เรื่องเล่าจากโรคซึมเศร้าปัจจุบันเรามักได้ยินข่าวจากการเสียชีวิตจากผู้คนที่ทำร้ายชิวิตตนเองเนื่องมาจากโรคซึมเศร้าอยู่เรื่อย ๆ เป็นที่ทราบกันดีว่าโรคซึมเศร้าเป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่ง บางคนเป็นโดยที่ตนเองไม่ทราบ คิดว่าเป็นเพราะตนเองคิดมากไปเอง เลยไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงที การเปลี่ยนแปลงในคนที่เป็นโรคซึมเศร้านั้น บางคนก็จะมีอาการค่อยเป็นค่อยไป แต่บางคนอาจเป็นฉับพลัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เข้ามากระตุ้นทำให้เกิดอาการขึ้น อาทิเช่น อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป จากคนปกติกลายเป็นคนเศร้าสร้อย หดหู่ ร้องไห้บ่อย อ่อนไหวกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จนเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย บางคนมีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย กลายเป็นคนอารมณ์ร้ายไป หรือมีอาการทางร่างกายปรากฏขึ้น ที่พบบ่อยคือ จะรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่อยากทำอะไรเหมือนคนขี้เกียจ ปัญหาด้านการนอนหลับยาก เบื่ออาหาร หรือมีอาการปวดหัวปวดเมื่อยร่างกายร่วมด้วย อาการที่เกิดขึ้นรวมไปถึงความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเปลี่ยนไป คนที่มีอาการจะเก็บตัวมากขึ้น ไม่ค่อยพูดจากับใคร กลายเป็นคนใจน้อย อ่อนไหวง่าย เรื่องแบบนี้จึงจำเป็นที่คนรอบข้างหรือคนในครอบครัวต้องคอยสังเกตและเข้าใจถึงอาการของคนเป็นโรคซึมเศร้าด้วยจึงจะสามารถช่วยลดระดับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นได้สิบกว่าปีที่รักษาโรคซึมเศร้าด้วยการรับประทานยา เริ่มแรกอาการที่ปรากฏก็คือ มีอาการเครียดต่อเนื่อง มีปัญหาที่แก้ไม่ตกหลายเรื่องรวมกัน คิดมาก คิดวนไปมาหาทางออกไม่ได้ จนส่งผลให้นอนไม่หลับ และการที่พักผ่อนน้อยก็ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมา อาทิ หงุดหงิด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด จิตใจมีแต่เรื่องกังวลรบกวนอยู่ตลอดเวลา บางครั้งตัวเองไม่รู้ตัวว่าเป็นอะไร แต่คนรอบข้างหรือคนในครอบครัวจะพูดให้ฟังถึงอาการผิดปกติต่าง ๆ พอเป็นมากขึ้น ตัวเองก็ทนไม่ไหว คนรอบข้างก็ทนเราไม่ได้แล้ว จึงไปพบหมอซึ่งจากการวินิจฉัยก็พบว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าระยะแรก จึงให้การรักษาด้วยการให้ยา เมื่อเริ่มทานยาอาการต่าง ๆ ก็ลดลง จนอาการนิ่งหลังจากที่รับประทานยาได้ประมาณ 2 ปี จึงคิดว่าตัวเองคงหายแล้วก็เลยหยุดยาเอง แรกๆ ก็ไม่ปรากฏอาการอะไร แต่พอเวลาผ่านไปปีเศษ อาการก็กำเริบขึ้นมาอีก เพราะเริ่มมีปัญหาเข้ามาในชีวิต กระตุ้นอาการเดิมให้กลับมา เริ่มคิดมาก คิดวนไปมาหาทางออกไม่ได้ คราวนี้เป็นหนักมากจนขนาดถึงไม่ทานอาหาร และไม่นอนถึง 3 วัน 3 คืน จนร่างกายอ่อนแรง ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น อยากนอนนิ่งอยู่เฉย ๆ จนกระทั่งคิดเลยเถิดไปจนถึงเกิดอาการที่ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร มันทรมาน เป็นทุกข์สุดๆ จึงคิดไปถึงเรื่องฆ่าตัวตาย คิดว่าถ้าตายไปแล้วคงจะพ้นสภาพทุกข์ทรมานนี้ได้ ยังดีที่พอมีสติอยู่บ้างเพราะร่างกายมันไม่ไหวแล้ว จึงพาตัวเองนั่งแท็กซี่ไปโรงพยาบาล หมอสั่งนอนโรงพยาบาลทันที ร่างกายขาดสารอาหารอย่างมาก ต้องฉีดยา กินยาบำรุงร่างกายให้ฟื้นตัวขึ้นมาก่อนทันทีเรื่องหนึ่ง และรักษาทางด้านจิตใจควบคู่กันไปจนอาการดีขึ้นและคงที่ในที่สุดปัจจุบันแนวคิดเกี่ยวกับสาเหตุของโรคซึมเศร้านั้น เชื่อกันว่ามีสัมพันธ์กับหลายๆ ปัจจัย ทั้งจากด้านกรรมพันธุ์ ปัจจัยทางชีวภาพ เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับสารเคมีในสมองบางตัว ซึ่งมีการค้นพบว่าระบบสารเคมีในสมองของผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากปกติอย่างชัดเจน โดยมีสารที่สำคัญได้แก่ ซีโรโทนิน (serotonin) และนอร์เอพิเนฟริน (norepinephrine) ลดต่ำลง เป็นต้น อีกประการหนึ่งคือพัฒนาการของจิตใจบางคนมีแนวคิดที่ทำให้ตนเองซึมเศร้า มองอดีตเห็นแต่ความบกพร่องของตนเอง หรือ มองโลกในแง่ร้าย เป็นต้น คนเหล่านี้เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่กดดัน เช่น ตกงาน รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า หย่าร้าง ถูกทอดทิ้งจะมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการซึมเศร้าได้ง่าย ดังนั้นเมื่อเรารู้ตัวว่าเราเป็นภาวะโรคซึมเศร้าแล้วควรได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และการรักษานั้นควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ การหยุดรับประทานยาเอง จะเป็นเหตุให้อาการของโรครุนแรงมากขึ้นได้ และอาจจะไม่สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ในที่สุด