“ใครจะคิดว่า ร้านของหวานที่ตกแต่งอย่างงดงามดูสบายตา อีกทั้งยังมีที่มีเค้กสไตล์อิตาลี จะหลบซ่อนตัวอยู่ในดงมะพร้าวอำเภอวัดเพลง อำเภอเล็ก ๆ ที่เปี่ยมด้วนมนต์เสน่ห์” เมื่อเลี้ยวรถเข้าซอยไปตามที่ป้ายบอกทาง ทำให้เกิดความสงสัยว่า กลางสวนแบบนี้หรือที่จะมีร้านขนมหวานขึ้นชื่อที่หลายๆคนพูดถึง แต่เมื่อยิ่งเข้าไปใกล้ ความสงสัยทุกอย่างก็มลายไปทันที ‘Melon me Farm & Dessert’ ชื่อร้านที่บอกตัวตนของร้านได้อย่างชัดเจน Melon me ‘Farm’ โรงเรือนเมล่อนสีขาวซึ่งภายในเต็มไปด้วยต้นเมล่อนเรียงกันเป็นทิวแถว กำลังชูยอดอ่อนที่เต็มไปด้วยผลเมล่อนเล็ก ๆ ละลานตา ที่นี่จัดการทุกอย่างโดยใช้วิธีทางชีวภาพ พึ่งพาธรรมชาติและห่างไกลจากสารเคมี เลือกที่จะอยู่ร่วมและกลมกลืนกับธรรมชาติให้มากที่สุด ผลผลิตที่ได้ออกมานั้นนอกจากนำมาประกอบเป็นเมนูต่าง ๆ ของทางร้าน ยังมีบางส่วนที่วางจำหน่ายให้ลูกค้าที่สนใจนำกลับไปทานที่บ้านหรือซื้อเป็นของฝากได้อีกด้วย ในส่วนของฟาร์มนอกจากเมล่อนแล้วยังมีผักออแกนิคต่าง ๆ ที่สามารถนำไปทานสดเพื่อเป็นเครื่องเคียงหรือนำไปทำเป็นเมนูสลัดผัก Melon me ‘Dessert’ ‘ของหวาน’ เมื่อชื่อร้านบอกในสิ่งที่ตัวเองเป็น ฉะนั้นร้านนี้จึงเป็นหนึ่งในหลายๆร้านสำหรับผู้ที่ชื่นชอบของหวานไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เค้กนานาชนิดที่อวดโฉมอยู่ภายในตู้โชว์ของที่นี่ มีทั้งเค้กที่ประยุกต์โดยการนำผลไม้ไทยต่าง ๆ มาเป็นส่วนผสม หรือแม้แต่เค้กสไตล์อิตาลีที่เป็นจุดเด่นของทางร้าน ฝีไม้ลายมือและความอร่อยนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะนอกจากความชอบที่ชื่นชอบการทำขนมเป็นทุนอยู่แล้ว เจ้าของร้านยังไปศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำเค้กโดยเฉพาะดังนั้นบอกได้เลยว่าใครมาถึงร้านนี้ไม่ได้ทานเค้กจะต้องเสียใจแน่นอน Drink ถ้าไม่พูดถึง ‘เครื่องดื่ม’ ก็คงไม่ครบองค์ประกอบของร้านนี้ ของจากฟาร์มเมล่อนและของหวานแสนอร่อยแล้ว เครื่องดื่มเป็นจุดเด่นอีกจุดหนึ่งของร้าน สำหรับคอกาแฟร้านนี้มีกาแฟให้คุณได้ลองชิมหลากหลายเมนู ไม่ว่าร้อนหรือเย็น สมูทตี้และน้ำผลไม้อีกหลากหลายชนิด แต่เมนูที่อยากแนะนำถ้าจะทานคู่กับเค้กแล้ว ‘ชาเมล่อน’ ชาร้อนคู่หูคู่ใจเค้กที่หลายคนไม่ควรพลาด ด้วยความหวานของตัวเค้กถ้าได้จิบชาร้อนร่วมด้วย รสชาติฝาดนิดๆของชาอีกทั้งกรุ่นกลิ่นหอมของกลิ่นเมล่อนที่อบอวลอยู่ภายในปาก บอกได้เลยว่าเข้ากันได้ดีกับเมนูเค้กทุกเมนู Style & Inspiration ‘ความต้องการที่จะกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดเพื่อดูแลคนที่เรารัก คือจุดเริ่มต้นของร้านนี้’ ด้วยตัวเองเป็นลูกชาวสวนอยู่แล้ว และมีความสนใจในด้านการเกษตรจึงเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดฟาร์มเมล่อน จากนั้นจึงมีความคิดที่ต้องการต่อยอดของผลผลิตที่เกิดขึ้นโดยทำร้านของหวานแห่งนี้ขึ้นมา ‘ทุกอย่างมาจากใจที่รักจะทำในสิ่งที่ตัวเองรัก’ องค์ประกอบทุกอย่างในร้านไม่ว่าการตกแต่งต่าง ๆ เกือบ 100% ที่เจ้าของร้านเป็นผู้ลงมือทำเอง ทุกอย่างมาจากความต้องการและตัวตนของเจ้าของร้านซึ่งต้องการให้แขกที่มามีความรู้สึกเหมือนได้มาเที่ยวบ้านเพื่อน บรรยากาศสบายๆ สามารถมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ หรือเอนกายนอนเพื่อชาร์ตพลัง Time:Open&close เปิดบริการ 10.00 น.เป็นต้นไป วันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น. ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ :Melon me ที่อนุญาตให้ใช้ภาพของทางเพจ ช่างภาพ :Nok Sirikanda