อื่นๆ

สามแยกวัดป่า

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
สามแยกวัดป่า

วัดป่าแห่งนึ่งที่อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมากนัก  ทางเข้าวัดแห่งนี้อยู่ตรงแยกเป็นทางสามแพร่งพอดี ซึ่งก็เป็นที่เรื่องลือถึงอาถรรพ์ความเฮี้ยนของแยกแห่งนี้เป็นอย่างมาก  บางก็เรียกกันว่าแยกร้อยศพ บางก็เรียกกันว่าแยกอาถรรพ์  เพราะแยกแห่งนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง มีคนมากมายที่ต้องมาสังเวยชีวิตที่แยกแห่งนี้  หากใครขับรถผ่านไปมาตอนกลางคืนก็มักจะเห็นภูตผีวิญญาณกันเป็นประจำ  ไม่เว้นแม้แต่พระเณรในวัดที่เมื่อถึงเวลากลางคืน ก็ไม่มีใครกล้าก้าวออกจากวัดเลย

หลอน                                                       ภาพโดย Sherry Peck จาก Pixabay

เณรอ่ำกับเณรแก้วเพิ่งเข้ามาบวชใหม่ที่วัดป่าแห่งนี้ หลวงพี่มั่นมีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้แก่สามเณรทั้งสองในการแนะนำระเบียบต่าง ๆ ในวัด ซึ่งก็ไม่ลืมที่จะบอกเรื่องราวของแยกอาถรรพ์ เพื่อไม่ให้สามเณรน้อยไปซุกซนแถวนั้นในยามวิกาล  ซึ่งสามเณรทั้งสองก็เข้าใจเป็นอย่างดี  แต่ด้วยวัดแห่งนี้ไม่มีน้ำประปาใช้ พระเณรในวัดจึงต้องออกมาสรงน้ำที่บ่อน้ำหน้าวัด โดยมีกำแพงที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสกั้นไว้ให้พระเณรใช้สรงน้ำโดยเฉพาะ  ซึ่งปกติแล้วพระเณรก็จะมาสรงน้ำกันในตอนเช้า และตอนเย็น  แต่วันนั้นเณรอ่ำกับเณรแก้วมัวแต่เล่นกันจนค่ำจึงอาบน้ำไม่ทันฟ้ามืด แต่ก็ด้วยกลัวว่าหลวงพี่จะดุจึงแอบไปอาบน้ำกันตอนค่ำ  เมื่อไปถึงบ่อน้ำสามาเณรทั้งสองก็ลงบ่ออาบน้ำกันทันที  ขณะนั้นเณรอ่ำได้ยินเสียงเหมือนคนร้องกระโกนมาจากสามแยกที่อยู่ไม่ไกลบ่อน้ำนัก จึงชะโชกหัวออกมาดูก็เห็นเป็นหญิงวัยกลางคนยืนร้องตะโกนให้ช่วยตรงถนนกลางสามแยก  สามเณรทั้งสองปรึกษากันว่าจะทำยังไงดี เพราะคิดว่าหญิงคนนั้นคงถูกรถชนและต้องการความช่วยเหลือ  เณรอ่ำจึงบอกให้เณรแก้ววิ่งไปตามหลวงพี่มาช่วยส่วนตัวเณรอ่ำก็วิ่งไปดูคนเจ็บ

Advertisement

Advertisement

หลอน                                                   ภาพโดย Pete Linforth จาก Pixabay

เมื่อเณรอ่ำวิ่งไปถึงคนเจ็บก็พยายามถามอาการว่าเป็นอย่างไร แต่หญิงคนนั้นก็เอาแต่ร้องตะโกนว่า “ช่วยด้วย ช่วยด้วย”  เณรอ่ำไม่รู้ว่าจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของเธอได้อย่างไร แต่เมื่อเห็นหญิงคนนั้นร้องด้วยความเจ็บปวดจึงคิดว่า ในสถานการณ์ศึลธรรมสำคัญกว่ากฎที่ห้ามพระเณรถูกตัวผู้หญิง จึงพยายามประครองร่างของเธอไว้โดยหวังว่าจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของเธอได้ โดยไม่กลัวว่าจะต้องอาบัติ พร้อมทั้่งได้พูดปลอบไปว่า “ใจเย็น ๆ นะโยม เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยแล้ว”  ขณะนั้นร่างของหญิงสาวค่อยมีเลือดไหลออกมามากขึ้น  เธอหยุดร้องและหันมาจ้องหน้าอ่ำด้วยหน้าตาที่หน้ากลัว ไม่เหมือนกับตอนแรก  หน้าตาของเธอมีแต่แผลเน่าเละแขนหักไม่เป็นรูปและฟังที่แหลมน่ากลัว  เณรอ่ำตกใจล้มหงายท้องผลักร่างของเธอออกจากตัวและลงไปนั่งกับพื้นร้องตะโกนลั่น  โชคดีที่หลวงพี่มั่นและเณรแก้ววิ่งตามออกมาอุ้มเณรอ่ำไว้จากนั้นผีร้ายได้หายไป  หลวงพี่มั่นรีบพาเณรอ่ำที่กลัวจนตัวสั่นไปส่งที่กุฏิหลวงพ่อเพื่อให้ช่วยรดน้ำมนต์ให้จนอาการดีขึ้น  

Advertisement

Advertisement

คืนนั้นหลวงพี่มั่นจึงนอนเป็นเพื่อนเณรทั้งสองเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิดและช่วยปลอบจนหายกลัว  หลังจากวันนั้นมาสามเณรทั้งสองก็ไม่กล้าเดินไปแถวหน้าวัดหลังตะวันตกดินอีก เณรอ่ำก็อดที่จะส่งสัยเกี่ยวกับวิญญาณหญิงที่เขาเจอไม่ได้จึงได้สอบถามกับหลวงพี่มั่น ซึ่งหลวงพี่มั่นก็เล่าให้ฟังว่าคงเป็นวิญญาณของหญิงที่ถูกรถชนตายอยู่บริเวณนั้นเมื่อหลายเดือนก่อน แล้ววิญญาณยังไม่ไปไหน จึงยังออกมาวนเวียนหลอกผู้คนที่ผ่านไปมาบริเวณนั้นในตอนกลางคืน ซึ่งหลวงพี่ก็ยังกำชับอีกว่าถ้าไม่อยากเจอดีอีกก็อย่างเข้าไปใกล้บริเวณนั้นในตอนกลางคืนเด็ดขาด

หลอน                                             ภาพโดย Pete Linforth จาก Pixabay

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์