อื่นๆ
วินมอเตอร์ไซต์เจอผี

แจ้มีอาชีพขับวินมอเตอร์ไซต์อยู่แถวๆ สถานีรถไฟ เขาเป็นคนไม่มีครอบครัว เขาจึงมักจะนั่งรอผู้โดยสารดึกๆ อยู่เป็นประจำ เพราะบางครั้งมีคนลงจากรถไฟมาดึกๆ หารถโดยสารไม่ได้ แจ้ก็จะรับอาสาไปส่งให้ ใกล้ไกลก็ไปหมด แค่คุยตกลงราคากันได้ก็ไม่มีปัญหา ซึ่งสำหรับต่างจังหวัดแล้วเวลาดึกๆ ถึงแม้จะเป็นในเมืองก็หารถโดยสารได้ยากมาก ทำให้แจ้รู้สึกว่าการอยู่รอจนถึงดึกๆ ก็ทำให้เขามีรายได้ทีดีมากด้วย
วันหนึ่งในขณะที่แจ้กำลังนั่นรอผู้โดยสารอยู่นั้น เขาก็เห็นสาววัยรุ่นคนหนึ่งเดินลงมาจากรถไฟ ทำท่าชะเง้อเหมือนกำลังมองหารถ แจ้จึงยกมือเพื่อส่งสัญญาณว่า จะใช้บริการหรือป่าว ซึ่งเมื่อหญิงสาวคนนั้นเห็นแล้วก็พยักหน้า แจ้จึงรีบวิ่งไปช่วยยกกระเป๋าเป้ในมือเธอ และพามาที่รถมอเตอร์ไซต์ของเขาทันที พร้อมกันถามว่า “จะไปไหนหรือคับ”
Advertisement
Advertisement
หญิงสาวได้ตอบว่า “ไปหมู่บ้านที่อยู่หลังสวนตาลอีกฝั่งของแม่น้ำค่ะ”
แจ้จึงตอบว่า “เปลี่ยวน่าดูเลยนะครับ โชคดีนะที่เจอพี่ ไม่งั้นแย่แน่”
หญิงสาวได้ตอบว่า “ใช่ค่ะโชดดีมากเลย พี่คิดราคาเท่าไรหรอ”
แจ้ตอบไปว่า “80 บาท ครับ ห้ามต่อนะ มันดึกแล้ว ทางมันเปลี่ยว”
หญิงสาวจึงตอบตกลงว่า “ได้จ๊ะ งั้นไปเลยค่ะพี่”
จากนั้นแจ้ก็รีบปิดมอเตอร์ไซต์ฝ่าความมืดไปทันที ซึ่งทางเส้นนั้นก็เปลี่ยวมากจริงๆ แถมยังมืดมาก เป็นทางเล็กๆ ที่อยู่ในดงตาล ระหว่างที่ขับอยู่เค้ารู้สึกว่าบรรยากาศมันน่ากลัวพิลึกจึงพยายามชวนหญิงสาวผู้โดยสารของเขาคุย โดยเขาได้ถามไปว่า “มาจากไหนหรอน้อง นั่งนิ่งไปพูดไม่จาเชียว”
หญิงสาวก็ตอบมาว่า “มาจากชุมพรค่ะ ไปเที่ยวมา ขึ้นรถไฟกลับมาหลายวันแล้ว แต่มีปัญหานิดหน่อยเลยพึ่งมาถึง”
แจ้ก็พูดต่อว่า “แถวนี้เปลี่ยวมากเลยนะ ไม่รู้ว่าขากลับจะกล้ากลับรึป่าว”
Advertisement
Advertisement
หญิงสาวจึงตอบว่า “ถ้าไม่กล้ากลับนอนที่บ้านหนูก่อนก็ได้นะ บ้านหนูจัดงานอยู่คงมีที่ให้นอน”
แจ้จึงตอบว่า “ดีเลย เพราะพี่ว่าบรรยากาศมันน่ากลัว พี่ไม่กล้ากลับแน่”
