สวัสดีคนรักเขา คนชอบเที่ยวกับเขาทุกท่าน บทความแรกนี้จะพาไปขึ้นเขา เพราะเมื่อปลายปีที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปขึ้นเขาหลวง จ.สุโขทัยอีกครั้ง (เป็นครั้งที่ 4 ในชีวิต) ชื่ออย่างเป็นทางการของเขาหลวงนี้ คือ อุทยานแห่งชาติรามคำแหง จ.สุโขทัย เป็นเทือกเขาที่มีความสำคัญมากกับจังหวัดสุโขทัย ว่ากันว่าสำคัญมาตั้งแต่สุโขทัยสมัยโบราณเลยทีเดียว ที่นี่มีอะไรเป็นไฮไลท์ และน่าชวนเพื่อนไปเดินเล่น ชิล ๆ กันบ้าง นายยิ่งรู้จะเล่าให้ฟัง เขาหลวง ตั้งอยู่ที่อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติรามคำแหง เทือกเขาหลวงนี้เป็นเขาที่มีความสูงมากที่สุดในจังหวัดสุโขทัย ที่ความสูง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นความสูงที่เหมาะแก่การขึ้นไปยอดเขาเพื่อชมวิวเมืองสุโขทัย และสูดอากาศธรรมชาติเข้าสู่ร่างกาย แต่ใครที่หวังจะขับรถขึ้นไปบนยอดแบบสบาย ๆ บอกเลยว่าไม่มีถนนตัดขึ้นยอดเขา ต้องเดินขึ้นผ่านทางธรรมชาติ ที่อุทยานจัดไว้เท่านั้น โดยจะต้องจองกับอุทยาน ผ่านเว็บไซต์ของกรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือเข้ามาวอล์กอินที่สำนักงานอุทยานรามคำแหงก็ได้ ก่อนขึ้น ที่นี่มีบริการลูกหาบกิโลกรัมละ 25 บาท แต่ต้องมาเช้า ๆ ถ้าวันไหนคนเยอะแล้วมาช้า พร้อมกับของพะรุงพะรังและหวังว่าจะมาเจอลูกหาบ อาจจะเก้อครับ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกข้างบนมีค่อนข้างพร้อม อะไรที่ไปเช่าข้างบนได้ก็ไปเช่าเถอะครับ เช่น เต็นท์ ถุงนอน เตาถ่าน เตาแก๊ส(กระป๋อง) อาหาร เครื่องดื่ม ขนม ของใช้ก็มีขายนะครับ โดยเขาหลวงมีระยะทาง 3.7 กิโลเมตร จากอุทยานไปจุดกางเต็นท์ที่ยอดเขา มันเหมือนเป็นระยะทางไม่เท่าไหร่ แต่เป็น 3.7 กิโลเมตรที่ประกอบไปด้วย 1.) ทางชัน 2.) ทางชัน 3.) ทางชัน และทางชันเท่านั้น มีทางราบให้เดินแค่ 400 เมตรโดยประมาณ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยกับการเดิน 3.7 กิโลเมตร ที่เป็นทางชันมากกว่า 3 กิโล และเป็นทางชันที่ดูด้วยตาเปล่า ชันมากกว่า 45 องศาแน่ ๆ มีแต่ขึ้นเรื่อย ๆ ขึ้นกับขึ้น ถ้าเงยหน้าดูทาง จะพูดเลยว่า "ท้อแท้ เหมือนจะไม่สบาย" โดย 4 ครั้งที่ไปมา ไม่มีครั้งไหนที่ไม่เหนื่อย และไม่มีครั้งไหนที่ไม่บ่นกับตัวเอง ว่าจะไม่มาขึ้นอีกแล้ว แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ขึ้นไปมาแล้ว 4 รอบ งงตัวเองเหมือนกันที่ไม่เข็ด ครั้งล่าสุด คือ เมื่อปลายปีที่ผ่านมานี่เอง ฉายาที่นักเดินเขามักเรียกที่นี่คือ "เขาปราบเซียน" ส่วนใครที่คิดว่าตัวเองเซียนแต่ยังไม่เคยมาขึ้นเขาหลวง ก็ลองดูสักครั้งครับ ส่วนมือใหม่ถามว่าเดินขึ้นจะไหวหรือเปล่า บอกตรงนี้เลยว่า ขึ้นได้อยู่แล้วครับ ถ้าไม่ถอดใจลงเสียก่อน ถ้าสู้มันก็แค่ 3.7 กิโลเอง กว่าจะถึงยอดเขาเล่นเอาเหนื่อยหลายหอบเลยทีเดียว หัวใจเต้นแรงหน้าแดงทุกที