สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้นานาพาทัวร์ จะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวทำบุญตอนรับวันปีใหม่ไทยประจำปี 2563 ที่กำลังจะมาถึงในเดือนหน้ากันค่ะ แต่จะเป็นที่ไหน เราไปรู้จักที่ท่องเที่ยวแห่งนี้กันเลยค่ะ วัดป่าสว่างบุญ ตั้งอยู่ที่ 6/2 หมู่ที่ 5 ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี สร้างขึ้นในปี 2528 โดยหลวงพ่อสมชายปุญญมโน บนเนื้อที่กว่า 400 ไร่ จุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะเวียนมาเที่ยวที่วัดป่าสว่างบุญแห่งนี้ คือ พระมหาเจดีย์ 500 ยอด ซึ่งมีชื่อเต็มว่า "พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ" มีเจดีย์องค์ประธานมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เมตร มีทั้งหมด 9 ชั้น มีบริวาร 500 องค์ มีเจดีย์ประธานองค์ใหญ่อยู่ตรงกลาง และมีองค์เจดีย์รายองค์เล็กตั้งลดหลั่นกันลงมาอยู่รอบๆ ทิศ มีซุ้มประตูทางขึ้นทั้งสี่มุมทำเป็นบันไดขึ้นไปยังองค์เจดีย์ที่ตั้งอยู่ทางด้านบน ตัวองค์เจดีย์เป็นปูนปั้นรูปแบบ สวยงามประณีตเคลือบสีทอง ทั้งหมดทุกองค์ผนังด้านในของเจดีย์องค์ประธานประดับกระจกทับทิม โดยรอบสวยงาม มีภาพพระธาตุเจดีย์สำคัญๆ ทั่วประเทศ ไทยประดับไว้ด้านบน ภายในองค์เจดีย์ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศเนปาล อินเดีย,ศรีลังกาและสาธารนุชน มาร่วม บรรจุในพระมหาเจดีย์ครบทั้ง 500 ยอด รวมทั้งได้นำพระบรมสารีริกธาตุ และวัตถุมงคล ของมีค่ามาสักการบูชาจำนวนมากบรรจุ อยู่ในพระเจดีย์องค์ประธาน ตรงรอบบริเวณฐานมีรูปปั้นเทวดาของปีนักษัตร 12 ราศี เราได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ที่นั่งประจำอยู่ด้านในว่าเวลาอธิฐาน ให้นำเงินเหรียญไปว่างไว้ (ตามรูปแล้วแต่ใครจะวางได้มุมไหน) จากนั้นเอามือไปแตะแล้วอธิฐานขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่มีโอกาสได้ไปกราบไหว้สักการะค่ะ เป็นความเชื่อและศรัทธาส่วนบุคคลนะคะ นอกจาก"พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ" แล้วยังมีจุดอื่นๆ ที่สวยงามให้เราได้ไปไหว้สักการบูชากัน จะมีตรงไหนล้าง ไปดูกันเลยค่ะ จุดแรกบริเวณด้านหน้าเจดีย์ มีวิหารหลวงปู่ทวด หน้าตัก 9 นิ้ว ให้ทุกท่านได้เข้าไปกราบไหว้สักการะขอพรไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ก็ขอให้เดินทางถึงจุดหมายด้วยความปลอดค่ะ จุดถัดไปเป็นบริเวณที่กำลังก่อสร้างโบสถ์ มีความยาว 42 เมตร หน้ากว้าง 19 เมตร ซึ่งเปิดให้ทุกท่านที่ได้แวะเวียนมาเที่ยวที่นี่ได้เข้าไปกราบสักการะ และปิดทองลูกนิมิตเพื่อความเป็นสิริมงคล หากใครอยากจะถวายสังฆทาน สามารถสวายในโบสถ์ได้เลยนะคะ จะมีพระท่านมาคอยรับสังฆทานให้กับญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านด้วยค่ะ เราไปต่อที่จุดถัดไปด้านข้างมีทางให้เลี้ยวเข้าไปด้านในประมาณ 300 เมตร จะเป็นพื้นที่ของ “ศาลาปฏิบัติธรรมวัดป่าสว่างบุญ” ซึ่งเป็นศาลาขนาดใหญ่โอ่งโถง ภายในประดิษฐานพระนิลกาฬเป็นพระประธาน และพระพุทธรูปหินปางปรินิพพานยาว10.59 เมตร ที่สร้างด้วยหินชิ้นเดียวซึ่งนับว่าองค์ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย พระพิฆเนศไม้แกะสลัก และอื่น ๆ อีกหลายองค์ ส่วนลานกว้างในศาลาก็ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม สำหรับชาวพุทธที่สนใจในการปฏิบัติธรรมเพื่อความสงบของจิต ทางวัดก็มีการจัดกิจกรรมปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิ อยู่เป็นประจำ ซึ่งสามารถรองรับพุทธศาสนิกชนที่สนใจได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ทางวัดยังมีโครงการจัดสร้าง "พระพุทธสีหไสน์ยาสน์" ในรูปแบบศิลปะอินเดียยาว 145 เมตรจัดเป็นพระนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งในปี 2563 ได้สร้างส่วนเศียรไปจนถึงกลางลำตัวพระแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ในอีกอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จุดถัดบริเวณด้านข้างของ"พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ" จะมีทางให้เราสามารถขับรถขึ้นไปได้ระยะทางประมาณครึ่งกิโลเมตร เราจะพระมหาเจดีย์เทพนิธากร บริเวณทางขึ้นจะเป็นบันไดรูปหัวพญานาค 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายเป็นเงินและฝั่งขวาเป็นทอง จุดนี้จะเห็นชาวบ้านนำของมาถวายเมื่อขอพรแล้วสำเร็จได้ตามที่ปรารถนา จากจุดนี้มีทางขึ้นไปด้านบนเพื่อไปกราบสักการะ "พระมหาเจดีย์เทพนิธากร" ด้านหน้าเจดีย์จะมีรูปปั้นยักษ์อยู่รอบทั้ง 4 ทิศ และมีพระพุทธรูปอยู่ด้านหลังติดกับตัวเจดีย์ เมื่อเราลงมาจากพระมหาเจดีย์เทพนิธากรแล้วหากใครอยากกลับลงไปด้านล่างก็ให้ขับรถย้อนกลับทางเดิม แต่หากใครอยากไปในจุดถัดไปก็ให้ขับตรงไปจะเจอลานพระพุทธรูปปางห้ามญาติองค์ให้เราเข้าไปกราบสักการะได้จากจุดนี้มีทางให้เราเดินลงไปด้านล่างได้ แต่แนะนำว่าหากนำรถมาขับย้อนกลับลงไปทางเดิมที่ขึ้นมาจะสะดวกกว่าค่ะ การเดินทาง ที่วัดป่าสว่างบุญไม่มีรถสาธารณะผ่าน ต้องใช้รถส่วนตัว โดยใช้เส้นทาง สระบุรี-นครนายก จาก อ.แก่งคอย ไปประมาณ 15 กิโลเมตร พอถึงตำบลชะอม เลี้ยวซ้ายไปเส้นทางเที่ยวน้ำตกโกรกอีดก ตรงเข้าไปประมาณ 4 กิโลเมตร วัดตั้งอยู่ทางขวามือ มีป้ายบอกชัดเจน เวลาเปิดทำการ ทางวัดเปิดทุกวันเวลา 07:00 - 18:00 หากใครที่ได้มาแวะเที่ยวแถวสระบุรี หรือนครนายก ก่อนกลับก็อย่าลืมแวะมาเช็คอินและถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกที่วัดป่าสว่างบุญแห่งกันนะคะ ที่สำคัญการเข้ามาเยี่ยมชมวัดแห่งนี้ ไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายในการเข้าชมค่ะ บทความโดย : นานา ภาพโดยผู้เขียน : นานา