อื่นๆ
เจ้าบ้านเจ้าเรือน

ขึ้นชื่อว่าบ้าน ‘บ้านใครใครก็รัก’ ยิ่งบ้านหลังนั้นไม่ใช่เป็นแค่เพียงเป็นบ้านแต่ยังเป็นที่สิงสถิตด้วยแล้ว เมื่อถูกทำลายไปก็ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าของบ้านเดิมจะยังคงอยู่ที่เดิมแต่แค่เปลี่ยนที่สิงสถิตเท่านั้นเอง
ปลายปี 56 หญิงสาวคนนี้ต้องการซื้อบ้านที่หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง หญิงสาวเดินทางเข้าไปดูโครงการจริงที่กำลังทำการก่อสร้าง แต่ด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ที่ทำให้หญิงสาวลงจากรถและเดินไปยังพื้นที่ว่างที่กำลังเตรียมการก่อสร้าง อยู่ดี ๆ ก็เกิดความรู้สึกตื้นตันอย่างประหลาดจนทำให้หญิงสาวอยากร้องไห้ แต่แทนที่ความรู้สึกนั้นจะทำให้หญิงสาวกลัว แต่หญิงสาวกลับมุ่งหน้าไปยังสำนักงานโครงการและตัดสินใจจองบ้านในโครงการนี้ทันที
เวลาล่วงไปเกือบปีกว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จและเข้าพักอาศัยได้ บ้านหลังนี้หญิงสาวอยู่คนเดียว ความรู้สึกของทุกคนที่มาเที่ยวบ้านเธอนั้นจะรู้สึกเหมือนกันว่าบ้านของหญิงสาว ‘เย็น’ เย็นชนิดที่ว่าไม่ต้องเปิดแอร์หรือพัดลมแม้จะไม่มีลมพัดแต่ก็มีความเย็นอย่างประหลาด
Advertisement
Advertisement
ภาพโดยผู้เขียน
แม้หญิงสาวจะพอสัมผัสได้ถึงความผิดปกติว่าบ้านหลังนี้ต้องมีอะไรแปลก ๆ แน่นอน แต่หญิงสาวกลับไม่ได้รู้สึกกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคืนวันพระเวลาประมาณ 5 ทุ่มจนถึงเที่ยงคืน ตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอนของเธอจะสั่นขึ้นมาเอง ตู้ไม้หลังนี้ไม่ได้ทำมาจากไม้อัดแต่ทำมาจากไม้สักทั้งหลัง เป็นไปไม่ได้เลยว่าอยู่ดี ๆ จะสั่นเองได้ถึงขั้นทำให้ประตูตู้เสื้อผ้าเปิด อีกทั้งตัวบ้านอยู่ห่างจากถนนใหญ่จึงเป็นไปไม่ได้ที่สาเหตุจะมาจากรถบรรทุกวิ่ง และที่ประหลาดใจไปกว่านั้นเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่อยู่ในบ้านหลังนี้ก็ไม่มีสิ่งใดผิดปกติเลยสักนิด แม้หญิงสาวจะล็อคประตูตู้เสื้อผ้าไว้แต่เมื่อถึงวันและเวลาดังกล่าว เหตุการณ์ประหลาดจะเกิดขึ้นเองเป็นเช่นนี้ทุกวันพระ จากความกลัวเปลี่ยนเป็นต้องปรับตัว ทุกวันพระหญิงสาวเลือกที่จะเปิดไฟนอนหรือถ้าคืนไหนที่ใจไม่แข็งพอหญิงสาวจะเลือกออกมานอนนอกห้องเสียเอง
Advertisement
Advertisement
