ครั้งแรกกับข้าวต้มมัดใน Lounges Bangkokairways ช่วงหยุดยาวเทศกาลต่าง ๆ เป็นที่รู้กันว่าถ้าไม่ได้มีการตระเตรียมหรือจองล่วงหน้า ราคาค่าโดยสารมันค่อนข้างจะแพงมาก ๆ โดยเฉพาะ เครื่องบิน แต่ถ้าจำเป็นไม่ว่าแพงขนาดไหนก็ต้องไป จากการเข้าไปดูราคาค่าตั๋วเครื่องบินหลาย ๆ สายการบินแล้ว บางอันราคาถูก แต่ไม่มีเวลาที่เราต้องการ สายการบินที่มีเวลาที่เราต้องการก็จะแพงเป็นพิเศษ เปรียบเทียบอยู่พักใหญ่ก็ตัดสินใจเลือกเดินทางกับ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ พอซื้อปุ๊บ ก็มีคนกระซิบเลยว่าฝากไปกินข้าวต้มมัดในเล้าจ์ด้วยนะ เกิดคำถามขึ้นในหัวทันทีอะไรคือเล้าจ์ เล้าหมู เล้าไก่ อะไรแบบนี้เหรอ? แล้วทำไมต้องข้าวต้มมัด? ครั้นจะถามกลับไปก็ไม่ดีกลัวจะเสียฟอร์มหาว่าเราไม่รู้เรื่อง ซึ่งก็ไม่รู้นั่นล่ะ... ไม่ใช่คนที่เดินทางด้วยเครื่องบินบ่อย ๆ แต่ก็อยากรู้ ทำไงดีน้า... เข้าเน็ตสิ ตัวช่วยที่ดีก็คือกูเกิ้ล ไม่รอช้า รีบเปิดเข้าไปหาข้อมูล เล้า ทันที เสิร์ชปุ๊บ มาปั๊บ ทั้งเล้าหมู เล้าไก่ เล้าเป็ด วิธีการทำพร้อมภาพประกอบมาครบ เดี๋ยว ๆๆๆๆ ไม่ใช่แบบนี้ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คำที่ใช้ค้นหา ย่อมนำไปสู่ คำตอบที่ดี เอาใหม่ ๆ ต้องเพิ่มชื่อสายการบินเข้าไปด้วย หาใหม่ เป็น เล้าจ์ บางกอกแอร์เวย์ ถึงได้รู้ว่า เล้าจ์ (Lounges) ต้องมี จ์ ด้วย คราวนี้ก็ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการซักที มีคนพูดถึงอยู่มากเลยในออนไลน์ ใคร ๆ เค้าก็คงรู้ ยกเว้นตัวเรานี่ล่ะมั้ง นั่งอ่านข้อมูลมากมายจนได้ความรู้ที่เราต้องการ จากนั้นก็รอคอย จนมาถึงวันที่ต้องเดินทาง เที่ยวบินวันนั้น น่าจะเป็นเที่ยวแรกเลยเวลาประมาณ 6 โมงนิดหน่อย เท่าที่อ่าน ๆ ข้อมูลมา เค้าบอกว่า เล้าจ์ จะเปิดประมาณ ตี 5 ซึ่งเช้ามาก ไม่ตื่นเต้นอะไรเลย ไปรอที่สนามบินสุวรรณภูมิ มันตั้งแต่ เที่ยงคืน รู้สึกเฉย ๆ มาก ฮา… ในสมองนี่ท่องลำดับขั้นตอนตามในเน็ตไปเลยเป๊ะ ๆ พอจะได้เวลาราว ๆ ตี 4 ก็ไปตามขั้นตอนที่จำมาจากในอินเตอร์เน็ต ต้องไปเช็คอินก่อน ถ้าเช็คอินที่ตู้จะได้ พอยท์ด้วย ไม่รู้หรอกว่าพอยท์เอาไปทำอะไร แต่ก็ไปเช็คอินที่ตู้ ต้องไปตู้ที่ไม่ค่อยมีคนด้วยนะกลัวปล่อยไก่อายเค้า เอารหัสที่เค้าส่งมาในอีเมลล์ไปกรอกที่ตู้เป็นอันเรียบร้อย เช็คอินเสร็จก็จะได้ตั๋วมา เดินไปที่ประตูทางเข้า ให้น้อง ๆ พนักงานตรวจตั๋วโดยสารเรียบร้อย ก็เข้าไปในประตูทางออกที่จะขึ้นเครื่อง หรือ เกท บรรยากาศเงียบมาก ยังไม่มีคนเข้ามาซักคน คิดในใจคงไม่มีใครตื่นตระหนกเข้ามาแบบเราหรอก ไปต่อดีกว่า จากข้อมูล ก็เดินตามป้ายไปยังปีก A มันจะมีแยก 2 ฝั่ง A กับ B เราต้องไปปีก A เดินมาได้หน่อย จะพบป้ายบอกทางไปห้องรับรองสายการบิน เราก็เดินมองซ้ายมองขวาค้นหาเป้าหมาย อาการเลิกลักมาก ถ้าไปเดินแถวตลาด เค้าคงว่าเป็นพวกโจรลักเล็กขโมยน้อย