ผมเริ่มสนใจมะเขือเทศมาเมื่อไม่นานมานี้เองครับ เริ่มจากไปทานกาแฟที่ร้านแห่งหนึ่งในคุ้งบางกะเจ้าแล้วมีเจ้ามะเขือเทศขายรวมอยู่กับเบเกอรี่ภายในร้าน โดยเจ้าของร้านแนะนำว่าเป็นมะเขือเทศพันธุ์ที่คนนิยมทานผลสดเท่านั้น มีรสชาดหวาน กรอบ และไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว ชื่อพันธุ์ว่า Solarino (โซลาริโน่) และหลังจากได้ลองทานก็พบว่ามันอร่อยจริงๆ หลังจากนั้นผมก็เริ่มค้นคว้าข้อมูลของมะเขือเทศจนได้พบว่า มันเป็นผลไม้ที่มีประวัติที่น่าสนใจมากชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้ เลยเก็บมาแชร์เพื่ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน มะเขือเทศในประเทศไทยมีชื่อเรียกต่างกันไปตามภูมิภาค เช่น ภาคเหนือเรียก บะเขือส้ม,เขือส้ม ส่วนภาคอีสานเรียก มะเขือเครือ, มะเขือน้อยและภาคใต้เรียก เขือเทศ จ่ากบันทึกของหมอบรัดเลย์ เมื่อปีพ.ศ.2416 กล่าวว่า “มะเขือเทศเป็นชื่อมะเขือ เขาเอาพันธุ์มาแต่เมืองเทศ ปลูกไว้ในเมืองไทยจึงเรียกมะเขือเทศ” ตามประวัติแล้วมะเขือเทศเป็นผลไม้พื้นเมืองของชาว Aztecs ในนครเม็กซิโก แต่ต่อมาหลังจากที่ตกเป็นเมืองอาณานิคมของสเปน ชาวสเปนจึงได้นำพันธุ์ไปทดลองปลูกไว้เป็นไม้ประดับในตอนแรกเนื่องจากเป็นพันธุ์ไม้ที่เค้าไม่เคยรู้จักมาก่อนและได้ตั้งขื่อให้ใหม่เป็นไม้มงคลว่า “แอปเปิลแห่งความรัก” (love apple) หรือ “แอปเปิลทอง” (gold apple) เล่ากันว่าชาวฝรั่งเศสฟังสำเนียงภาษาอิตาเลียนเรียกมะเขือเทศว่า “Pomi dei Mors” เพี้ยนเป็น pomme d’amour ซึ่งแปลว่า “แอปเปิลแห่งความรัก” อันที่จริง pomi dei Mors แปลว่า apple of the Moors หรือ แอปเปิลของพวกมัวร์ แต่การเรียกเช่นนี้ก็ทำให้ชาวคริสต์ที่เคร่งศาสนา และเป็นนักอนุรักษ์นิยมรู้สึกกลัว โดยอ้างว่าการที่คัมภีร์ไบเบิลไม่เคยกล่าวถึงมะเขือเทศเลย นั่นแสดงว่า พืชชนิดนี้คงเป็นพืชที่มาจากนรก สมัยก่อนฝรั่งเชื่อว่ามะเขือเทศเป็นผลไม้กาม ผลไม้กระตุ้นกำหนัด สมัยหนึ่งหนุ่มสาวชาวอังกฤษเคยนิยมมอบมะเขือเทศสีแดงแก่คนรักเพื่อแสดงความเสน่หา ในทางตรงข้ามหญิงสาวผู้เดียวดายไร้ชายคู่รักก็จะเอาเมล็ดมะเขือเทศตากแห้งห่อไว้ในผ้าพันคอติดกายเป็นยาเสน่ห์ดึงดูดความสนใจของบุรุษเพศ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อกันว่ากลิ่นที่รุนแรงของผลมะเขือเทศนั้นเป็นพิษด้วย จนความเชื่อเรื่องนี้ได้ถูกหักล้างไปด้วยความรู้ทางวิชาการ และงานวิจัยจากแหล่งความรู้ต่างๆ มากมายในภายหลัง และในบางประเทศอย่างอเมริกาเองถึงขนาดที่นายโรเบิร์ตจอห์นสัน นายกสมาคมพืชสวนของเมืองซาเล็มรัฐนิวเจอร์ซี่ ต้องลงทุนกินมะเขือเทศด้วยตัวเองเป็นการพิสูจน์ ท่ามกลางสายตาฝูงชนที่กำลังลุ้นว่าเขาจะต้องตายด้วยพิษมะเขือเทศหรือไม่ สำหรับรสชาดของพันธุ์โซลาริโน่นั้นดูจะมีความเป็นผลไม้มากกว่ามะเขือเทศในสายพันธุ์อื่นๆ (คหสต) ที่มีขายในบ้านเรา ทั้งสายพันธุ์ราชินี (เชอร์รี่) สายพันธุ์สีดา, สายพันธุ์คิงคัพ, ชายนี่ควีน, สวีทเกิร์ล ฯลฯ ซึ่งสายพันธุ์เหล่านี้ (จากการทดลองรับประทานของผู้เขียนเอง) พบว่าแม้จะมีรสชาดจุดเด่นต่างกัน หวานมากบ้าง หวานน้อยบ้าง แต่มีรสสัมผัสความฉ่ำของไส้ผลที่ความคล้ายคลึงกัน ในขณะที่รสชาดของพันธุ์โซลาริโน่นั้นจะออกไปทางนัวนัว ไม่ฉ่ำ เนื้อแน่น ความหวานไม่จัดมาก และไม่มีกลิ่นฉุนเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นจึงเป็นพันธุ์ที่นิยมทานผลสดมากกว่าพันธ์ุอื่นที่นิยมนำไปประกอบกับอาหารต่างๆ แต่ทั้งนี้ก็ล้ินใครลิ้นมันนะครับ เพราะมะเขือเทศไม่ว่าจะพันธ์ุไหนก็ล้วนมีประโยชน์แทบทั้งสิ้นครับ สุดท้ายนี้ก็ขอให้ผู้อ่านทุกท่านเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายให้สม่ำเสมอเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงยั่งยืนครับ ที่มาภาพ : เครดิตภาพปกออกแบบโดย Sponchia จาก pixabay / ภาพประกอบ 1-2,4 ถ่ายภาพโดย สถาพร ปานปรีดา (Stromhead) / ภาพประกอบ 3โดย Kathas_Fotos จาก pixabay