จนในที่สุดค่ำคืนแห่งความกระจ่างก็มาถึงแต่ก็ไม่ได้ไขความกระจ่างให้เธอเสียทั้งหมด คืนนั้นหญิงสาวนอนในห้องของเธอตามปกติ หญิงสาว ‘ฝัน’ ฝันเห็นผู้หญิงห่มสไบนุ่งโจงกระเบนเดินยิ้มออกมาจากตู้เพื่อมาหาเธอ ผู้หญิงคนนั้นมานั่งข้างเตียงของเธอแล้วบอกเธอว่า “ฉันอยู่ตรงนี้มานานแล้ว…….” ผู้หญิงนั้นพูดพร้อมกับยื่นมือชี้ไปยังตู้เจ้าปัญหาหลังนั้น แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ลุกขึ้นและเดินกลับไปยังตู้เสื้อผ้าหลังนั้น จะว่าเป็นอาถรรพ์ของตู้ก็ไม่น่าเป็นไปได้เพราะตู้หลังนี้เป็นตู้เสื้อผ้าที่เธอนำติดตัวมาด้วยไม่ใช่ตู้ใหม่เพิ่งซื้อตู้หลังนี้อยู่กับเธอมาก่อนหน้านี้แล้วนานมากเหตุการณ์ประหลาดทั้งหลายแหล่จึงไม่น่าเกิดขึ้นเพราะตู้หลังนี้
ปกติหญิงสาวมีความเชื่อในสิ่งลี้ลับอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นงมงาย วันหนึ่งมีเพื่อนของเธอชวนเธอไปบวชเนกขัมมบารมีที่วัดหลังจากปฏิบัติธรรมช่วงเวลาพักผ่อน หญิงสาวเดินอยู่ภายในบริเวณวัดอยู่ดี ๆ ก็มีหญิงสูงวัยทักเธอขึ้นมาว่า “เขาอยู่ที่ตรงนั้นมานานแล้วลูก ที่บ้านหนูนั่นแหละ ”หญิงสาวถึงกับตกใจนำทำทักของหญิงสูงวัยคนนั้นแต่หญิงสูงวัยเพียงบอกต่อแค่ว่าเขามาดีและมาคุ้มครอง ซึ่งเธอก็เชื่อว่าจริง เพราะทุกครั้งที่เธอไม่อยู่บ้านหลังจากกลับมา เพื่อนบ้านจะพากันมาถามว่าให้พี่สาวมาเฝ้าบ้านหรือหน้าเหมือนกันมากเลย
Advertisement
Advertisement
Photo by Jeremy Bishop on Unsplash
แต่เมื่อหญิงสาวลองสืบสาวความเป็นมาของโครงการบ้านจัดสรรแห่งนี้ แต่เดิมที่ตรงนี้เป็นทุ่งนาเวิ้งว้าง มีเพียงต้นมะกาต้นใหญ่ที่ยืนต้นอยู่ที่นี่เพียงต้นเดียวและไม่มีใครกล้าตัดเพราะมะกาต้นนี้แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปอยากน่าเกรงขาม จวบจนหมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้ได้เข้ามาสร้างหมู่บ้านขึ้นมา จึงได้มีการโคนต้นมะกาทิ้งและสร้างบ้านหลังนี้ทับจุดเดิมที่เคยเป็นที่ตั้งของต้นมะกาใหญ่
หญิงสาวเชื่อว่าบริเวณห้องนอนของเธอน่าจะเป็นจะเชื่อต่อมิติ ที่ผู้หญิงที่เธอเจอในฝันเข้าออกได้ จนทุกวันนี้ความกลัวกลายเป็นความเคยชินและอุ่นใจที่มั่นใจว่า ไม่ว่าผีหรือว่าคนหน้าไหนก็คงไม่มีใครมาทำอะไรบ้านเธอได้ ตราบใดที่ยังมีผู้หญิงคนนี้คุ้มครองบ้านเธออยู่
ภาพหน้าปก Cr.https://www.pexels.com/photo/gray-house-with-fireplace-surrounded-by-grass-under-white-and-gray-cloudy-sky-731082/
ความคิดเห็น