เพราะดูมีพิรุธสุด ๆ เดินมาได้ไม่นานก็มาถึงที่หมาย เอาล่ะสิยังไงต่อ ยังเช้าอยู่เลย ส่อง ๆ ในห้องก็ยังไม่เห็นมีใครซักคน แต่ที่ทางเข้ามีน้องพนักงานของสายการบินนั่งอยู่แล้ว เลยอาศัยใจกล้าหน้าด้าน เดินเข้าไปถามเลยว่าเข้าได้แล้วใช่ไหม? ถามไป ใจก็เต้น ตึกตัก น้องก็ยิ้มให้แล้วก็ขอตั๋วโดยสาร แล้วน้องก็พูดอะไรไม่รู้ยาวเหยียดเลย คือมันตื่นตระหนกจนฟังอะไรไม่เข้าหูแล้ว จับใจความได้สั้น ๆ ว่า เผื่อเวลาไว้สำหรับตรวจสัมภาระก่อนขึ้นเครื่องด้วยนะคะ ประมาณนี้ พูดถึงระบบตรวจสัมภาระเล็กน้อย แต่ก่อนจะมีการตรวจสิ่งของต่าง ๆ ที่บริเวณก่อนเข้ามาตรงที่นั่งคอยเครื่องบิน แต่นั่นก็น่าจะนานมากแล้วซึ่งผมก็จำได้ลาง ๆ ว่าเป็นแบบนั้น ตอนที่เดินเข้ามาแล้วไม่มีการตรวจกระเป๋าเลย ยังแอบคิดในใจว่า ทำไมสนามบินนี้ หละหลวมจัง ซึ่งเราเข้าใจผิดไปเอง เพราะจะมีการตรวจอีกครั้งก่อนขึ้นเครื่องนั่นเอง นอกเรื่องไปซะได้มาต่อที่ เล้าจ์หรรษาของเราดีกว่า หลังจากดูข้อมูลต่าง ๆ ในตั๋วแล้ว น้องพนักงานก็ให้เราเข้าไปในเล้าจ์ ข้างในเป็นที่นั่งมากมายหลายแบบให้เลือกสรรด้านในสุดมีขนม นม น้ำ ซึ่งยังทยอยขนออกมายังไม่เสร็จ พนักงานคงคิดในใจ ไอ้นี้ แหกขี้ตามาแต่เช้าเลย เอาง่าย ๆ ปลั๊กไฟของตู้น้ำเย็นยังไม่ได้เสียบเลย เราก็เข้าไปด้อม ๆ มอง ๆ เห็นป้ายข้าวต้มมัดในตำนานละ แต่ข้าวต้มมัดยังไม่มา ข้าวต้มมัดนี้เห็นว่าเป็นของคุณยายฟู แต่เดิมหาบขายอยู่แถว ๆ สวนลุมฯ คุณหมอประเสริฐเจ้าของสายการบินไปวิ่งออกกำลังกายแล้วก็ได้ซื้อกินบ่อย ๆ เห็นว่าอร่อยดี ติดใจ เลยสั่งยายฟูทำส่งให้บางกอกแอร์เลย จากหาบขายวันละ 80 อันกลายเป็น 4000 อัน โอ้โห ชีวิตดี๊ดี แล้วก็ที่สำคัญคือมีคนไปสั่งเหมือนกันแต่แกทำไม่ไหว ไม่ได้ขายให้ใคร แกบอกแค่นี้ก็พอไม่โลภ ถ้าอยากรู้เพิ่ม ก็ตามนั้นไปหาอ่านกันเองนะ ระหว่างรอข้าวต้มมัด ก็ชิมขนมไปนิดหน่อยเรียกน้ำย่อย จัดครัวซองค์ แซนวิช ขนมปัง คุ้กกี้ น้ำส้ม น้ำชา กาแฟ โอ๊ย มากมาย กินเหมือนจะไม่มีวันพรุ่งนี้ และจากนั้นไม่นาน ข้าวต้มมัดที่เลื่องลือก็เดินทางมาถึง ถ่ายรูปเสร็จสรรพจึงได้เวลาทดลอง เป็นข้าวต้มมัดที่ไม่ใหญ่มาก ขนาดพอดีคำ ไม่หวานเลี่ยน แต่ถามว่า กินแล้วน้ำตาไหล นอนตายตาหลับไหม คงไม่ถึงขนาดนั้น ไม่รู้เพราะกินเข้าไปเยอะมากแล้วรึเปล่า แต่โดยรวมถือว่า ดี เอาเป็นว่าเรื่องรสชาติอาหารก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล เมื่ออิ่มหนำสำราญดี ก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูบเอาไว้ทั้งหมด บันทึกไว้เป็นความทรงจำ ว่าครั้งหนึ่งเคยไปนั่งเล้าจ์กับเค้าแล้วนะ เหลือบดูนาฬิกา ได้เวลาต้องไปแล้ว จึงเดินออกไปที่จุดรอขึ้นเครื่อง แต่เดี๋ยวก่อน บนเครื่องยังมีอีก เค้าแจกพายไก่มาให้อีก โอ้แม่เจ้า แน่นไปหมดแล้ว เรียกได้ว่าถ้าชอบการกิน การเลือกสายการบินที่มีเล้าจ์บริการก็เป็นทางเลือกที่ดี ไปลองดูสิสนุกดีนะ