Ashcarya Boutique Resort ที่พักแสนสวยในสวนผึ้ง ( พาร์ทนี้ใครที่กำลังหาที่พักในสวนผึ้ง ห้ามพลาดค่ะ!! ^^ ) หลังจากที่รัฐบาลได้ปลดล็อก โควิด 19 กันทั้งที ครอบครัวของเราก็ไม่พลาดที่จะหาจองที่พักที่บรรยากาศสวยงาม ร่มรื่น เพื่อไปพักผ่อนกับครอบครัว ชดเชยกับการหยุดโรค ช่วยชาติมานานเกือบสองเดือนค่ะ ซึ่งพอรวบรวมความเห็นของสมาชิกทุกคนในบ้าน ก็ได้ข้อสรุปว่าอยากจะไปพักที่ๆ ไม่ไกลเกินไป สงบ และเป็นธรรมชาติ รวมถึงมีสระน้ำให้เด็กๆเล่น หาไปหามา ก็มาลงตัวที่รีสอร์ท Ashcarya boutique resort แห่งนี้นั่นเองค่ะ ทุกคนในบ้านทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ไล่ตั้งแต่หลานๆ จนถึงป๊ากับม๊าต่างตื่นเต้นกันมาก ที่จะได้ไปเที่ยวกันในครั้งนี้ ไม่เว้นแม้แต่ตัวผู้เขียนเอง ที่จัดกระเป๋าล่วงหน้ารอมาเป็นอาทิตย์ พอถึงวันเดินทางจริงๆ ทุกคนจึงพร้อมกันมาก เรียกว่าอยากจะเหาะไปให้ถึงที่พักซะตั้งแต่ตอนล้อเริ่มหมุนกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะหลานๆที่ดูจะตื่นเต้นที่สุด ถามนู่นถามนี่ตลอดการเดินทาง ว่าจะได้เล่นน้ำมั้ย จะได้ไปให้อาหารตัวอัลปาการึเปล่า เจ้าหลานคนเล็กยิ่งแล้วใหญ่ ลงทุนเอาหนังยางรัดปากขนมถุง ใครขอกินก็ไม่ยอม บอกจะเก็บไว้ให้อัลปาก้า เอากับเค้าแล้วสิงานนี้ ^^ หลังจากใช้เวลาบนถนนอยู่เกือบสามชั่วโมง ครอบครัวของพวกเราก็เดินทางจากพระรามสองมาถึงอำเภอสวนผึ้งจนได้ สาเหตุที่ช้าก็เพราะว่าหลังจากคลายล็อก หลายๆ ครอบครัวต่างก็พากันออกมาเที่ยว ไม่ต่างจากครอบครัวของพวกเรานั่นเอง ทำให้รถค่อนข้างติด แต่การเดินทางก็ราบรื่นเรียบร้อยดีค่ะ ^^ ด้วยความเมื่อยล้าจากการเดินทาง เราจึงรีบมุ่งหน้าเข้ารีสอร์ทที่จองไว้ทันที และเมื่อลงจากรถ เพื่อนๆ เชื่อมั้ยคะว่าความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าหายไปในทันที เพราะบรรยากาศที่รีสอร์ทแห่งนี้ สวยงาม ร่มรื่น และเป็นธรรมชาติมากๆ โดยเฉพาะอากาศบริสุทธิ์ที่สูดได้เต็มปอด ให้สิบเต็มสิบไม่หักเลยแม้แต่คะแนนเดียว หลังจากเช็คอินเรียบร้อย พนักงานก็พาพวกเราไปขึ้นรถกอล์ฟที่รีสอร์ทเตรียมไว้ เพื่อพาเข้าไปที่บ้านพัก ซึ่งที่พักที่นี่จะเป็นแบบบ้านเป็นหลังๆ ค่ะ ค่อนข้างเป็นส่วนตัว เข้าทางพวกเด็กๆ ที่ตั้งใจมาสนุกสนานกันอย่างเต็มที่ พอเก็บกระเป๋ากันเสร็จ จุดแรกที่พวกเรารีบเดินมาดู คือ สระว่ายน้ำค่ะ ซึ่งถือเป็นจุดที่สวยที่สุดของรีสอร์ท เพราะสามารถมองเห็นวิวเขาด้านหลังได้ชัดที่สุด โดยเฉพาะในตอนที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแบบนี้ แสงสีส้มที่ปลายขอบฟ้าผสานกับสีเขียวของธรรมชาติ ดูสวยงามมากๆ จนทุกคนอดไม่ได้ที่จะต้องถ่ายภาพเก็บวิวอันงดงามนี้ไว้เป็นที่ระลึก ผู้เขียนเองก็ไม่พลาดค่ะ แถมเซลฟี่เก็บรูปไว้จนหนำใจเลยทีเดียว ส่วนบรรดาหลานๆ ไม่รอช้าเลยค่ะ รีบเปลี่ยนชุดลงว่ายน้ำเล่นในสระอย่างรวดเร็วเลยค่ะ หลังจากเล่นน้ำกับหลานๆจนหมดแรงแล้ว ก็พากันกลับเข้ามาที่บ้านพักค่ะ ซึ่งภายในบ้านพักมีอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ชอบมากที่สุด นั่นคือ ห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำของที่นี่ จะมีอ่างอาบน้ำและห้องน้ำอยู่บริเวณด้านนอกจากตัวบ้าน ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้อาบน้ำอยู่ท่ามกลางธรรมชาติกันเลยทีเดียว คุณผู้อ่านลองนึกภาพตามนะคะ การได้แช่น้ำอุ่นในอ่าง พร้อมทั้งฟังเสียงจักจั่นร้องกันเซ็งแซ่ในตอนค่ำขับกล่อมไปด้วย จะมีอะไรฟินกว่านี้อีก จริงไหมล่ะคะ หลังจากที่ได้นอนหลับพักผ่อนกันเต็มอิ่มตลอดคืน ก็ถึงเวลาของมื้อเช้ากันบ้าง ซึ่งทางรีสอร์ทมีอาหารเช้าให้ทานค่ะ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว รสชาติอาหารอร่อยมากค่ะ สถานที่ทานอาหารเช้า จะเตรียมไว้ให้บริเวณสระว่ายน้ำ ซึ่งทุกคนใช้เวลาตรงนี้ไม่นานมาก เพราะยังมีอีกหลายที่ที่หลานๆอยากจะแวะเที่ยวกันก่อนกลับกรุงเทพค่ะ ผู้เขียนก็ขออนุญาตจบการรีวิวที่พักแห่งนี้แบบสั้นๆ เท่านี้ก่อนแล้วกันค่ะ โอกาสหน้าถ้ามีที่พักที่ไหนที่น่าประทับใจอีก จะเอามารีวิวเผื่อเป็นทางเลือกให้กับเพื่อนๆกันอีก ยังไงอย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ ^^