เมื่อขับมาถึงที่หมู่บ้านหญิงสาวก็บอกทางให้แจ้ขับรถไปบ้านที่มีไฟประดับเยอะๆ และมีเสียงเครื่องไฟดังมา เมื่อเห็นแสงไฟกับได้ยินเสียงดนตรีแจ้ก็รู้ทันที่วา ที่บ้านหลังนั้นกำลังจัดงานศพอยู่ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรหญิงสาวต่อ จนเขาขับรถไปถึงที่บ้านงาน เมื่อเขาจอดรถหญิงสาวก็เดินเข้าบ้านไปแล้วบอกให้แจ้รออยู่หน้าบ้านก่อน แจ้จึงลงจากรถมอเตอร์ไซต์และเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะในงาน ซึ่งก็ไม่มีแขกอยู่แล้วเพราะดึกมากแล้ว เห็นเพียงคนในบ้านยืนคุยกันอยู่สามสี่คน แต่เขาก็ไม่ทันมองว่าหญิงสาวที่เขามาส่งเดินไปทางไหนแล้ว สักพักก็มีหญิงวัยกลางคนเดินมาที่แจ้แล้วถามว่า “มาหาใครหรอ”
Advertisement
Advertisement
แจ้จึงได้ตอบว่า “ป่าว ครับมาส่งน้องคนเมื่อกี้อะครับ”
หญิงวัยกลางคนก็ถามต่อว่า “คนไหน น้าเห็นเธอมาคนเดียวแล้วเดินมานั่งที่โต๊ะ”
แจ้จึงบอกว่า “ผมไม่ได้มาคนเดียวผมมาส่งน้องผู้หญิงเขาเดินเข้าไปบ้านไปเมื่อกี้นี้เอง”
หญิงวัยกลางคนก็ตอบมาอีกว่า “ไหนเด่วพาไปดูบนบ้านไม่มีใครอยู่เลยนะ”
หญิงวัยกลางคนพยายามพาแจ้ไปดูว่าไม่มีหญิงสาวแบบที่แจ้บอก แต่ขณะที่เดินผ่านที่ตั้งโลงศพ สายตาแจ้เหลือบไปเห็นรูปหน้าศพ เขาก็ได้ชี้ให้หญิงวัยกลางคนดูและพูดว่า “นี่ไงน้า คนในรูปนี่ไง”
หญิงวัยกลางคนจึงตอบว่า “จะเป็นไปได้ยังไง นี่น้องหมิว ลูกสาวป้าเองเสียมาหลายวันแล้ว โดนฆ่าตายบนรถไฟ ยังจับคนร้ายไม่ได้เลย”
เมื่อแจ้ได้ยินดังนั้นก็ตกใจมากและพูดว่า “จะเป็นไปได้ยังไงครับ ผมเจอน้องเขาเดินลงมาจากรถไฟ เขาให้ผมมาส่งที่นี่ ยังบอกผมอยู่เลยว่าถ้าไม่กล้ากลับก็ให้นอนค้างก่อน ค่อยกลับตอนเช้า”
หญิงวัยกลางคนจึงตอบว่า “ถ้าที่เธอพูดเป็นความจริงแสดงว่าวิญญาณของหมิวต้องการให้เธอมาส่งบ้านแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นจะนอนค้างที่นี่ก่อนไหมมันดึกแล้วทางก็เปลี่ยว
แจ้จึงรีบตอบไปว่า “ไม่ดีกว่าครับผมว่าที่นี่น่ากลัวกว่าครับตอนนี้ เกิดมาผมเพิ่งเคยเจอผีให้มาส่งบ้าน ผมกลัวอยู่แล้วจะเจออีกอะครับ ผมขอตัวกลับเลยดีกว่า”
จากนั้นแจ้ก็รีบคว้ามอเตอร์ไซต์ บิดออกจากงานทันที ขณะที่เขาขับรถออกมามองผ่านกระจกหลังเขายังเห็นหมิวยืนโบกมือให้เขาอยู่ที่หน้าบ้าน เขาจึงรีบบิดหนีอย่างไปคิดชีวิตและไม่หันหลังกลับไปมองอีกเลย...........
ความคิดเห็น
