หากพูดถึงผลิตภัณฑ์จากนมแล้ว เพื่อน ๆ ก็คงจะต้องคิดถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัวเป็นอันดับแรก ๆ อย่างแน่นอน นั่นก็เพราะว่านมวัวนั้นเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่จริง ๆ แล้วผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมที่สามารถบริโภคได้นั้น สามารถผลิตได้จากนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ๆ ได้อีก เช่น นมแพะ, นมอูฐและนมควาย ซึ่งในวันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับแหล่งเรียนรู้ การผลิตและแปรรูปนมอีกหนึ่งชนิดนอกจากนมวัวนั่นก็คือนมควายนั่นเองครับ ซึ่งเจ้านมควายชนิดนี้ผลิตจากควายนมสายพันธุ์มูร่าห์ ซึ่งเจ้าควายพันธุ์มูร่าห์นี้ จะมีลักษณะลำตัวสีดำ เขาสั้น หน้าผากกว้างใหญ่ มีอุปนิสัยที่เป็นมิตร รักสะอาดและชอบอาบน้ำ คุณรัญจวน เฮงตระกูลสิน อดีตผู้ส่งออกหนังสัตว์รายใหญ่ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา จนวันหนึ่งธุรกิจเกิดปัญหา จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนธุรกิจใหม่ และธุรกิจที่คุณรัญจวนตัดสินใจทดลองทำนั่นก็คือ ฟาร์มควายนม จากการศึกษาเรียนรู้ พัฒนาปรับปรุงอยู่เสมอ ทำให้ที่ดินว่างเปล่า ในจังหวัดฉะเชิงเทรา เปลี่ยนเป็นฟาร์มควายนมขนาดใหญ่ ซึ่งมีควายนมมากกว่า 300 ตัว และผลิตน้ำนมได้มากกว่าวันละ 200 ลิตร และที่นี่คือ "มูร่าห์ฟาร์ม" ต้นกำเนิดของ "น้ำนมมูร่าห์" นมที่มีปริมาณแคลเซียมจากธรรมชาติสูงกว่านมวัวเกือบ 2 เท่า ร่างกายสามารถดูดซึมได้ 100% เหมาะสำหรับ เด็กที่อยู่ในช่วงวัยเจริญเติบโตและผู้แพ้นมวัว จากการศึกษาและพัฒนาฟาร์มนมมูร่าห์นี้ คุณรัญจวนกล่าวว่า "การทำเกษตรและการเลี้ยงสัตว์นั้น จะต้องอาศัยการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงและพัฒนาผลผลิต ให้มีคุณภาพและปลอดภัยกับผู้บริโภค ซึ่งองค์ความรู้นี้สามารถเรียนรู้ได้ทุกเพศทุกวัย" นี่จึงเป็นจุดกำเนิดของ มินิมูร่าห์ฟาร์ม ฟาร์มควายนมสาธิตแบบครบวงจร ซึ่งในวันนี้ผมจะพาทุกคนไปเยี่ยมชมฟาร์มแห่งนี้กันครับ มินิมูร่าห์ฟาร์ม คือศูนย์การเรียนรู้เชิงเกษตรแบบครบวงจร เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ฟาร์มแห่งนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เพียงชั่วโมงเดียวเท่านั้นครับ ซึ่งฟาร์มแห่งนี้จะเปิดให้ทุกคนเข้าชมได้ฟรีนะครับ แต่จะมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เด็ก ๆ ได้ร่วมทำโดยเฉพาะ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ศึกษาเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำเกษตรและการเลี้ยงสัตว์อย่างถูกต้องและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงอีกด้วยครับจากจุดจอดรถบริเวณด้านหน้ามินิมูร่าห์ฟาร์ม เมื่อเดินเข้ามาด้านใน เพื่อน ๆ จะพบกับซุ้มประตูทางเข้า ที่ถนนนั้นถูกเทพื้นด้วยปูนขาว เพื่อที่จะให้ปูนขาวเหล่านั้นฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับรองเท้าของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมก่อนเข้าไปในฟาร์มแห่งนี้ เพราะว่าฟาร์มแห่งนี้มีทั้งสัตว์และพืช ที่ดูแลด้วยวิธีการธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีใด ๆ หากรองเท้ามีเชื้อโรคและสารเคมีติดมา อาจจะทำอันตรายต่อสัตว์และพืชได้ครับเมื่อเข้ามาในฟาร์ม เพื่อน ๆ จะเห็นสัตว์ต่าง ๆ มากมายถูกปล่อยอย่างอิสระภายในบริเวณรอบ ๆ ฟาร์ม ซึ่งบริเวณทางเข้าในวันนั้น ผมก็พบกับเจ้าหมูตัวอ้วนนี้ นอนสบายใจอยู่ที่พื้นดิน โดยไม่เกรงกลัวคนที่เดินผ่านไปมาเลย ซึ่งสัตว์ทุกตัวในฟาร์มแห่งนี้ เด็กสามารถให้อาหารกับสัตว์เหล่านี้ได้ครับ แต่ต้องเป็นอาหารที่ทางฟาร์มจัดไว้ให้เท่านั้น เพื่อป้องกันอันตรายจากคุณภาพของอาหารที่นำมาจากภายนอกนั่นเองครับ บริเวณด้านในมินิมูร่าห์ฟาร์ม อีกหนึ่งจุดที่สำคัญก็คือ บริเวณสถานีรถไฟครับ ซึ่งสถานีรถไฟแห่งนี้จะมีรถไฟขบวนพิเศษพาเด็ก ๆ ไปเยี่ยมชมส่วนต่าง ๆ ภายในฟาร์มอีกด้วย โดยความพิเศษของรถไฟขบวนนี้ก็คือ การใช้รถไถขนาดเล็กแทนหัวรถจักร และใช้ถังน้ำมันเหลือใช้ มาดัดแปลงเป็นขบวนรถ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ว่า "แม้จะเป็นสิ่งของเหลือใช้ก็สามารถนำมาดัดแปลง ให้มีคุณค่าได้"หลังจากที่เด็ก ๆ นั่งรถไฟชมรอบ ๆ ฟาร์มแล้ว ที่นี่จะมีร้านอาหารไว้คอยบริการผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม เมื่อดูจากลักษณะภายนอก จะคล้ายกับบ้านหลังเล็ก ๆ ในฟาร์ม แต่เมื่อเข้าไปด้านในจะมีการจัดโซนไว้ 2 โซน นั่นก็คือโซนสำหรับรับประทานอาหาร และโซนสำหรับให้เด็ก ๆ ทำ workshop ซึ่งในส่วนของการ workshop ที่มินิมูร่าห์ฟาร์มจะจัดไว้ให้เด็ก ๆ โดยเฉพาะเลยครับ ตามรูปในตารางด้านล่าง ซึ่งแต่ละกิจกรรมนั้น ผู้ปกครองสามารถร่วมกิจกรรมกับเด็ก ๆ ได้ อยากใกล้ชิดตามตารางกิจกรรมนี้ เพื่อน ๆ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากมินิมูร่าห์ฟาร์มได้โดยตรง ก่อนที่จะพาเด็ก ๆ เข้ามานะครับ เพราะบางกิจกรรมอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของเวลา และบางกิจกรรมอาจจะกำหนดจำนวนรอบเอาไว้ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้กันอย่างทั่วถึงนั่นเองครับ ซึ่งในวันนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปชมบางกิจกรรม เพื่อเป็นแนวทางก่อนที่จะพาเด็ก ๆ เข้ามาเยี่ยมชมนะครับกิจกรรมทำพิซซ่าเตาถ่าน กิจกรรมนี้ เด็ก ๆ ตั้งแต่อายุ 2 ขวบครึ่งเป็นต้นไป สามารถเข้าร่วมทำกิจกรรมได้ครับ โดยกิจกรรมทำพิซซ่านี้ เด็ก ๆ จะได้ลงมือทำตั้งแต่การนวดแป้ง การเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำหน้าพิซซ่า และขั้นตอนการทำทั้งหมดโดยละเอียด ซึ่งวัตถุดิบหลักที่สำคัญในการทำพิซซ่านั่นก็คือ "ชีส" นั่นเองครับ แต่ชีสของที่นี่เป็นชีสชนิดพิเศษ ที่ได้จากการแปรรูปนมของควายพันธุ์มูร่าห์นั่นเองครับ หลังจากที่เด็ก ๆ ได้ลองทำพิซซ่าด้วยตัวเองแล้ว ยังสามารถนำพิซซ่าที่ทำสำเร็จแล้ว ไปรับประทานกับครอบครัวได้อีกนะครับกิจกรรมเก็บไข่เป็ดทําไข่เค็ม ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับว่า เป็ดที่มินิมูร่าห์ฟาร์มนี้ถูกเลี้ยงแบบระบบเปิด