พากันเที่ยววัดวาอารามทางภาคเหนือตอนบนกันมาเยอะแล้ว ในทริปนี้ พี่ ป้า น้า อา จึงชวนกันล่องใต้เล็กน้อย โดยมีปลายทางอยู่ที่ “วัดพิพัฒน์มงคล จ.สุโขทัย” การเดินทางครั้งนี้ พวกเราเช่ารถตู้ 1 คันในการเดินทาง เพราะระยะทางไกลจากเดิมมาก และสะดวกกับผู้สูงอายุมากขึ้นด้วย จะให้นั่งกระบะเหมือนเคยคงไม่ไหว แลดูจะเมื่อยกันน่าดู... ไปเที่ยวกันค่ะ วัดที่นี่เค้างามมากจริง ๆ พวกเราออกจากลำปางเวลา 04.30 น. โดยใช้เส้นทาง อ.เถิน เป็นหลักในถนนหมายเลข 1048 ทางรถยนต์ถือว่าดีระดับหนึ่ง แต่เพราะเป็นเส้นทางลัดเลาะไปตามแนวสันเขาแต่ไม่ชันมาก จึงต้องระมัดระวังกันพอสมควร มีเหตุตกใจนิดหนึ่งกับรถพ่วงที่ขับเลยเลนส์ออกมา แต่เค้าหมุนพวงมาลัยกลับทัน เรางี้เอามือทาบอกกันเลยทีเดียว เพราะนั่งหน้าคู่กับพี่คนขับพอดี ส่วนผู้โดยสารไม่รู้เรื่องอะไรมากนัก เพราะหลับกันหมด ประมาณ 8 โมงเช้า พวกเราก็ถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ สังเกตจากในภาพ มาถึงก่อนใครเพื่อนเลย ดังนั้นจึงไม่ต้องแย่งที่จอดรถกับใคร จากลานกว้างด้านหน้าประตู ก็อลังการงานสร้างแล้ว สังเกตได้ว่าวิหารในรูปทรงต่าง ๆ จะเรียงรายเต็มพื้นที่ไปหมดเลย ในส่วนของซุ้มประตูโขง ไม่ได้ตกแต่งให้วิจิตรงดงามใด ๆ แต่ดูสะอาดตาอย่างมาก และที่แน่ ๆ จากลานจอดรถ ต้องเดินกันไกลสักนิดหนึ่ง ต้องบอกก่อนว่า ณ “วัดพิพัฒน์มงคล จ.สุโขทัย” แห่งนี้ ทั่วทั้งบริเวณ จะประกอบไปด้วยวิหารและเจดีย์สำคัญต่าง ๆ มากมาย หากใครมีเวลาเยอะ ก็จะสามารถเข้าชมทุกจุดได้ครบ แต่สำหรับเรา ต้องทำหน้าที่เป็นตากล้องให้กับลูกทัวร์ด้วย จึงได้ภาพมาแค่พอประมาณ ดังนั้นจึงต้องเกริ่นเอาไว้ก่อนว่า จุดเที่ยวชมเยอะมากจริง ๆ ค่ะ และเราก็ได้มาหยุด ณ หอมณเฑียรธรรม วิหารหลังนี้ประดิษฐานหลวงพ่อทองแสน หลวงพ่อเงินแสน พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ อายุราว 400 ปี ด้านหน้าจะมีประวัติความเป็นมาให้เราได้ศึกษาด้วย ส่วนด้านใน ตกแต่งด้วยด้วยสีแดงเป็นหลัก เราไปนั่งพักสักครู่ รู้สึกได้ว่าเย็นดีมากเลยล่ะ ส่วนความงดงามด้านนอก จัดได้ว่าวิจิตรสมคำร่ำลือ ภายในบริเวณวัด มีการปรับภูมิทัศน์เป็นอย่างดี เพราะบางช่วงไม่มีเสาหรือสายไฟฟ้าเลย ทำให้เหมาะแก่การถ่ายภาพอย่างมาก อย่างที่บอกว่าวิหารอยู่ติดกันพอสมควร แต่ก็พอมีทางเดินให้เราได้เดินลัดเลาะไปชมวิหารหลังอื่น ๆ ได้ไม่ยาก และในภาพนี้คือด้านหลังหอมณเฑียรธรรม กลับมาที่ด้านหน้ากันบ้าง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า ด้านบนบันไดเล็ก ๆ ตรงนี้คืออะไร ก็เลยต้องตามไปดู... ส่วนนี้คือรอยพระพุทธบาทจำลอง ส่วนประวัติความเป็นมาจะเป็นอย่างไร เราเองก็พยายามมองหา แต่รู้สึกว่ายังไม่เห็น แต่ในภาพรวมงดงามตามในภาพเช่นกัน จากนั้นเราก็เดินไปเรื่อย ๆ แต่ไปสะดุดตากับวิหารสีดำลายทองหนึ่งหลัง เข้าไปชมใกล้ ๆ รู้สึกได้ถึงความขลังเล็กน้อย อาจเป็นเพราะสีดำที่ฉาบทาวิหารเอาไว้ จึงทำให้รู้สึกเช่นนั้น ส่วนด้านในเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อทันใจ” เราจึงเข้าไปกราบพระ ทำบุญ และเก็บภาพเล็กน้อย และเราก็มาถึง “มหาวิหารหลวงพ่อทองคำ” โดยวิหารหลังนี้เลื่องชื่อพอสมควร เพียงแค่เห็นด้านหน้าวิหาร ก็งดงามสมคำล่ำลือแล้ว ด้านในวิหารเปล่งประกายไปด้วยสีทองเป็นส่วนใหญ่ เพดานจะตกแต่งด้วยไม้สักเกือบทั้งหลัง และเราก็ได้มีโอกาสกราบหลวงพ่อทองคำเพื่อเป็นสิริมงคลด้วยเช่นกัน จากนั้นเราและลูกทัวร์ (พี่ ป้า น้า อา) ก็แยกย้ายกันไปเดินเที่ยวตามอัธยาศัย และเราก็มานั่งรอที่วิหารหลังนี้ ซึ่งอยู่ด้านหลังวัด ใกล้กับที่จอดรถ สังเกตว่านักท่องเที่ยวจะไม่ค่อยมาจุดนี้สักเท่าไร เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเดินเข้าไปด้านในกันก่อน กว่า 1 ชั่วโมง ที่เราได้มาเยือน ณ “วัดพิพัฒน์มงคล จ.สุโขทัย” แห่งนี้ แม้ว่าจะเดินชมศาสนาสถานได้ไม่ครบถ้วนมากเท่าไร แต่ก็ได้ซึมซับความวิจิตรงดงามของศิลปะล้านนาประยุกต์พอสมควร และชื่นชมในฝีมือของช่างศิลป์เป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในศิลปะในศาสนสถาน ต้องแวะมาเยี่ยมชมกันนะคะ ที่สำคัญต้องพกเวลามาด้วยมาก ๆ เชื่อว่าเต็มอิ่มแน่นอน