เราจำได้ว่าตอนที่เราเริ่มเล่นกีฬา คือเริ่มวิ่งแรก ๆ เราเป็นตัวช้าที่สุดในกลุ่ม เราเริ่มวิ่งเป็นคนสุดท้าย เพื่อน ๆ เริ่มลงสนามวิ่งไปได้ 3-4 สนามแล้ว แต่เรายังไม่เริ่มแม้แต่จะซ้อม เพราะเราไม่ชอบออกกำลังกาย ตอนเรียนวิชาเทควันโด เรายังเล่นผิดจนบาดเจ็บและเล่นไม่ได้อีกต่อไป ยิ่งทำให้เราเข็ดว่า การเล่นกีฬาคือการทรมานตัวเอง ตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง เราจะเป็นคนเดียวในกลุ่มที่หายไปเสมอเมื่อเพื่อน ๆ นัดกันไปวิ่ง ดังนั้น เราต้องเปลี่ยนตัวเอง เราเริ่มซ้อมวิ่ง 5 นาทีก็เหนื่อยแล้ว แต่เราก็ซ้อมเรื่อย ๆ เราเข้าฟิตเนส เราว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ทำทุกอย่างเพื่อให้ร่างกายเกิดความอยากออกกำลังกาย และในที่สุดก็กลายเป็น “คนวิ่งลากเพื่อนเข้าเส้นชัย” ภาพโดย เจ้าของบทความ sakanaj. โค้ชในสนาม งานวิ่งงานหนึ่ง แฟนเพื่อน(มันก็เพื่อนเรานั่นแหละ) บอกว่า ฝากด้วยนะ ไม่รอแล้ววิ่งช้าแล้วปวดขา เราก็ อ้าว!แล้วชั้นไม่ปวดขาเหรอ แต่ก็ได้ เอาเป็นว่าวิ่งเล่น ๆ ไปก็แล้วกัน เราลง 10 กิโลเมตร ในที่นี้ขอใช้คำว่า k แทนคำว่า กิโลเมตร ตามภาษานักวิ่ง เราตกลงกันว่าจะเข้ากี่นาที สรุปคือ 1 ชั่วโมง 40 นาที ภาพโดย เจ้าของบทความ sakanaj. พอเริ่มปล่อยตัว เราคาดว่า 3k ก็ค่อยพัก แต่เพื่อน ๆ ไม่ไหว 2k คือปิดจบ ขอพัก และทั้งสองก็เริ่มเดินและเดินและเดิน เหมือนจะไม่วิ่งแล้ว เราต้องหลอกล่อเหมือนเด็ก ๆ โดยให้ทำ mission โดยให้วิ่ง pace 8 เป็นเวลา 5 นาที แล้วให้วิ่งแบบเหยาะ ๆ pace อะไรก็ได้แบบไม่ต้องเหนื่อย แต่ห้ามเดิน พวกนางทำได้ 3 รอบ ก็เริ่มเดินอีก จนคุณเธอทั้งสองบอกเราว่า ไปก่อนได้นะ ไม่ต้องรอ เหนื่อยมาก เราก็เริ่มปวดขา และเริ่มหน้ามืดเล็ก ๆ เพราะเราไม่ไหวกับการวิ่งช้าแบบนั้นและวิ่ง ๆ หยุด เรารู้สึกเหมือนหน้ามืด เพราะมีบางช่วงที่เราวิ่งนำเพื่อนไปให้ครบ 1k แล้ววิ่งย้อนกลับมาก็พบว่าเพื่อนเดินอยู่ เราก็หยุดเดินด้วย ทำแบบนี้ได้แค่ 2 รอบเราก็เริ่มไม่ไหว ภาพโดย เจ้าของบทความ sakanaj. เราเลยคิดทำ mission ใหม่ โดยการที่ถ่ายรูปแล้วกัน ให้สาว ๆ วิ่งแบบเหยาะ ๆ ไปเรื่อย ๆ แล้วเราก็ถ่ายรุปให้ เพราะวิวทางวิวตอนเช้า ๆ เรียกได้ว่า สวยมาก สาว ๆ ก็ชอบด้วย เต็มใจวิ่งให้เราถ่ายรูปกันเกือบ 5k จนเกือบเข้าเส้นชัยอีกแค่ 1.5k ทั้งสองก็พูดพร้อมกันว่า ให้เราไปรอที่เส้นชัยเลย ถ่ายรูปให้ด้วย เราก็บอกว่าเดี๋ยวรอนานไม่สนุก เพื่อนให้สัญญาว่าไม่เกิน 20 นาทีไปถึงแน่ เราก็วิ่งไปรอที่เส้นชัย จนเห็นเพื่อนพากันวิ่งเข้ามา เรารีบส่งสัญญาณให้เร็วหน่อยเพราะ กำลังใกล้เป้าหมายคือ 1 ชั่วโมง 40 นาที และแล้วพวกนางก็ทำได้ 1 ชั่วโมง 40 นาที พอดี ภาพโดย เจ้าของบทความ sakanaj. เก่งมากเพื่อน เราถือว่าการวิ่งครั้งนี้สนุกกว่าทุกครั้งเพราะเหมือนเป็นการวิ่งให้กำลังใจเพื่อน ๆ ไม่ได้วิ่งแบบเอาเป็นเอาตาย ไม่ได้วิ่งเก็บ pace แต่วิ่งเก็บใจ ชอบตรงที่เพื่อนบอกว่า “ถ้าไม่มีแก รับรองป่านนี้พวกชั้นยังไม่ถึงแน่” มันคือความภาคภูมิใจอีกอย่างหนึ่งที่สามารถ “ลากเพื่อนเข้าเส้นชัย” ได้ ภาพปกโดย เจ้าของบทความ sakanaj.