แต่การใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของเป็ดที่นี่นั้น จะอยู่ในสระน้ำที่ขุดขึ้นมาไว้ในภายในฟาร์ม เพื่อให้ระบบนิเวศนั้นทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยมูลของเป็ดที่ว่ายน้ำอยู่ในสระน้ำแห่งนี้ จะกลายเป็นอาหารอันโอชะของปลาดุกอุยที่ถูกเลี้ยงเอาไว้ในสระน้ำแห่งนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งระหว่างเป็ดเดินเล่นในฟาร์ม จะมีการไข่เอาไว้มากมาย ซึ่งไข่เป็ดเหล่านี้ทางเจ้าหน้าที่จะพาเด็ก ๆ ไปเก็บไข่เป็ดสด ๆ แล้วให้เด็ก ๆ นำมาล้างให้สะอาดและเข้าสู่กระบวนการทำไข่เค็ม ซึ่งไข่เค็มทั้งหมดที่ทำเรียบร้อยแล้ว เด็ก ๆ สามารถนำกลับไปรับประทานที่บ้านได้อีกด้วยครับกิจกรรมดำนาปลูกข้าว กิจกรรมนี้สำหรับเด็ก ๆ ที่อายุ 3 ปีขึ้นไปครับ เนื่องจากกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่เด็ก ๆ จะได้สัมผัสกับต้นข้าวจริง ๆ ได้ลงไปในนาข้าวจริง ๆ และได้ทดลองดำนาด้วยตัวเองจริง ๆ เพื่อน ๆ ก็สามารถนำชุดมาเปลี่ยนให้เด็ก ๆ กันได้นะครับ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงตัวอย่างของกิจกรรมทั้งหมด ที่มินิมูร่าห์ฟาร์มจัดขึ้นมาเพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า การทำเกษตรและการเลี้ยงสัตว์ ต้องใช้ความรู้และความเข้าใจในการทำด้วยเช่นกันครับ ที่มินิมูร่าห์ฟาร์มแห่งนี้ นอกจากจะเป็นแหล่งเรียนรู้แล้ว ยังเป็นแหล่งแปรรูปนมควายขนาดเล็กอีก 1 แห่งซึ่งอาหารที่ได้จากการแปรรูปนั้นก็จะมีมากมาย เช่นไอศกรีมจากนมควายมูร่าห์ ขนมปังโฮมเมด และคาเฟ่ที่ใช้นมจากควายมูร่าห์เป็นส่วนผสม ซึ่งตรงจุดนั้นเด็ก ๆ สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ดูแล เกี่ยวกับวิธีการผลิต ได้เลยนะครับเป็นอย่างไรบ้างครับ กับศูนย์การเรียนรู้ การเกษตรผสมผสาน กับ มินิมูร่าห์ฟาร์ม การเรียนรู้ที่เพื่อน ๆ สามารถรับรู้ไปพร้อมกับเด็ก ๆ ได้แถมยังได้ผลผลิตกลับคืนมาอีกด้วย ก่อนกลับกรุงเทพฯ ผมก็แวะซื้อผักสดจากคุณป้าที่อยู่บริเวณด้านหน้าทางออก คุณป้าบอกว่า "ผักทุกชนิดที่นำมาจำหน่ายนั้นคือผลผลิตที่ได้จากฟาร์มแห่งนี้"นั่นเองครับ นี่ทำให้ผมยิ่งเพิ่มความมั่นใจว่า ผักที่ซื้อมานั้นสะอาดและปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง หากเพื่อน ๆ สนใจจะพาเด็ก ๆ มาสามารถโทรเข้ามาสอบถามทางร้านก่อนได้นะครับ หรือจะคลิกเข้าไปชมข้อมูลจากเพจโดยตรงก่อนก็ได้ ที่เพจทางการของร้าน บริเวณด้านล่างได้เลยนะครับ สำหรับวันนี้ ผมต้องขอตัวลาไปก่อน ถ้ามีข้อมูลอะไรดี ๆ อีกผมจะนำมาแบ่งปันให้อีกครั้งนะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดีที่ตั้ง : 79/4 2 ถนน หนองแบน-ท่าข้าม หมู่ 5 ตำบลสิบเอ็ดศอก อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา 24140พิกัด : >>> Click <<<เวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ 10.00 - 20.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ 10.00 - 21.00 น.เพจทางการของร้าน : >>> Click <<<โทรศัพท์ : 0818192819ภาพประกอบบทความทั้งหมด โดยเจ้าของบทความครับ