วลีที่ว่า "ตามใจฉัน คือไทยแท้" ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยก็ยังคงใช้ได้ดี และมีทีท่าว่าจะอยู่คู่กับคนไทยไปอีกนาน เพราะด้วยวลีนี้เองที่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า คนไทยในจำนวนไม่น้อยที่มักจะทำตามใจตนเองเสมอ โดยไม่คำนึงถึงส่วนรวมหรือผู้อื่น และมักปิดกั้นการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างมีระเบียบวินัย เพราะด้วยลักษณะคนไทยที่ไม่ชอบให้ใครมาสอน จึงถือเป็นอีกเรื่องที่ปิดกั้นสามัญสำนึกไปสู่หนทางที่ควรจะดีกว่าของการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสังคมที่ควรเป็นความมักง่ายในสังคมไทย มักพบเจอพบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเรื่องของการทิ้งขยะ, การจอดรถในที่ห้ามจอดบนถนนสาธารณะ หรือแม้เเต่การใช้สิ่งของที่ถือว่าเป็นของส่วนรวม เราจะพบว่าคนไทยหลายคนมักไม่ให้ความสำคัญกับคำว่า "ส่วนรวม" เท่าที่ควร มักจะยึดติดความสะดวกสะบาย และเลือกที่จะมองข้ามสิทธิผู้อื่น ซึ่งในเรื่องนี้ทำให้คนไทยในจำนวนไม่น้อย ถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคลโดยไม่รู้ตัว และถูกมองว่าเป็นเรื่องปรกติไปห้างสรรสินค้า เป็นอีกที่หนึ่งที่มีผู้คนเข้าใช้บริการร่วมกันจำนวนมาก ซึ่งหากเราลองสังเกตดูก็จะพบเห็นความเห็นแก่ตัวของคนไทยได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถในที่ห้ามจอด หรือ จอดรถในช่องจอดรถของผู้พิการ ก็จะพบเห็นได้แทบจะทุกวัน และอีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความมักง่ายของคนไทยได้เป็นอย่างดีคือ "รถเข็นสินค้า"ทุกคนทราบดีว่า "รถเข็น" ที่ทางห้างสรรพสินค้าจัดเตรียมไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าใช้บริการ โดยผู้เข้าใช้บริการสามารถนำไปใช้ใส่สินค้าขณะทำการเลือกซื้อสินค้าได้ แต่มักจะไม่รู้ว่า เมื่อใช้แล้วจะต้องนำรถเข็นกลับมาเก็บไว้ในช่องเก็บรถเข็นที่ทางห้างร้านกำหนด ซึ่งถ้าหากคิดสักนิดว่าการกระทำนี้เดือดร้อนผู้อื่นหรือไม่ คงจะไม่มีภาพที่น่าละอายเหล่านี้เกิดขึ้นในสังคมไทยประเทศที่เจริญแล้ว มักจะเห็นได้ชัดว่าประชาการของประเทศนั้นมักจะมีระเบียบวินัย และความรับผิดชอบต่อสังคมค่อนข้างสูง ซึ่งแตกต่างจากประเทศไทยของเรา ที่ถึงแม้ว่าจะมีการนำเข้ามาของเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เกิดความก้าวหน้าในการพัฒนาประชากรไทยให้ดีความด้วยเลยการตระหนักให้เห็นถึงระเบียบวินัยภายในสังคม เป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญที่มีส่วนช่วยให้ประเทศไทยพัฒนาต่อไปได้ ซึ่งแน่นอนว่าการพัฒนาประเทศ ไม่ได้มีแค่เรื่องของเศรษฐกิจ การเมือง หรือวิทยาการที่ก้าวล้ำเท่านั้น การศึกษาและระเบียบวินัยยังมีผลต่อความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตของคนไทยอีกด้วยผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะมีส่วนช่วยให้สังคมไทยได้ตระหนักถึงระเบียบวินัยในสังคมมากขึ้น การเริ่มต้นที่ตนเอง และเป็นแบบอย่างที่ดีอาจเป็นก้าวเเรกที่สำคัญในการพัฒนาระเบียบสังคมในด้านอื่นๆตามไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตโรคระบาด Covid-19 ที่เราทุกคนมีส่วนร่วมในการยุติโรคระบาดนี้ได้ ด้วยระเบียบวินัยที่เป็นสากล ไม่ว่าจะเป็นการรักษาระยะห่างทางสังคม (social distancing) หรือการสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน