สวัสดีคะเพื่อน ๆ วันนี้เราจะมารีวิวการทำศัลยกรรมจมูกครั้งแรกในชีวิตของเราค่ะ อันเนื่องมาจากสาเหตุที่เราต้องทำเพราะเราเคยประสบอุบัติเหตุจากการลื่นล้มแล้วหน้าไปกระแทก จึงทำให้จมูกเดิมของเราเบี้ยวและคดงอ เลยทำให้มีหลายคนทักว่าจมูกเราเริ่มเบี้ยวอันเนื่องมาจากเราปล่อยทิ้งไว้นานและไม่ยอมไปรักษา เราเลยตัดสินใจไปผ่าตัดศัลยกรรมจมูกเพื่อแก้ไขให้มันดีขึ้นและเป็นการเสริมเรื่องโหงวเฮ้งอีกด้วย จะเป็นอย่างไร เรามาดูกันเลยค่ะ วันที่ 9 ธันวาคม 2562 เราได้ไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลเอกชัย เพื่อปรึกษาและผ่าตัดศัลยกรรมจมูก คุณหมอบอกว่าเรา จมูกเราเบี้ยวและฐานก็เอียง เนื้อจมูกตรงโคนตามีน้อย ถ้าทำ ก็ทำได้ไม่โด่งมาก ออกแนวแบบธรรมชาติ "เอาล่ะสิเราได้ยินแบบนี้ก็ใจแป๋วเลยค่ะ เพราะคิดว่าออกมาไม่โด่งจะสวยเข้ากับหน้าเราไหมนะ" เมื่อเราปรึกษาคุณหมอเสร็จสรรพเราก็ได้คิวผ่าวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ซึ่งกว่าจะถึงวันที่ 12 เราตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเลยค่ะ 55 แถมแอบกลัวด้วย ภาพจาก : กิตติยา สิงห์จันทร์ (ผู้เขียน) และแล้วเวลาก็ล่วงเลยจนมาถึง วันที่ 12 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่เราต้องเข้าผ่าตัดเพื่อศัลยกรรมจมูก เรียกง่าย ๆ ว่า "ขึ้นเขียงล่ะค่ะ" ระหว่างรอเข้าห้องผ่าตัดคุณหมอให้เราทานยาคลายเครียดซึ่งจะมีฤทธิ์ง่วงหน่อย ๆ แต่ไม่หลับเพื่อให้เราไม่รู้สึกกลัวขณะผ่าตัดคะ เมื่อผ่านไปสักพักพยาบาลก็ให้เราไปล้างหน้าล้างจมูกและเปลี่ยนชุดและเตรียมเข้าห้องผ่าตัด หลังจากที่เราเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วและเดินเข้าห้องผ่าตัด พยาบาลให้เรามานอนบนเตียงและคลุมหน้าด้วยผ้าสีเขียว ๆ และแล้วการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก ก็เริ่มขึ้นค่ะ คุณหมอใช้ไม้บรรทัดเล็ก ๆ วัดที่จมูกเรา เพื่อเหลาซิลิโคนให้เข้ากับหน้าเรา พอคุณหมอเหลาซิลิโคนเสร็จ เขาหยิบเข็มที่มีลักษณะเล็ก ๆ ในใจเราคิดว่าน่าจะเป็นยาชา ตอนที่โดนฉีดยาชาที่จมูก เรารู้สึกเจ็บจื๊ด ๆ น้ำตาเราไหลพรากเลยค่ะ จากนั้นคุณหมอก็ใช้มีดกรีดที่โพรงจมูกด้านขวาของเราเพื่อเปิดแผล (ตอนนั้นไม่รู้สึกอะไรเลยคะ รู้สึกชา ๆ แถมง่วงหน่อย ๆ ด้วยค่ะ) แล้วคุณหมอก็เอาตะไบอันเล็ก ๆ มาตะไบที่จมูกของเราทั้งสองข้างคะ เพื่อปรับฐานจมูกให้เท่ากันทั้งสองข้าง ระหว่างที่คุณหมอตะไบจมูกอยู่นั้นเราได้ยินเสียงครืด ๆ แต่ไม่รู้สึกเจ็บเลยน่ะค่ะ จากนั้นคุณหมอก็เอาซิลิโคนที่เหลาไว้แล้วยัดใส่ที่จมูกเรา และเย็บปิดแผลคะ เรียกได้ว่า คุณหมอผ่าตัดเร็วมาก ๆ เลยค่ะ เรายังงงเลย เมื่อผ่าตัดเสร็จพยาบาลก็ให้เรามานอนพักและประคบเย็นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อให้หมดฤทธิ์ยาและหายมึนงงถึงจะกลับบ้านได้ค่ะ ภาพจาก : กิตติยา สิงห์จันทร์ (ผู้เขียน) ผ่านไป 1 ชั่วโมงเราก็กลับบ้าน ซึ่งหลังจากที่เรากลับมาบ้าน เราสังเกตุว่าเราบวมน้อยมาก ๆ และไม่ช้ำเลยคะ ระหว่างนั้นค่อยประคบเย็นและทานน้ำฟักทองเยอะเลยคะช่วงนั้น แล้วตอนนอนเราต้องนอนหมอนสูงและต้องนอนหงายเท่านั้นเป็นเวลา 1 เดือน ภาพจาก : กิตติยา สิงห์จันทร์ (ผู้เขียน) รูปนี้เป็นภาพถ่ายหลังจากที่เราทำจมูกครบ 1 เดือนคะ ซึ่งโดยรวมแล้วเราถือว่าพอใจมาก ๆ คะ เพราะทำเข้ากับหน้าเรา และดูไม่โป๊ะไม่โด่งจนเกินไป "สวยเหมือนจมูกแม่ให้มาเลยค่ะ" ก่อนจะจากกันไปเราอยากฝากถึงเพื่อน ๆ ที่จะคิดทำศัลยกรรมจมูกน่ะค่ะ เราอยากให้ศึกษาข้อมูลเยอะ ๆ ถึงตัดสินใจทำน่ะค่ะ เมื่อตัดสินใจทำไปแล้วอยากให้ดูแลตัวเองดี ๆ แล้วอย่าเดินบ่อยให้ทานน้ำฟักทองหรือซุปทองคะ เพราะตอนเราทำเราทานทุกวันเลยจนจมูกเราหายไวมาก ๆ ค่ะ เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย ขอบคุณภาพพื้นหลังปกจาก : pixabay.com URL https://bit.ly/36vZZdo