การออกเดินทางท่องเที่ยวสักครั้งหนึ่ง ใครว่าเราต้องหาเวลาให้มากที่สุด ใครว่าเราต้องเตรียมเงินให้เยอะที่สุด เปล่าเลยขอเเค่การเดินทางสักครั้งหนึ่งที่ในชีวิตเราได้เตรียมตัวเเละเตรียมใจให้พร้อมไปกับคนข้างกายที่รู้ใจสักหน่อยก็สามารถสนุกได้อย่างไม่มีวันลืมได้เลยทีเดียวเเหละ ทริปนี้ต้องบอกก่อนว่าไม่เคยมีทริปไหนที่ไปเที่ยวเเล้วคนเยอะได้เท่านี้มาก่อน จริง ๆ เเล้วทริปนี้มันควรจะเกิดได้ตั้งนานเเล้ว เเต่ก็นั่นเเหละ มันก็ยังถือว่าไม่สายไปสักหน่อย กว่าที่ชีวิตทั้ง 17 ชีวิตจะรวมตัวเเละหาเวลาว่างพร้อมกันทุกคนได้ขนาดนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ อย่างเเน่นอน อีกทั้งอากาศช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ที่หนาวเย็นพาให้สดชื่นหัวใจก็เเทบจะเกิดให้ขึ้นได้ยากเย็นในประเทศไทยช่วงนี้อีก มันเหมือนกับว่าทุกอย่างกำลังลงตัวเเละบอกพวกเราเป็นนัย ๆ ว่าอย่ารอช้ากว่านี้อีกเลย ลุยกันเลยเถอะพวก~ จุดเริ่มต้นได้เริ่มขึ้นหลังจากที่พวกเราทั้ง 17 คนสอบปิดภาคเรียนเทอมที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ตัวสุดท้ายเสร็จ เวลา 15.30 น. ทุกคนก็พากันกลับหอไปเก็บกระเป๋าเเละนัดรวมพลกันหน้าหอพร้อมกับรถกระบะอีก2คัน เมื่อพร้อมหน้าเเล้วก็พากันโยนกระเป๋าเเละตัวเองขึ้นไปบนรถประจำตำเเหน่งเตรียมพร้อมออกเดินทางกระทบกับความหนาว มุ่งหน้าสู่ไร่ภูกามยาว จังหวัดสระบุรี ด้วยกองเงินที่ทุกคนรวมกันคนละ 600 บาท ทั้งค่ากินค่าอยู่รวมค่าน้ำมันเสร็จสรรพ เดินทางออกมาเรื่อย ๆ เเวะบ้างหลงบ้าง เพื่อนที่นั่งหลังกระบะก็โดนลมเป่าจนเกือบจะเเข็งกันไปเป็นเเถบ ๆ สุดท้ายเราก็มาถึงไร่ภูกามยาวทันค่ำ ในเวลา19.10 น. พร้อมกับเสบียงอาหารมื้อใหญ่ เมื่อไปถึงพวกเราไปติดต่อกับคุณลุงคุณป้าเจ้าของไร่ ซึ่งทางไร่มีค่าที่พักกันคนละ 100 บาทรวมค่าไฟเเละอาหารเช้า ซึ่งคือคุ้มเเบบคุ้มมากจริง ๆ ที่นี่มีทั้งอาหาร ขนม น้ำดื่มไว้ขายเรียกได้ว่าเป็นร้านของชำย่อย ๆ เลยก็ว่าได้ เเละคุณลุงกับคุณป้าทั้งสองก็ใจดีมาก ๆ เอ่ยปากชมไม่ขาดสายว่าพวกเราเก่งมากที่รวมตัวมาเที่ยวกันได้เยอะขนาดนี้ พร้อมกับพาเราขึ้นภูเขาไปหาเเพรใหญ่ที่รองรับพวกเราได้เป็นอย่างดี พวกเราขับรถขึ้นเขาเตี้ย ๆ เพื่อมาดูสถานที่หลับนอน ซึ่งต่างพากันร้องว้าว เพราะบนเเพรนั้นสวยมากจริง ๆ มันสามารถมองลงได้เห็นทุกภาพ บรรยายกาศภายในไร้ได้อย่างสุดลูกหูลูกตา คุณลุงช่างเข้าอกเข้าใจพวกเราจริง ๆ พอได้ที่หลับที่นอนพวกเราก็จัดเเจงเตรียมกางเต็นท์ เราเอาเต้นท์ใบใหญ่มากัน 3 เต้นท์ พร้อมกับใบเล็กอีกหนึ่ง กางเสร็จก็ได้เวลาท้องร้อง จึงพากันจุดไฟเผาตั้งเตาเพื่อเตรียมอาหารสำหรับมื้อดึกนี้ อาหารคืนวันนั้นก็ไม่มีอะไรมาก เป็นเพียงหมู ปลาหมึก กุ้งเผารวมกันพร้อมกับอุดหนุนข้าวหมดหม้อของคุณป้าเจ้าของไร่อีก 90 บาท ซึ่งทุกคนร่วมกันกิน ร่วมกันทำ ซึ่งมันทั้งอร่อยทั้งสนุกมากจริง ๆ พูดได้เลยว่าตอนนั้นเอาหูฉลามหรืออะไรมาเเลกก็คงไม่ยอมอะ ตกดึกบรรยากาศเริ่มเป็นใจสุด ๆ กับอุณหภูมิที่ลดลงเรื่อยๆจนถึง16องศา พวกเรานั่งก่อกองไฟหวังให้คลายหนาว พร้อมกับนั่งล้อมวงกลม ๆ ผลัดกันเอามือผิงไฟ รอให้ใครสักคนเอ่ยอะไรออกมาสักอย่าง เเล้วการรอคอยของพวกเราก็หมดลงเมื่อเพื่อนคนหนึ่งตะโกนร้องเพลงออกมาดัง ๆ จนคนอื่น ๆ ก็พากันวิ่งหากีตาร์เเละอุปกรณ์ทำเพลงที่ใกล้ตัวกันออกมา เเละเริ่มคลุกเคล้าเข้ากันเป็นเพลงอันไพเราะ เราร่วมกันร้อง เล่น เต้น จนกระทั่งเวลาผ่านไปถึงตี 3 บางคนก็เริ่มไม่ไหวขอเข้าเต้นท์นอนบ้าง บางคนก็ขอนั่งผิงไฟจนเช้า ในขณะที่อีกหลายคนก็ขอนอนบนเเพรหลับไปพร้อมกับดวงดาวบนท้องฟ้า รุ่งเช้าพวกเราหลายคนตื่นเพราะเพื่อนเรียกให้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขา บางคนก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปบนเขาลูกใกล้ ๆ เพื่อให้มองถนัดตา ที่นี้จะมีไกด์พาเดินชมเขาเเต่เราจะต้องนัดล่วงหน้าซึ่งมีค่าจ้างเพียงไม่กี่ร้อยบาท เพราะต้องอาศัยความชำนาญในการเดินจริง ๆ เเต่สำหรับพวกเราตอนนั้นเเค่ได้เอาหน้าโผล่หน้าออกมาจากเต้นท์เเล้วเห็นเเสงตะวันส่องเข้าตา กระทบกับกองควันเเละกองไฟเป็นประกาย ภาพตรงหน้าก็ทำให้เราไม่อยากขยับไปไหนอีกเเล้ว สวรรค์ของธรรมชาติจริง ๆ เรานั่งชมความสวยงามสักพักก็ได้เวลาอาบน้ำเเละรวมตัวกันไปกินข้าวต้ม ต้องบอกก่อนว่าข้าวต้มที่ไร่อร่อยมาก ๆ กินได้ไม่จำกัดด้วย ข้าวต้มร้อน ๆ ในบรรยาศเย็น ๆ ฟินไปหมดเลย สักพักเราก็กลับขึ้นมาบนเเพรพร้อมกับนั่งคุยเเละเตรียมเก็บข้าวของเพื่อกลับกัน รวมถึงนัดเเนะหาร้านข้าวกลางวันที่เราจะเเวะกินข้าวเที่ยงไปด้วย เมื่อถึงเวลาเที่ยงกว่า ๆ เราก็ออกจากไร่โดยไม่ลืมกล่าวคำร่ำลากับคุณลุงเเละคุณป้าเจ้าของไร่ที่ดูเเลพวกเราอย่างดี โดยสถานที่ ๆ เราจะเเวะฝากท้องก็อยู่ไม่ไกลจากไร่ภูกามยาวเท่าไหร่นัก เราเเวะที่น้ำตกเเห่งหนึ่ง พวกเรานำเงินที่เหลือจากการรวมเงินกันคนละ 600 มาเทที่นี่ด้วยการสั่งส้มตำ ปลาเผา อาหารจานเด็ดมาเต็มที่ กินกันเพลิน พร้อมกับชมวิวน้ำตกข้างหน้า นอนงีบกันอย่างอย่างสบายใจสักพัก ก็ได้เวลาขับรถกลับ ตลอดทางบ้างก็หลับ บ้างก็นั่งร้องเพลง บ้างก็นั่งคุยกัน เเต่สิ่งที่มีเหมือนกัน คือเราเชื่อว่าทุก ๆ คนรู้สึกเหมือนที่เรารู้สึก รู้สึกถึงความสุขล้นจนอธิบายไม่ได้จริง ๆ มันคือความทรงจำของเพื่อนที่รู้จักกันมา4ปี ความทรงจำก่อนที่เราจะเเยกย้ายกันไปตามทางของตัวเองหลังจากจบมหาวิทยาลัย เชื่อเถอะว่าไร่ภูกามยาวที่ว่ายาวเเล้วยังยาวไม่เท่าความทรงจำของเราในตอนนี้ได้เลย~ หากนักเดินทางท่านใดสนใจหาลานกางเต้นท์ดี ๆ เพื่อชมบรรยากาศดี ๆ สักที่สามารถไปลองชมลองดูกันได้ โดยรายละเอียดการเดินทางนั้น ขับผ่านเส้นนครนายกเข้าเส้นสระบุรีเเละเข้าไปตามซอยวัดป่าสว่างบุญเเละขับไปไร่ตามป้ายบอกข้างทางหรือตามgoogle map ได้เลยไม่ยาก จองที่พักหรือสอบถามเส้นทางสามารถติดต่อได้ที่ facebook : ไร่ภูกามยาว ลานกางเต้นท์ เบอร์โทรศัพท์ 062-4051107(คุณดารา)