ไม่ใช่พี่ป้างแต่ขออ้างท่อนนี้หน่อย คือหัวใจมันเต้น ตึก ๆ ขนาดเดินตัวเปล่าโดยที่ไม่แบกสัมภาระอะไร เพราะได้ใช้บริการพี่ลูกหาบเอาขึ้นไปให้ โดยสรุปใช้เวลาขึ้นถึงยอดเขาประมาณ 3 ชั่วโมง ขึ้นตอน 09.15 น. ถึงยอดเขาประมาณเที่ยงนิด ๆ จากนั้นติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อจับจองเต็นท์ที่ได้จองไว้กับอุทยาน ส่วนใครมีมาเองก็หาพื้นที่กางได้เลย โดยบนยอดเขาหลวงจะประกอบไปด้วย จุดชมวิว 4 จุด แบ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก 3 ยอดเขาด้วยกัน ประกอบด้วย 1. เขาภูคา 2. เขาเจดีย์ 3. เขาพระแม่ย่า ใครอยากไปจุดไหนก็เลือกเอาเลย ส่วนอีกจุดคือจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น คือ ยอดเขานารายณ์ เสร็จแล้วอาบน้ำอาบท่าให้หายเพลีย ต้องบอกว่าน้ำข้างบนเย็นมาก ๆ แต่ไม่ต้องกลัวหนาว เพราะไม่ว่าจะหนาวยังไง ผมเชื่อว่ายังไงก็ต้องอาบน้ำกันอยู่แล้ว เพราะเหนื่อย ๆ มาทั้งนั้น หลังจากอาบน้ำอาบท่า ก็ได้เวลาไปดูพระอาทิตย์ตก และที่ที่เราเลือกไป คือ ยอดเขาพระแม่ย่า เพราะใกล้กว่าภูคาและเจดีย์ ซึ่งเขาพระแม่ย่าต้องเดินขึ้นเขาอีกประมาณ 800 เมตรที่หลอกลวง เพราะเดินขึ้นอีกแล้วและเหนื่อยพอสมควร ซึ่งระหว่างที่เดินไปจะผ่านผาชมปรง เลยแวะถ่ายรูปสักหน่อย นี่คือการแวะระหว่างเดินไปยังเขาพระแม่ย่า เพื่อดูพระอาทิตย์ตกดิน เป็นอย่างที่นักเดินทางชอบกล่าวกันจริง ๆ ว่า "บางทีระหว่างทางก็สวยงามไม่แพ้เป้าหมาย" ถ่ายรูปเสร็จก็เดินต่อไปยังจุดชมพระอาทิตย์ตก เป้าหมายหลัก คือ เขาพระแม่ย่า ตอนไปถึงพระอาทิตย์ยังยิ้มแฉ่งจ้าอยู่เลย ต้องนั่งรอซักพักกว่าจะได้เวลาตกดินของตะวัน พอตะวันทำท่าจะลาลับขอบฟ้า ก็ได้ถ่ายรูปกับตะวันนิดนึง เมื่อพระอาทิตย์ตกลง ก็ต้องเดินกลับไปยังที่พักกางเต็นท์ เพื่อประกอบอาหารและพักผ่อน อากาศก็เย็น ๆ พอใช้ได้ที่ประมาณ 16 องศาเซลเซียสในเวลากลางคืน น้ำค้างสาดลงมาอย่างกับฝน แต่ไม่หนาวเท่าไร กำลังนอนหลับได้สบาย เวลา 05.30 น. นาฬิกาก็ดัง ปลุกให้ไปชมพระอาทิตย์ขึ้น ทำธุระส่วนตัวล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ออกเดิน ซึ่งต้องเดินไปที่ยอดเขานารายณ์ ห่างจากจุดกางเต็นท์ประมาณ 400 เมตรที่ลวงหลอก เพราะเล่นเอาหอบเหมือนกันกว่าจะถึงยอดเขานารายณ์ แต่พอถึงแล้วก็ต้องบอกว่า มันสวยไม่หลอกลวงใครจริง ๆ ถึงแม้จะมาในวันที่ไม่เจอหมอก การได้มานั่งตากลมที่แรงและดังเหมือนเสียงรถในเมืองไม่มีผิด แต่มันบริสุทธิ์ต่างกันอย่างมาก ขาที่กำลังล้าจากการเดินขึ้นเขา อาการง่วงที่ยังอยากนอน และอากาศที่เย็นจากลมอันแรง ๆ บนยอดเขานารายณ์ เป็นการนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นที่มีความสุขจริง ๆ จริง ๆ นะครับ ไม่ได้หลอกลวง สุดท้ายนี้อยากจะชวนมาเขาหลวงสุโขทัย มันสวยจริง ๆ นะ ย้ำว่าไม่ได้หลอก ไม่เชื่อมาดูเองได้ ภาพทั้งหมดโดย : นายยิ่งรู้