สวัสดีครับท่านผู้อ่านบทความการกดจุดเพื่อสุขภาพได้ดำเนินเรื่องมาถึงตอนที่ 7 แล้ว การกดจุดถือว่าเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของแพทย์แผนโบราณที่นิยมใช้รักษาโรคและอาการปวดเมื่อยต่าง ๆ มาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบัน เพราะในร่างกายของคนเรามีเส้นประสาทหลายร้อยหลายพันเส้น ในแต่ละเส้นประสาทจะมีจุดสำคัญ ๆ และจุดสำคัญ ๆ นี้เป็นตัวขับเคลื่อนให้อวัยวะในแต่ระส่วนทำงาน ส่วนไหนทำงานมากไปก็เกิดอาการอ่อนล้าผิดปกติและทำให้เกิดโรคชนิดนั้นขึ้น บทความในครั้งนี้จะมาพูดถึงเคล็ดลับการกดจุดเพื่อรักษา "โรคผิวหนังอักเสบ" และ "แก้อาการขาโก่ง" แปลกใจไหมครับว่าขาโกงสามารถกดจุดให้หายได้ ไม่ใช่ว่าให้หายได้ครับแต่ทำให้คนที่ขาโก่งสามารถเดินได้คล่องขึ้นนะครับฮา ๆ เพราะว่าคนขาที่โก่งงอเวลาเดินจะเมื่อยกว่าคนขาปกติหลายเท่าเพราะเกิดจากขาที่ผิดรูปจึงทำให้การเดินเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ มาดูกันครับว่า 2 โรคนี้ มีวิธีการกดจุดอย่างไร การกดจุดรักษาอาการ "ผิวหนังอักเสบ" การเกิดอาการผิวหนังอักเสบอาจเกิดได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นแมลงกัดต่อย โรคผิวหนัง และรวมไปถึงเป็นโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ กดจุดแก้ได้ดังนี้ กดจุดไฮยุ จุดชะคุทะคุ แก้คันผิวหนัง อาการของโรค ผิวหนังอักเสบ เพราะอาจเกิดจากการเป็นภูมิแพ้บางชนิด atopic dermatitis ทำให้มีอาการคันที่ผิวหนังอย่างรุนแรง ต้องกดจุดแก้ไข แต่วิธีนี้อาจกินเวลานานต้องอดทนและทำไปเรื่อย ๆ ชื่อจุดนี้ จุดไฮยุ อยู่ด้านหลัง เมื่อก้มคอกระดูกสันหลังจะนูนขึ้นมานับจากบนลงมาอยู่ใต้ชิ้นที่ 3 ห่างออกมาด้านนอก 2 นิ้วมือ ทั้ง 2 ฝั่ง (ดูที่รูป) จุดชะคุทะคุ อยู่ที่แขนบนเส้นรอยย่นข้อศอกด้านหน้า จากกึ่งกลางเส้นมายังด้านนิ้วหัวแม่มือนิดหน่อย (ดูที่รูป) เคล็ดลับในการรักษาอาการ ใช้นิ้วชี้กดจุดไฮยุที่หลัง กด10 นาที พร้อมกับหมุนไหล่ จากนั้นกดจุดชะคุทะคุ กดค้างไว้ 3 วินาที พัก 3 วินาที ทำซ้ำแบบนี้ 5 ครั้ง กระดูกที่นูนขึ้นเมื่อก้มคอ จุดไฮยุอยู่ใกล้กระดูกคอ กดจุดไฮยุ พร้อมกับหมุนไหล่ โดยงอข้อศอกไว้ จุดชุคุทะคุ อยู่บนรอยย่นข้อศอก เมื่อกดจุดต้องงอข้อศอกเล็กน้อยจะได้ผลดี การกดจุดรักษาอาการ "แก้ขาโก่ง" ขาโก่งเกิดจากขบวนการสร้างร่างกายที่ผิดรูป บางคนขาโก่งมาแต่กำเนิด ถึงจะทำวิธีดัดขาอย่างไรก็โก่ง ไม่สามารถเปลี่ยนรูปโครงสร้างทางพันธุกรรมได้ ส่งผลต่อความสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง