หลายคนคงเคยตั้งคำถามกับตนเองว่า “ทำไมเราถึงย่ำอยู่กับที่เช่นนี้" และคำถามต่อมาคือ “เป็นไปได้ไหม หากเราจะแก้ไขนิสัยแย่ ๆ ของเรา และมีชีวิตที่ดีขึ้น” ผู้เขียนเองก็เคยมีคำถามทั้งสองข้ออยู่ในใจเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้เขียนใช้เวลาในช่วงว่าง ๆ จากการทำงาน ศึกษาวิธีการต่าง ๆ จากตำราแล้วปฏิบัติตาม จนได้ค้นพบว่าอารมณ์มีส่วนสำคัญอย่างมากกับความก้าวหน้าของเรา หากคุณลองนึกถึงเหตุการณ์ที่คุณกำลังถูกเจ้านายตำหนิ จำได้หรือไม่ว่าคุณรู้สึกอย่างไร หากคุณไม่โกรธเจ้านายของคุณ ยอมรับและปรับปรุงแก้ไข บทความนี้อาจไม่จำเป็นกับคุณ แต่ถ้าหากคุณรู้สึกโกรธ น้อยใจ ไม่อยากรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์นั้น บทความนี้อาจเป็นคำตอบของคุณก็ได้ ซึ่งวิธีการตั้งรับตำหนิเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นมี 3 ขั้นตอน ดังนี้1. ระงับก่อนวิเคราะห์ ในขณะที่คุณกำลังถูกตำหนิ ไม่ว่าคนที่ตำหนิคุณจะพูดสิ่งที่ถูกหรือผิด สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำ คือ ระงับอารมณ์ของคุณให้ได้ก่อนด้วยสติและสมาธิ อย่าเชื่อใจในความคิดของคุณที่ผุดขึ้นในขณะนั้น เพราะมันอาจเป็นความคิดที่ถูกแทรกแซงด้วยอารมณ์อันร้อนรุ่มและอคติ เมื่อพายุของอารมณ์สงบลง คุณจะได้ถ้อยคำตำหนิอันเป็นจริงปราศจากการปรุงแต่งด้วยอารมณ์ของคุณ ซึ่งคุณสามารถนำมันมานั่งคิดพิจารณาด้วยสติ และความสมเหตุสมผล สำหรับหลักการสร้างสติและสมาธิมีหลายวิธี ผู้อ่านสามารถค้นหาตามแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าเป็นหนังสือ ยูทูบ กูเกิล และแหล่งอื่น ๆ อีกมากมาย 2. ตัดคำปลอมใช้คำจริง คำพูดที่ตำหนิคุณนั้นอาจไม่ใช่คำพูดที่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นหรอก ดังนั้นคุณต้องแยกแยะว่าสิ่งใดจริง สิ่งใดไม่จริง ถ้าคำพูดนั้นเป็นจริงเป็นประโยชน์เรา ก็นำมาปรับปรุงแก้ไขตัวเอง แต่ถ้าหากไม่จริงแล้วก็ไม่ต้องใส่ใจ “คำว่าไม่ใส่ใจ” ไม่ได้หมายความว่าให้ตั้งใจลืมมันหรอกนะ เพราะผู้เขียนรู้ดีว่าสำหรับบางคนแล้ว มันยากมากที่จะลืมคำพูดที่ทำให้สะเทือนจิตสะเทือนใจ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำ ก็คือ ฝึกอยู่กับความคิดที่วกวนกวนใจนั้นให้ได้ ไม่ต้องพยายามให้มันหายไป เพราะสุดท้ายหากไฟไม่เติมเชื้อและอยู่ในที่ชื้น “ที่ชื้น” หมายถึง ใจที่มั่นคงมีสติ เห็นความคิดนั้นดั่งเมฆที่ไหลลอยไปมาในท้องนภา ไฟคือความคิดแย่ ๆ ที่ตอกย้ำตัวเองอยู่นั้นจะหายไป คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อ และไม่เสียหายถ้าคุณจะลองด้วยตัวคุณเอง Jackson David จาก Pixabay" />3. แก้ไขในทันที เมื่อคุณได้ตกตะกอนความคิดและได้ข้อสรุปว่าคุณจะต้องแก้ไขตัวเองยังไง แล้วก็ลงมือแก้ไขตัวเองทันที เวลานี้เป็นเวลาที่คุณจะได้ก้าวข้ามขีดความสามารถของตัวคุณเองดังนั้นเมื่อมีคนมอบคำชี้แนะให้แก่คุณ นั่นหมายถึงเขากำลังยื่นสิ่งล้ำค่าดั่งทองให้คุณ แม้คุณอาจจะรู้สึกร้อนในตอนแรก แต่เมื่อความร้อนได้อันตรธานไปแล้ว คุณจะรู้สึกว่าได้รับสิ่งเลอค่าที่ใคร ๆ ก็ต้องการ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เห็นบทความนี้แล้วทำตามขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้น ลองสังเกตสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในชีวิตคุณ จากวิธีการทั้ง 3 ที่กล่าวมาข้างต้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากมีข้อบกพร่องประการใด ผู้เขียนขออภัยมา ณ ที่นี้เครดิตภาพ : ภาพปก จากนักเขียน / 1 , 2 , 3 , 4 จาก pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !