังนั้นผีเฮี้ยนมาก บ้านใกล้ๆ ก็พากันย้ายหนีไปหมด โจ้จึงถามด้วยน้ำเสียงหอบเหนื่อยว่า " ทำไมถึงมีผีหรอครับบ้านก็ออกจะดูใหม่ " ยามจึงเล่าว่า เมื่อหลายปีก่อน มีสามีภรรยาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้น ต่อมาภรรยามีชู้ แล้วชู้มาฆ่าสามีตายโดยเอามีมาแทงปักที่คอแล้วนำศพไปฝังหลังบ้าน แล้วอยู่ๆ ชายชู้เกิดเสียสติวิ่งออกมานอกบ้านทำให้รถชนตายคาที่ในคืนนั้น ส่วนภรรยาเสียใจมาจึงผูกคอตายกับราวบันไดในบ้าน เมื่อได้ฟังเหตุการณ์ดังนั้น รินกับโจ้จึงขอย้ายออกทันทีในวันรุ่งขึ้น และนั่นก็เป็นประสบการณ์ที่ทั้งสองไม่มีวันลืม
ความคิดเห็น
