เมื่อตอนที่เรียนนิเทศศาสตร์ ปี 1 เทอม 2 มีอยู่รายวิชาหนึ่งที่เราต้องลงพื้นที่ เพื่อเก็บข้อมูลและรูปทำวารสาร สถานที่หนึ่งที่ทางทีมได้เลือกไว้ก็คือ “ถ้ำธาราวสันต์” ซึ่งการไปถ้ำในครั้งนี้ พวกเราแทบไม่ได้ศึกษาข้อมูลล่วงหน้าเลย และนั่นเป็นเหมือนจุดเล็ก ๆ ที่ทำให้พวกเราได้ผจญภัยด้วยตัวเอง ถ้ำธาราวสันต์ อยู่ในเขตความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย เมื่อเราเดินทางมาถึงอุทยาน พวกเราก็ตรงไปยังจุดบริการนักท่องเที่ยว จึงพบว่า พวกเราต้องเดินเท้าเข้าไปในป่า ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร โดยไม่มีเจ้าหน้าที่นำทาง นั่นหมายความว่าระยะทางรวมไปและกลับก็เพียง 3 กิโลเมตร สบายมาก... แต่ถ้าย้อนกลับไปได้ พวกเราจะหยุดความคิด “สบาย” และเอาออกจากหัวไป พวกเราเดินอ้อมไปมาอยู่ 2-3 รอบ กว่าจะเจอทางเข้า (เราลืมสอบถามเจ้าหน้าที่) ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีเลยทีเดียว พอเจอทางเข้าที่แท้จริง เราเดินเข้าไปสักระยะหนึ่งก็เจอกับป้าย 1.5 กิโลเมตร ในใจคิดไปแล้วว่า เอ้า! ลุย! ช่วงแรกข้างในร่มรื่นมาก ข้างทางมักเต็มไปด้วยต้นไป และฝูงผีเสื้อที่บินสวยงามเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย เดินไปได้สักพักก็ต้องตกใจ อ้าว! ป้ายเขียนว่า 1.5 กิโลเมตร อีกแล้ว สรุปว่าเราเจอป้าย 1.5 กิโลเมตร ประมาณ 3 ป้าย นั่นแสดงว่าไม่ใช่แค่ 1.5 กิโลเมตรแล้ว!!! พอเดินมาเรื่อย ๆ ระยะทางก็ไม่ได้ลำบากมากเท่าไร เพราะด้านในก็ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ แต่ก็ยังทำให้พวกเราถอดใจจะถอยหลังกลับตั้งหลายครั้ง เพราะความไม่คุ้นชินทางและไม่มีเจ้าหน้าที่นำ ทำให้บางครั้งก็เกิดความรู้สึกกลัวขึ้นในใจ เดินไปเรื่อย ๆ ก็เห็นป้ายให้ใจชื่นใจเป็นระยะ ๆ เพราะหนทางสู่ถ้ำนั้นได้เข้ามาใกล้พวกเรามากขึ้น เส้นทางในการเดินนั้นจะมีบางช่วงที่เป็นป่าแห้ง ซึ่งจะร้อนพอสมควร และบางช่วงเป็นเส้นทางชันมีก้อนหิน ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพราะถ้าเกิดผิดพลาดอาจจะได้รับอันตรายได้ พวกเราเดินตามเส้นทางและป้ายบอกทาง จนในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงบริเวณใกล้ปากถ้ำ อากาศ ณ จุดนั้น เย็นมาก ๆ ความเหนื่อยค่อย ๆ คลายหาย กลับกลายเป็นความเย็นสบายจากธรรมชาติ ทำให้พวกเรารู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก แต่น่าเสียดายที่พวกเราไม่สามารถเข้าไปถึงในถ้ำได้ เพราะการจะเข้าไปนั้นต้องปีนก้อนหินขึ้นไป อาจทำให้พวกเราได้รับอันตราย จึงตัดสินใจหยุดกันแค่นี้แล้วเดินทางกลับ พวกเราใช้เวลาในการเดินทางไป-กลับ ประมาณ 4 ชั่วโมง และเราได้มารู้ทีหลังจากพี่เจ้าหน้าที่ว่า 1.5 กิโลเมตรนั้น เป็น 1.5 กิโลแม้ว หมายความว่าประมาณทางกันเอง บวกกับความชัดและระยะทางที่ลำบากบ้าง ยิ่งทำให้พวกเราที่มาครั้งแรกรู้สึกว่าไกลเข้าไปใหญ่เลย จากการสอบถามเพิ่มเติมทำให้รู้ว่า โพรงถ้ำในช่วงแรก ยังไม่มีหินงอกหินย้อยให้ชมมากนัก แต่หลังจากเดินทะลุไปอีกด้านของถ้ำก็จะเริ่มเข้าสู่โพรงถ้ำในส่วนที่สอง เป็นบริเวณที่มีหินงอกหินย้อยให้ชมอย่างสวยงาม ถัดจากโพรงถ้ำนี้เข้าไปอีกไม่ไกลก็ยังมีถ้ำเล็ก ๆ เชื่อมต่อกันอีกแห่ง นับเป็นชั้นที่สามภายในมีหินงอกหินย้อยที่มีความสวยงามกว่าชั้นที่สองให้ชมมากมาย หากใครที่อยากลองผจญภัยเล็ก ๆ เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ถ้ำแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ยินดีนำเสนอเลยครับ Cr.ภาพถ่ายโดยผู้เขียน