สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ผู้เขียนจะมาเล่าต่อจากบทความที่ได้เขียนไปก่อนหน้านี้ ก็คือสถานที่ที่ไปจุดแรกของการมาถึง ณ ประเทศมาเลเซีย นั่นก็คือ "Petronas Tower" วิธีการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆบางครั้งถ้าไม่สามารถเดินไปก็จะใช้บริการ grab car ค่ะ สถานที่ต่อไปจากนี้ก็คือ"ห้างสรรพสินค้า Pavillion" ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า ที่เต็มไปด้วยผู้คนและแสงสี บริเวณภายในห้างก็จะมีอีกหลายเค้าท์เตอร์แบรนด์อีกเพียบทั้งด้านนอกและด้านใน ผู้คนต่างพากันมาซื้อสินค้าเยอะแยะมากมาย อีกทั้งยังมีร้านอาหาร ร้านชากาแฟ ขนม ให้ชิมมากมาย ถ้าในประเทศไทยก็เปรียบเสมือน Siam Paragon เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของมาเลเซีย) และเป็นอีกจุดนึงที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปบริเวณนี้กันเยอะเช่นกัน สามารถขอให้คนที่นั่นถ่ายรูปให้ได้นะคะ ผู้เขียนได้มาแค่รูปเดียวเอง สถานที่ต่อไปเป็นสถานที่ที่ผู้เขียนชอบมากนั่นก็คือ ย่านของกินนั่นเองหรือที่เรียกกันว่า "PETALING STREET" ถนนเปตาลิง คือศูนย์กลางไชน่าทาวน์เก่าในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ปัจจุบัน ยังคงมีกลิ่นอายดั้งเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้าออกจากตั้งร้านจำหน่ายสินค้าริมถนน ที่นี่สามารถหาซื้อสิ่งของได้ทุกชนิด ตั้งแต่เครื่องประดับ เครื่องหอมบูชา ของเล่น เสื้อยืด เสน่ห์ที่แท้จริงของตลาดนัดกลางคืนแห่งนี้คือ การได้เดินชมสินค้า ฟังเสียงของผู้คน และสัมผัสความมีชีวิตชีวาของตลาด ในขณะเดียวกันก็ยังมีอาหารมากมายให้ทุกคนที่มาได้เลือกรับประทาน ร้านอาหารบางแห่งสืบทอดกิจการมาแล้วหลายรุ่น ถนนเปตาลิงคราคร่ำไปด้วยชาวมาเลเซียในท้องถิ่นและชาวต่างชาติที่ต่อรองราคาซื้อเครื่องประดับและอาหารจีน ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำคือเรียกความกล้า เตรียมท้องให้ว่าง จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังถนนเปตาลิงเพื่อต่อรองให้ได้สินค้าในราคาที่เราพอใจ แต่หากเราไม่อยากจ่ายเงิน (ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก) การไปเดินเล่นที่ถนนแห่งนี้ จะมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจให้แก่ทุกคนที่มาได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งที่นี่ก็ไม่ได้แตกต่างจากบรรยากาศถนนคนเดินหรือตลาดนัดบ้านเราเท่าไรนัก หรืออาจจะคล้ายๆกับถนนข้าวสารในกรุงเทพ แต่ที่นี่ของกินแต่ล่ะชนชาติจะเยอะมากๆ กินจนจุกกันเลยทีเดียว มีสารพัดอาหาร สิ่งที่ชอบกินมากที่สุดที่ทำให้ผู้เขียนจำได้แม่นเลย เช่น โรตีจาไน สะเต๊ะแกะ เคบับไก่รมควัน บะกุ๊ดเต๋ ติ๋มซัมที่นี่อร่อยมาก "Assam laksa (ก๋วยเตี๋ยวชนิดนึงคล้ายกับขนมจีนทางไทย แต่ออกรสชาต เปรี้ยวหวาน มีเครื่องต้มยำและเครื่องเทศอื่นๆ)" "Nasi Lermak (อาหารพื้นเมืองของชาวมาเลย์)" อีกหลายอย่างเลยค่ะ ถ้าใครชอบกินแนะนำมาเดินกินที่นี่ได้เลย ถ้ามาที่กัวลาลัมเปอร์ วันสุดท้ายครึ่งวันก่อนกลับก็ได้นั่งรถชมรอบเมืองหลวง ยังมีอีกหลายสถานที่ใน กรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่ผู้เขียนอยากจะไปอีก ไว้คอยติดตามกันบทความต่อไปนะคะ คนที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้ ภาษาจีนก็พูดได้ ดังนั้นไม่ต้องกลัวเลยค่ะ บางคนพูดภาษาไทยได้ด้วย การท่องเที่ยวนี้ผู้เขียนเดินทางคนเดียวนะคะ ภาษาอังกฤษก็งู ๆปลา ๆ แต่บอกเลยสนุกมากได้ประสบการณ์เยอะแยะมากมายเลยค่ะ สำหรับ3วัน2คืน ขากลับไปยังประเทศไทยผู้เขียนเดินทางกลับด้วยรถบัสนะคะ ซึ่งสถานีรถบัสชื่อ TBS หรือ Terminal Bersepadu Selatan เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารขนาดใหญ่ ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประมาณ 10 กิโลเมตร เมื่อไปถึงแล้วไปที่จุดบริการตั๋วแล้วบอกว่าจะซื้อตั๋วไปลงที่ด่านนอก ราคาประมาณ 60-80 ริงกิต ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัททัวร์ หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อย เดินเข้าgate เพื่อนั่งรอรถบัสเข้ามารับได้เลยค่ะ การไปนั่งรอรถบัสจะคล้าย ๆ กับการเข้า gate รอเครื่องบิน แต่้ขอรับรองว่ารถบัสนั่งสบายมากๆ ไม่แออัด เบาะนิ่มมากแต่ต้องใช้เวลานานในการเดินทาง หากใครสะดวกอยากจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างการเดินทางแนะนำแบบนี้เลยค่ะ วิวระหว่างทางสวยด้วยนะคะ ผู้เขียนใช้เวลาเดินทางกลับประเทศไทย ประมาณ 8 ชั่วโมง ไปยังสถานที่ราชการตรวจคนเข้าเมืองพรมแดนสะเดา (จังหวัด สงขลา) และนั่งรถบัสคันเดิมค่ะไปที่ออฟฟิตท่ารถบัส และ นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปยังขนส่งเพื่อนั่งรถตู้ไปยังสนามบินหาดใหญ่ ถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพคะ