คำนำสวยๆไปก่อนนะจ้า ตอนแรกที่คิดจะเขียนบทความที่เกี่ยวกับชีวิตที่เล่าเรียน1 ปีในอินเดีย เราก็ได้แพลนไว้ว่า จะเขียนในมุมมองที่คนไทยไม่เคยเห็นมาก่อน อยากให้เปิดโลกทัศน์กับอินเดียว่านางก็มีอะไรดีๆสนุกๆ กะว่าเขียนเสร็จจะเป็นนางงามมิตรภาพ ไทย-อินเดีย ทุกคนต้องรักดิฉันจากจุดๆนี้ประมวลสมองประเมินสถานการณ์ทุกอย่างดับลงอย่างรวดเร็ว เพราะมีแต่เรื่องราวสนุกๆ5555 คือเรื่องที่เกิดขึ้นในอินเดียมันก็มีดีมีแย่เหมือนชีวิตคนปกติอะ ไม่ปกติตรงที่เราเอาวัฒนธรรมไทยไปตัดสินวัฒนธรรมอินเดีย รึบางทีเราอาจจะโชคร้ายไปเจอเรื่องที่แบบคนปกติเค้าไม่ยักเจอกัน เรื่องที่เจอที่นี่ก็เลยเป็นประสบการณ์ที่คิดว่าทั้งชีวิตก็ไม่น่าจะลืมได้ลงปล. สิ่งที่เราเจอ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเฉพาะตัวเรา อย่าตัดสินโดยบทความนี้ ถ้าอยากรู้ว่าจริงไหม ให้มาลองดูได้ที่อินเดียนะจ้าปล.เป้าหมายอีกอย่างหนึ่ง ที่เราเขียนบทความนี้ก็คือ เราอยากให้บทความเราเป็นแรงบันดาลใจให้สักคนที่ได้อ่าน ลองมีเป้าหมายไปเรียนต่างประเทศและสามารถไปได้จริงๆ ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง แต่เราเชื่อนะว่าคนที่strong-mind เรื่องความฝันมันไม่มีวันล้มเหลวหรอก และถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่ได้ไป แต่ระหว่างทางที่ทำตามแพลนมันคงได้อะไรเยอะมากๆ สู้ๆนะคะ How to มาเรียนด้วยตัวเองคำนวณล่วงหน้า3-4 ปี ก่อนที่จะมาเรียนไปเลยจ้า เพราะว่าไม่อยากเพิ่มภาระให้ครอบครัว เราเลยไม่ได้ขอให้ afford เรื่องเงิน (จริงๆแล้วที่อยากเก็บเงินด้วยตัวเองเพราะเราจะได้ไม่เครียด ถ้าเรียนได้เกรดไม่ดี หรือบางทีอยากโดดเรียนอะไรแบบนี้ จะได้ไม่รู้สึกผิดมาก5555) เลยเก็บเงินด้วยตัวเอง ตอนนั้นเรียนอยู่ปี2 เทอมที่2,2015 เราจะเรียนจบภายในปี 2016 เพราะจะเรียนจบภายใน ปีที่3 เทอมที่1 ก็พยายามหาคำตอบว่าหลังเรียนจบจะเอายังไงกับชีวิตดี ก็ได้คำตอบกับชีวิตว่า ยังไม่พร้อมทำงานเลย เราอยากทำอะไรที่เหมือนวัยรุ่นไทยเค้าทำกันบ้าง เช่น ไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ, ไปออแพร์(ซึ่งเป็นคนที่เกลียดเด็กมาก),หาทุนเรียนต่อต่างประเทศ(เคยจ้างเพื่อนทำข้อสอบภาษาอังกฤษออนไลน์ให้ คิดเหรอว่าจะรอด)ใช่ค่ะ ทางที่คิดมา เป็นไม่ได้สักทางเดียว จนกระทั่งโทรไปปรึกษาที่บ้าน ที่บ้านให้คำตอบมาว่า เป็นไปไม่ได้หรอกมิ้นท์ ที่บ้านยังมีภาระค่าใช้จ่ายอีกเยอะมาก แต่ถ้าไปเองไปได้นะ แล้วทำไมไม่ไป work and travel ดูก่อนล่ะ เผื่อได้ภาษา ตอนนั้นก็ได้แค่คิดว่า ถ้าพูดภาษาอังกฤษได้ภายใน4เดือนเพราะไปเหยียบUS นี่ก็อภิหารดาวผงาดฟ้ามาก แต่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี ก็เก็บเอามาคิดอยู่เกือบอาทิตย์ จนsearch ข้อมูล แล้วก็คิดว่า ถ้าคนจะได้ไปจริงๆ มันก็ต้องได้ไปดิวะตัดภาพเลยนะคะ จะเล่าเรื่องอินเดียไม่เล่าเกี่ยวกับไปwork and travel น้า 5555 เรื่องนี้มันเกี่ยวโยงกันอยู่ตรงที่เราเรียนจบเดือนธันวาคม 2016 หลังจากนั้นสามวันก็เริ่มทำงาน office ที่หัวหิน เป็น Graphic Design ประมาณ6 เดือน ภายใน 6 เดือนนี้ เก็บตังทุกบาททุกสตางค์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายทุกอย่างใน work and travelการไปครั้งนั้นทำให้เราเก็บเงินได้เยอะมาก แบบเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ เพราะไม่กินไม่ใช้เลย เก็บอย่างเดียว พอกลับไทยมาได้ ก็ต้องมารอรับปริญญา 6 เดือนก่อนจะมาเรียน ช่วงระยะที่รอรับปริญญาเราก็ทำงานในโรงแรม ได้เงินพออยู่พอกินแต่ก็เก็บ แล้วก็โปะๆ ไปมาซื้อEnglish Diploma Course ของ ELTIS SYMBIOSIS ที่อินเดีย จ้า