และอีกทั้งอาจก่อปัญหาในการเดินส่งผลระยะยาวในเรื่องข้อต่อหัวเขาเสื่อมสภาพได้ แต่มักพบในผู้สูงอายุ วิธีแก้ให้สามารถเดินคล่องขึ้นคือ กดจุดฮิซะโยคัง จุดอิโย ทำให้หัวเข่าสบายขึ้น อาการของโรค เมื่อขาโก่ง หัวเข่าและเอวต้องรับภาระมากเกินไป ดังนั้นต้องหาวิธีเหยียดเข่าได้สะดวก เดินได้คล่องตัวเหมือนยังกับหนุ่มสาว ชื่อจุดนี้ จุดฮิซะโยคัง อยู่ข้างลูกสะบ้าของเข่าด้านนอกบริเวณกึ่งกลางพอดี (ดูที่รูป) จุดอิโย อยู่บนรอยย่นของหลังเข่า (ดูที่รูป) เคล็ดลับในการรักษาอาการ ใช้ด้ามปากกดจุดฮิซะโยคัง 3 วินาที พัก 3 วินาที แล้วทำซ้ำ จากนั้นกดจุดอิโยที่ด้านหลังเข่า โดยการนั่งคุกเข่าสอดนิ้วหัวแม่มือ นั่งทับไว้ 10 วินาที และกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตของหัวเข่าให้ดีขึ้นลดภาระของเข่าทำให้หัวเข่าสบายยิ่งขึ้น จุดฮิซะโยคัง CR: นักเขียนออกแบบเอง ใช้ด้ามปากกาขนาดสั้น จะทำให้แรงกดไม่หนีออกไป CR: นักเขียนออกแบบเอง จุดอิโย อยู่บนรอยย่นของหลังเขา CR: นักเขียนออกแบบเอง สอดนิ้วหัวแม่มือ ค่อย ๆ งอเข่านั่งทับลงไป CR: นักเขียนออกแบบเอง การกดจุดบางคนทำเห็นผล บางคนทำไม่เห็นผล มันอาจเกิดจากการกดจุดไม่ตรงเส้นประสาทของอวัยวะนั้น เพราะอาจเกิดจากเส้นจมลงไป บางทีอาจให้ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์นี้ช่วยรักษาจะดีกว่านะครับ หากท่านผู้อ่านทำการกดตนเองไม่ถูกต้อง แต่ถ้าหากทำลองทำและหัดจนชำนาญและรู้วิธีการก็สามารถลดค่าใช่จ่ายตรงนี้ได้ไปโดยปริยาย การกดจุดในการรักษาโรคผิวหนังจากประสบการณ์ที่ทดลองทำมา มันอาจใช้ระยะเวลานานไปหน่อย แต่ก็เห็นผลเป็นไปอย่างช้า ๆ นะครับ ถ้าอยากให้หายเร็วควรกดจุดแล้วใช้ยารักษาควบคู่ไปด้วย สามารถเห็นผลได้ดีทีเดียว ส่วนเรื่องการกดจุดเพื่อรักษาอาการขาโก่งนั้น สามารถรักษาได้ดีครับคลายความปวดเมื่อยให้กับคนที่ขาโก่งได้ดีสามารถเดินได้คล่องแคล่วขึ้นไม่ปวดเมื่อยง่าย อย่างแฟนของนักเขียนก็เป็นคนขาโก่งแต่โก่งไม่มาก ผู้เขียนลองทดสอบกดจุดแก้อาการนี้ไปเดินป๋อ ๆ ไม่ปวดเมื่อยเลยครับ เดินได้นานขึ้น เวลาไปเดินห้างเดินสบาย ๆ เลย โดยเมื่อก่อนบ่นปวดโน่นนี่นั่นเดินไม่ค่อยไหวพักก่อน ใช้ศาสตร์การกดจุดนี้ถือว่ารักษาได้ตรงจุด ยังไงก็ลองไปทดสอบดูนะครับ แล้วมาดูวิธีการกดจุดเพื่อสุขภาพกันในตอนต่อไปนะครับ สวัสดี CR : ที่มาภาพหน้าปก จากเว็บไซต์ flickr.com โหลดภาพฟรี >>https://flickr.com/photos/ CR : รูปภาพถ่ายโดยนักเขียน(สเก็ตภาพแล้วตกแต่งด้วยโปรแกรม Photoshop)