December is coming to town… หลังจากทำงานกันมาทั้งปี ธันวาคมแบบนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะใช้ช่วงวันหยุดยาวในการพาตัวเองไปเที่ยว แน่นอนว่าอากาศหนาวๆลมเย็นๆแบบนี้เราขอสนับสนุนให้ทุกคนไปหาเขา ไม่ใช่รอให้เขามาหา เขาที่ว่าคือ “เขาหลวง จังหวัดสุโขทัย” เขาที่อุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติที่เขียวขจี บนอุทยานแห่งชาติรามคำแหง ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร ห้อมล้อมไปด้วยยอดเขาเจดีย์ ยอดเขาพระแม่ย่า ยอดเขาภูกา และยอดเขานารายณ์ หากพร้อมแล้วล่ะก็ เก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย ผูกเชือกรองเท้าให้แน่น แล้วมาเริ่มออกเดินไปพร้อมกันเลย ! เส้นทางเขาหลวงถือว่าไม่ใกล้และไม่ไกลระยะทางจากอุทยานขึ้นไปบนยอดเขารวม 3 Km. กว่าๆเกือบ 4 Km. แต่การเดินขึ้นค่อนข้างยากเพราะเขาหลวงมีความชันมากลักษณะของตัวเขาแทบจะตั้งฉากกับพื้น ทำให้เป็น 3 Km.กว่าๆที่หนักหน่วงเอาเรื่อง สำหรับสัมภาระมีบริการลูกหาบจากชาวบ้านราคาค่อนข้างน่ารักกิโลละประมาณ 25 บาท ใครที่มีสัมภาระเยอะและกลัวจะถือขึ้นไปไม่ถึงจุดหมายหมดกังวลเรื่องนี้ไปได้เลย และด้วยความที่เขาหลวงเป็นอุทยานที่มีความสมบูรณ์ของธรรมชาติด้วยป่าไม้หลากหลายชนิด ทำให้ตลอดเส้นทางการเดินเท้าเราจะเจอผึ้งและผีเสื้อเป็นจำนวนมาก ระหว่างการเดินทางจะมีจุดพักเป็นระยะๆเราสามารถพักและเติมน้ำได้เนื่องจากมีบริการน้ำดื่มให้เติมทุกจุดพัก จุดพีคของการเดินแท้าบนเขาหลวงคือโค้งสุดท้ายก่อนจะถึงลานกว้างสำหรับกางเต้นท์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินขึ้นเขาร่างกายต้องอ่อนล้า เรี่ยวแรงอาจเหลือน้อยจากการเดินขึ้นเขามาทั้งวัน แต่ขอให้สูดลมหายใจเข้าลึกๆและใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่มีเดินไปให้ถึงลานกว้างด้านบน แล้วคุณจะพบกับความคุ้มค่าที่ลืมความเหนื่อยล้าทั้งหมดที่มีไปเลยทีเดียวอากาศข้างบนค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปี ด้านบนมีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในเรื่องของที่พักและการนำทางในยามวิกาล สำหรับการใช้ชีวิตบนเขาหลวงนั้นเราต้องซื้อวัตถุดิบในการประกอบอาหารขึ้นไปไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร อาหารสด อาหารแห้ง ด้านบนจะมีอุปกรณ์ในการทำอาหาร เช่น หม้อ จาน และช้อน เพียงพอต่อการรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เราสามารถก่อกองไฟและทำอาหารได้เลย หากไม่ได้นำอาหารขึ้นมามีบริการอาหารจากเจ้าหน้าที่จานละประมาณ 50 บาท แต่ไม่สามารถเลือกได้มากนักและมีจำนวนจำกัด ดังนั้นแนะนำให้เอาวัตถุดิบในการทำอาหารขึ้นไปด้วย มีบริการห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยกเป็นส่วนชัดเจนทั้งชายหญิง อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยคือไฟฉายเนื่องจากบนอุทยานจะเปิดให้ใช้ไฟในระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 18.00 - 20.00 น. โดยช่วงเวลาดังกล่าวเราต้องทำธุระส่วนตัวไม่ว่าจะอาบน้ำหรือหยิบโทรศัพท์ออกมาชาร์จ แต่บางคืนก็แทบไม่ได้ชาร์จโทรศัพท์เลยเพราะไม่ได้ใช้เนื่องจากไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต หลังจากที่ดับไฟทุกอย่างจะมืดสนิทไฟฉายจะเป็นสิ่งเดียวที่มีประโยชน์ ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่เราวางสิ่งวุ่นวายที่เราเจอทุกวันไว้ข้างหลังและใช้เวลากับตัวเองได้ดีมากๆ และเมื่อไฟดับลงสิ่งที่เราจะเห็นได้ชัดที่สุดนอกจากตัวเองคือดวงดาว โดยที่เราจะเดินออกจากที่พักประมาณ 1 Km. เพื่อไปยังยอดเขานารายณ์และใช้เวลายามค่ำคืนดื่มด่ำกับดวงดาวที่ระยิบระยับเต็มท้องฟ้า ชมเมืองสุโขทัย 360 องศา มีสันเขื่อนรูปหัวใจเป็นเอกลักษณ์ ถึงตอนนั้นดวงตาจะเป็นเลนส์ที่ดีที่สุดที่เราสามารถใช้จับภาพที่อยู่ตรงหน้าได้ ในเช้าวันแรกบนยอดเขาเราก็จะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการชมพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณยอดเขานารายณ์ จากนั้นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะเริ่มออกเดินทางไปยังยอดเขาต่างๆที่ได้กล่าวไว้ตอนต้นเพื่อชมความสวยงามของเขาหลวงโดยรอบ ซึ่งอีกไฮไลท์สำคัญของวันนี้ก็จะเป็นการรอชมพระอาทิตย์ตกดินในช่วงเย็น ก่อนจะกลับที่พักเพื่อเตรียมตัวเก็บของกลับบ้านในเช้าวันรุ่งขึ้น สำหรับขาลงเขานั้นใช้เวลาสั้นและสนุกกว่าขาขึ้นนึกง่ายๆเหมือนเราวิ่งลงทางลาดแต่มันไม่เรียบง่ายเหมือนเรานึกหรอกนะเราอาจจะต้องหกล้มได้รับบาดแผลและตัวเปื้อนฝุ่น ซึ่งถ้าคิดดูดีๆมันก็เป็นเหมือนชีวิตที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนั่นแหละ มีวันที่เราเหนื่อยที่สุดแต่มันก็ยังมีความสวยงามซ่อนอยู่ในความเหนื่อย มีวันที่เราหกล้มเราก็จะเห็นว่าใครบ้างยื่นมือมาดึงเราขึ้น ไม่มีอะไรที่ดีไปซะทุกอย่างและไม่มีอะไรแย่ไปทั้งหมด ฉะนั้นหนาวๆแบบนี้ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนเราอยากแนะนำให้เธอไปเจอเขา(หลวง) ดูก่อนเธออาจจะติดเขาโดยไม่รู้ตัว ภาพ : นางสาวประภัสสร ข้องม่วง, นายภัคธร กุลศิริรัตน์ #เรื่องเล่าจากเจ้าถิ่น #เขาหลวง #อุทยานแห่งชาติรามคำแหง #สุโขทัย