สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านทุกท่าน จากชื่อเรื่องเหมือนจะเป็นเรื่องเศร้าใช่มั้ยล่ะคะ แต่จริง ๆ ไม่เลย ครั้งนี้ผู้เขียนอยากรีวิวหนังสือหนึ่งเล่มในดวงใจ กับนักเขียนที่เป็น idol ทางความคิด ของผู้เขียนเอง ขนาดที่ว่าไปดักรอที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ เพื่อขอลายเซ็นและขอกอดมาแล้ว นั่นคือหนังสือที่ชื่อว่า “แคร์.เช่น.มิตร” เขียนโดย คุณ กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ นั่นเองภาพผู้เขียนถ่ายกับคุณกาละแมร์ที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติจริง ๆ ต้องบอกว่าผู้เขียนเป็นแฟนหนังสือของคุณกาละแมร์ ตามซื้อเก็บไว้อยู่หลายเล่ม จนมาถึงเล่มนี้ ต้องบอกว่าเนื้อหาเหมือนเป็นเล่มที่คุณกาละแมร์ได้ตกผลึกบางอย่างในชีวิตมาแล้ว ชีวิตเข้าสู่ช่วงประสบความสำเร็จในทุกด้าน ดังนั้น เรื่องเล่าแต่ละเรื่องผ่านมุมมองของคุณกาละแมร์ จึงดูกลมกล่อมแต่กลับสร้างพลังบวกได้อย่างน่าประหลาด ซึ่งในช่วงนั้นเองที่ผู้เขียนก็กำลังมีปัญหาชีวิตที่หาทางออกไม่ได้ พอได้เจอกับคุณกาละแมร์ตัวเป็น ๆ ที่งานหนังสือ ผู้เขียนจึงขอเอาหนังสือเล่มนี้ไปให้เซ็นลายเซ็น และขอกอด ซึ่งกอดนั้นเองที่ทำให้ผู้เขียนน้ำตาไหล มันรู้สึกตื้นตันไปหมด ตอนที่คุณกาละแมร์พูดว่า “สู้ ๆ ขอให้ผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยดี”ภาพโดยผู้เขียนถ่ายจากหนังสือของผู้เขียนเองและนอกจากตัวคุณกาละแมร์ที่ส่งพลังบวกให้ผู้เขียนแล้ว หนังสือเล่มนี้ในแต่ละหน้า แต่ละบท ยังสร้างพลังบวกได้ไม่แพ้กัน จนเป็นประโยคที่ผู้เขียนใช้บอกตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่า “Positive mind enjoy like everyday” ผู้เขียนขอยกตัวอย่างตอนที่ผู้เขียนชอบเป็นอันดับหนึ่งคือตอนที่มีชื่อว่า “อดทนเวลาที่ฝนพร่ำ” ที่นำเอาบทเพลงดังเล่าผ่านมุมมองการให้กำลังใจว่า “เวลาที่คุณหมดหวัง ผิดหวัง เศร้าใจ เสียใจ จะร้องไห้ก็ร้องไปแต่ให้รีบลุกขึ้นมาตั้งสติให้ได้เร็วที่สุด เสียใจได้แต่อย่าเสียเวลากับมันอีก... เราสามารถทำปัจจุบันให้ดีขึ้นได้ เพื่อให้เรามีอนาคตที่ดี...”ภาพโดยผู้เขียนถ่ายจากหนังสือของผู้เขียนเองจากประโยคนี้เองทำให้ผู้เขียนฮึดสู้อีกครั้ง ใช่ค่ะทุกคน เราทุกคนนั้นต่างเป็นเจ้าของปัจจุบันอย่างเท่าเทียมกัน ปัจจุบันเท่านั้นที่เราสามารถทำในสิ่งที่อยากทำได้ แต่ส่วนใหญ่ที่เราทุกข์เพราะอดีตทั้งนั้น ทุกข์เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว จบไปแล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว ดังนั้น ความทุกข์ผ่านเข้ามาแวะทักทายในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตเป็นเรื่องปกติ คงเหมือนฝนที่พร่ำลงมา และแน่นอนว่าฝนนั้นมีวันหยุดตกและผ่านพ้นไป เมื่อฝนหยุดแล้ว ต้องเรียนรู้และลุกขึ้นให้เร็ว แล้วคุณ ๆ จะให้เห็นสายรุ้งแห่งบทเรียนที่งดงาม เหมือนผู้เขียนเอง เมื่อผ่านความทุกข์ครั้งนั้นมาแล้วจึงรู้สึกขอบคุณที่มันทำให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ ... ลองหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านกันดูนะคะ ซึ่งนอกจากเรื่องการให้กำลังใจแล้ว ยังมีเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ การท่องเที่ยวที่ภาพประกอบสวยมาก แล้วคุณจะประทับใจกับบางตัวอักษรที่แทงใจดำจนร้องไห้ และก็อมยิ้มให้กับกำลังใจดี ๆ ไปพร้อม ๆ กัน