ตำนานโอ่งมังกรมีมาตั้งแต่ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วก็ต้องเป็นเมืองราชบุรี เพราะเมืองราชบุรีนี้มีดินสีแดงที่ใช้ปั้นโอ่งได้ ประเทศเราสมัยนั้นมีความต้องการใช้โอ่งมังกร แต่ไม่อยากนำเข้าจากจีน เลยเริ่มทำโอ่งกันเองขึ้น และเน้นลวดลายมังกรจากตำรา วาดขึ้น และปั้นเป็นมังกรนูนขึ้น โอ่งมังกรไม่ธรรมดาตั้งแต่ตอนปั้น เอาแค่ลายมังกรก็มีหลายแบบแล้ว อย่างถ้าเป็นมังกร 5 เล็บก็จะเป็นของคนชั้นสูงใช้กัน โอ่งมังกรจึงกลายเป็นศิลปะ และเป็นภูมิปัญญาอันแข็งแกร่งของชาวเมืองราชบุรี สืบมาจนถึงทุกวันนี้คนที่จะเล่าเรื่องโอ่งมังกรได้ดีที่สุด ก็คือผู้สืบทอดภูมิปัญญา คุณธีระพล โรจนสุวรพงค์ เจ้าของโรงโอ่งดินทอง หนึ่งในโรงโอ่งยุคแรกเริ่มของราชบุรีที่ยังคงวิธีการแบบดั้งเดิมเอาไว้“ถ้าพูดถึงราชบุรีจะคิดถึงโอ่งก่อน โอ่งต้องมาจากราชบุรี เพราะว่าที่อื่นทำไม่ได้ ดินต้องเป็นดินจากราชบุรี เพราะแกร่ง เผาออกมาแล้วจะทำโอ่งได้คุณภาพดีที่สุด โอ่งจริงๆแล้วมาจากประเทศจีน คนจีนโพ้นทะเลรุ่นก่อนมาดูแล้ว เห็นว่าดินที่ราชบุรีน่าจะทำโอ่งได้ก็เลยลองทำกัน”ทำไมใครๆ ก็อยากมีโอ่งมังกรสักโอ่งไว้ที่บ้าน คุณธีระพลบอกว่า เพราะความเป็นดินของโอ่ง และต้องปั้นกันขึ้นมาด้วยนี่ล่ะ“เสน่ห์อย่างแรกเลยคือวัตถุดิบทั้งหมดเป็นดิน และทุกขั้นตอนใช้การหัตถกรรมทั้งหมด ใช้แรงงานฝีมือทั้งหมด การปั้น การขึ้นรูปทั้งหมดไม่มีการปั๊มขึ้นมา เราใช้การปั้นทั้งหมด”เพราะเป็นงานฝีมือ ความใส่ใจจึงเกิดขึ้นตั้งแต่กระบวนการแรก ต้องเลือกแหล่งดินที่ดูแล้วน่าจะใช้ได้ นำมาหมักในบ่อ หลังจากนั้นนำมาผสมทราย และเติมน้ำเข้าไปใช้เวลาระยะเวลาประมาณ 1 วันจะดูดน้ำออก เมื่อดูดน้ำออกแล้วจะใช้เสียมขึ้นมากองดินไว้ ตักขึ้นมากรองแล้วนำใส่เครื่องโม่ตีให้ละเอียด และนำมาโม่ครั้งที่ 2 เรียกว่าโม่ท่อทำออกมาเป็นเส้น เตรียมเพื่อขึ้นรูป เมื่อโม่ออกมาเป็นเส้นแล้ว จะต้องโรยทรายเพื่อไม่ให้ดินเหนียวติดเตรียมดินเสร็จแล้วก็ถึงตอนปั้น คนปั้นจะเริ่มขั้นตอนการปั้นโอ่ง โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน คือปั้นท่อนล่างก่อนเมื่อท่อนล่างแข็งแล้วจะต่อท่อนกลาง ท่อนกลางเสร็จแล้วจะต่อท่อนบน เนื่องจากโอ่งมีความสูง ถ้าปั้นต่อทีเดียวเลยจะมีการยวบ พอปั้นเสร็จรอให้หมาดแล้วนำมาตีให้เข้าทรง ให้ได้รูปตามที่ต้องการ เมื่อตีเสร็จแล้วถึงจะเขียนลายการเขียนลายจะใช้ดินคนละตัวกับที่ปั้น จะเป็นดินดำ เมื่อนำเผาแล้วสีมันจะออกลายแตกต่างกัน เมื่อเขียนลายเสร็จ จะเอาโอ่งเข้าไปเคลือบ น้ำเคลือบจะเป็นขี้เลนผสมขี้เถ้า สูตรของแต่ละโรงงานจะไม่เหมือนกัน พอเคลือบเสร็จจะเข้าสู่ขั้นตอนการเผา จะใช้ฟืนเผาเพื่อสุมหัวก่อนเพื่อไล่ความชื้นออกประมาณ 10 ชั่วโมง และเผาอีกวันหนึ่ง จะใช้เวลารวมประมาณ 1 วัน 1 คืน เอาตรง ๆ ทุกวันนี้ไม่ค่อยมีคนใช้โอ่ง ส่วนใหญ่จะใช้เป็นกระถางเอาเสียมากกว่า“พอมาระยะหลังๆ โรงงานเริ่มทำโอ่งกันน้อยลง ก็รู้สึกเสียดายว่า อนาคตของอาจจะหายออกไปจากราชบุรีหรือเปล่า เพราะโอ่งมังกรคือภูมิปัญญาโดยแท้ของเรา คือศิลปะที่เราภูมิใจเลยทีเดียว"คุณธีระพลบ่นเสียดายทิ้งท้ายเอาไว้