อื่นๆ
ผีกำนัน

เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นมานานหลายสิบปีแล้วที่ลุงผวนที่เป็นลุงแท้ๆ ของผมได้เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนหมู่บ้านแถวๆ นี้มีบ้านคนไม่กี่หลังแต่ละหลังก็อยู่ห่างกันมาก พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นป่าเป็นห้วยเสียส่วนใหญ่ มีสัตว์ป่าให้ล่าเต็มไปหมด ถนนหนทางก็มีแต่ดินลูกรังแดงๆ เดินทางไปไหนมาไหนลำบากโดยอาศัยรถสองแถวที่วันหนึ่งจะวิ่งรับส่งคนแ่คสองเที่ยวคือเช้ากับบ่าย แต่ก็จะมีบ้านบางหลังที่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็จะอาศัยขี่จักรยานกัน สมัยนั้นลุงยังเด็กๆ ก็มักจะชอบไปวิ่งเล่นกับหลานของกำนันแจ้เพราะบ้านอยู่ติดกันและกำนันแจ้ก็เป็นคนใจดี เวลาลุงผวนไปวิ่งเล่นก็มักจะมีผลหมายรากไม้มาให้กินอยู่เป็นประจำ กำนันแจ้แกเป็นคนดีชาวบ้านต่างเคารพนับถือแก ด้วยความที่เป็นคนชอบช่วยเหลือคน เวลาใครมีเรื่องราวทุกข์ร้อนมาปรึกษากำนันแจ้ก็จะคอยปรับทุกข์และให้ความช่วยเหลืออย่างไม่เคยปฏิเสธ
Advertisement
Advertisement
มีอยู่วันหนึ่งได้เกิดมีพายุฝนตกหนักฟ้าร้อง น้ำไหลเอ่อนองตามพืันถนนแล้วมีควายของชาวบ้านฝูงหนึ่งตกใจเสียงฟ้าร้องจนตื่นคะนองแหกคอกออกไปทั้งฝูง ชาวบ้านจึงมาขอให้กำนันแจ้ช่วยพาคนออกช่วยตามควายกลับมา กำนันแจ้รีบตอบรับและรวบรวมคนในหมู่บ้านเพื่อแกะรอยตามควายทันที ก่อนที่ฝูงควายจะเตลิดเข้าป่าไปไกล ลุงผวนเล่าว่ากำนันแจ้ออกเดินทางไปพร้อมกับชาวบ้านประมาณเจ็ดแปดคน และพกปืนลูกซองกับปืนแก๊ปติดตัวไปด้วยคนละกระบอก ซึ่งพ่อของลุงผวนที่เป็นปู่ของผมก็ได้ติดตามกำนันแจ้ไปในครั้งนี้ด้วย ด้วยสภาพที่ฝนตกชื้นแฉะแถมยังเป็นป่ารก ทำให้ทีมค้นหาของกำนันแจ้เดินทางได้ลำบาก จนตกเย็นกำนันแจ้ได้พาชาวบ้านทีมค้นหากลับมาเพื่อเตรียมสะเบียงแล้วจะตามต่ออีกทีในวันรุ่งขึ้น เพราะตอนกลางคืนในป่าอันตราย และในวันพรุ่งนี้หากยังตามไปพบก็จะค้างแรมกันในป่า พอย่ำรุ่งกำนันแจ้ก็ได้นำกำลังพลออกเดินทางเข้าป่าแต่เช้า ต่างหวังว่าจะตามควายฝูงนั้นกลับมาได้โดยเร็ว และขอให้ทุกคนปลอดภัยกลับมา
Advertisement
Advertisement
ลุงผวนเล่าต่อว่าค่ำวันนั้นทีมคนหาของกำนันแจ้ก้ได้พาฝูงควายกลับมาได้ครบทุกตัว แต่สภาพของทีมค้นหาแต่ละคนก็มอมแมมกันน่าดู และทุกคนก็ไม่ได้ยินดีกับภาระกิจครั้งนี้นัก เพราะสิ่งที่ทีมค้นหาแบกกลับมาด้วยนั้นคือ ร่างของกำนันแจ้ที่นอนอยู่บนแปลหามมาแบบไม่มีลมหายใจ ปู่ของผมได้บอกกับชาวบ้านว่า กำนันแจ้เสียชิวิตแล้วเนื่องจากพลัดตกลงไปในเหว กว่าจะดึงขึ้นมาได้กำนันก็สิ้นใจเสียแล้ว ชาวบ้านทุกคนต่างก็อาลัยและเสียใจต่อการเสียชีวิตของกำนันแจ้เป็นอย่างมาก เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุสลดขึ้นกับกำนันแจ้แบบนี้ ทุกคนจึงช่วยกันจัดงานศพให้กำนันแจ้กันอย่างดีที่สุดเท่าที่จะช่วยได้ วันนั้นลุงผวนถึงแม้จะเป็นเด็กอยู่ แต่ก็พอจะช่วยงานได้ลุงจึงไปช่วยจัดเตรียมสถานที่สำหรับรดน้ำศพกำนันแจ้ แล้วพวกผู้ใหญ่ก็แบ่งงานกันทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งแต่ละคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี คืนนั้นบรรยากาศในหมู่บ้านเงียบเหงามากทุกคนมารวมตัวที่งานศพกันหมด พอถึงเวลาพระก็เริ่มสวดเป็นคืนแรกมีชาวบ้านมานั่งฟังพระสวดกันแน่ศาลา หลังจากเสร็จพิธีในคืนนั้นแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านเหลือเพียงญาติของกำนันแจ้ที่อยู่เฝ้าศพที่วัด เมื่อถึงบ้านลุงผวนกำลังจะเตรียมตัวเข้านอน ก็มองไปที่บ้านกำนันแจ้ด้วยความอาลัยและคิดถึงเพราะอยู่บ้านติดกันและคุ้นเคยกันมา แต่ขณะที่มองไปที่บ้านของกำนันแจ้นั้น ลุงผวนก็ต้องเอามือมาขยี้ตาอย่างไว เพราะภาพที่เห็นคือกำนันแจ้กำลังนั่งอยู่บนแคร่ไม้น้าบ้านตัวตรงนิ่ง ลุงผวนตกใจมากและคิดว่าต้องเป็นผีกำนันแจ้แน่ๆ จึงรีบหลบหน้าเข้ามาทางขอบหน้าต่างในห้อง แล้วค่อย ๆชะโงกหัวออกมาดูอีกครั้ง ครั้งนี้ทำให้ลุงผวนต้องตกใจหนักกว่าเดิมเพราะกำนันแจ้หันหน้ามามองที่ลุงผวนพร้อมกับส่งยิ้มให้ ลุงผวนจึงตะโกนร้องเรียกปู่อย่างดัง " พ่อๆ ผีหลอก พี่กำนันแจ้หลอก " ปู่รีบวิ่งออกมาดูก็ไม่เห็นอะไร จึงยกมือพนมไหว้บอกกล่าว " พี่กำนันไปดีเถิดหนา อย่าทำให้เด็กกลัวเลย พวกชาวจะช่วยกันจัดงานศพของพี่กำนันให้ดีที่สุด " จากนั้นปู่ก็พาลุงเข้านอน พอตอนเช้าไปที่วัดชาวบ้านก็พากันมานั่งคุยกันว่า กำนันแจ้ คงจะยังเป็นห่วงชาวบ้านเพราะเมื่อคืนมีชาวบ้านเห็นกำนันแจ้เดินไปมารอบหมู่บ้าน แต่ก้ไม่มีใครกลัว ต่างก็ยกมือไหว้บอกกล่าวให้แกไปดีแล้วแกก็หายไป และเมื่อเสร็จจากงานเผาศพกำนันแจ้ ก็ไม่เคยมีใครเห็นวิญญาณของแกอีกเลย.......................
ความคิดเห็น
