Cr.ภาพถ่ายปกจากศมส.การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่จัดแสดงอยู่ในวัดวาอาราม วัตถุสิ่งของที่จัดแสดง มักจะมีอยู่เหมือนกับจิ๊กซอว์ ที่ทำให้เราต้องใช้จินตนาการ ในการต่อชิ้นส่วนเหล่านั้นเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นภาพที่สมบูรณ์ และนั่นก็คือวัตถุประสงค์สำคัญของการจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์ในรูปแบบนี้สังคมในชนบทสมัยก่อนวิถีชีวิตอยู่กับการทำการเกษตร การเพาะปลูกที่สำคัญคือการปลูกข้าวทำนา อุปกรณ์ที่ใช้มีถังตวงข้าวเปลือก ไม้ติ้ว ในการซื้อขาย การตวงน้ำหนัก 10 กิโลกรัม เป็นน้ำหนักข้าวเปลือก 1 ถัง ไม้ติ้วเป็นไม้ซี่เล็ก ๆ สำหรับช่วยจำ อุปกรณ์อื่น ๆ ก็มีกระบุงเจ๊ก กระบุงปากบาน ที่ม้วนอยู่คือเลียบใช้สำหรับกั้นยุงข้าวเพื่อเก็บข้าวเปลือก มีเครื่องสีฝัด ครกตำข้าว สากมือ สากโยน ลูกทุบใช้สำหรับทุบฟางเพื่อมาเป็นปุ๋ย เครื่องชั่งแบบตุ้มน้ำหนัก Cr.ภาพถ่ายจากศมส.ช่วงเวลาว่างจากการทำนาชาวบ้านมีการทอเสื่อกก เครื่องทอเสื่อจะเรียกว่าฟืม กระดึงทอเสื่อจะเป็นโครงไม้เครื่องทอ ใช้สำหรับขึงเชือกปอหรือเชือกไนลอนสำหรับสอดกกเข้าไปในช่องที่ขึงไว้ให้กระทบประสานกันในบ้านเรือนของพวกเขาก็จะมีสิ่งของเครื่องใช้ ตะเกียงเจ้าพายุคือของจำเป็นที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ภาชนะที่คู่กับครัวเรือนก็เป็นเถาปิ่นโตลวดลายสีสันสวยงาม มีหม้อ ไห โอ่งน้ำ โม่หิน Cr.ภาพถ่ายจากศมส.ในการสัญจรไปมาชุมชนสมัยก่อน มักจะตั้งอยู่ในทำเลที่ใกล้กับแม่น้ำลำคลอง เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์สำหรับการทำเกษตรกรรม การเดินทางด้วยเรือจึงเป็นวิถีชีวิต ที่เห็นสะดุดตามากที่สุด ก็คือเรือบิณฑบาตลำเล็กกระทัดรัดมาก มีขนาดแค่พอที่จะวางบาตรพระ สมัยก่อนพระภิกษุจะใช้เรือลักษณะนี้เป็นพาหนะในการบิณฑบาตยามเช้า ส่วนเรือขนาดใหญ่ ภายในวัดแห่งนี้ก็มีให้เห็นเช่นกัน เป็นเรือโดยสารขนาดเล็ก 2 ลำมีสภาพดี และยังมีเรือไม้ลำใหญ่มาก กลางลำเรือน่าจะประมาณ 2 เมตรความยาวกว่า 10 เมตรเป็นเรือขุดจากต้นไม้ใหญ่ต้นเดียว การเดินทางทางบกจะใช้เวียนเป็นหลัก เรือสามารถบรรทุกได้ทั้งคนและข้าวสาร และสินค้าเกษตรอื่น ๆCr.ภาพถ่ายจากศมส.การได้มาเดินดูของเก่าที่ตั้งวางไว้ในพิพิธภัณฑ์ตามวัดวาอาราม ค่อย ๆ อ่านป้ายที่เขียนไว้ เราจะเห็นว่ามีสิ่งของมากมายที่เราเพิ่งรู้จักและเคยเห็น ทั้งที่รุ่นปู่ย่าตายายของเราได้ใช้กันเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ทำให้คิดได้ว่าคนยุคปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไปอย่างรวดเร็ว วิถีชีวิตริมคลอง ผู้คนพายเรือ พระสงฆ์พายเรือบิณฑบาตลำเล็กแบบปกติประจำวัน ไม่ได้เห็นแล้ว วิถีชาวบ้านชาวนาที่ทำทุกอย่างด้วยอุปกรณ์พื้นบ้านก็ไม่เห็นแล้ว ชาวนาปัจจุบันจะใช้มือถือโทรเพื่อจ้างรถเกี่ยวข้าว ถึงจะดูเหมือนว่าจะพากันสะดวกสบายขึ้น แต่ก็ต้องใช้เงินมากขึ้น ลูกหลานไม่ได้มาอยู่บ้านช่วยทำงาน ปัญหามีตามมาอีกมากมาย ทำให้ทุกคนต้องมาคิดทบทวน เพราะวิถีชีวิตเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ สำคัญว่าควรจะมีความเหมาะสมและดำรงอยู่ต่อไปให้ได้สถานที่ตั้ง : พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดหนามแดง ตั้งอยู่ภายในวัดหนามแดง ตำบลหนามแดง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 โทรศัพท์ : 081 949 4297 เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ถ้าต้องการผู้นำชม ติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 1 อาทิตย์ (ไม่เก็บค่าเข้าชม)ขอขอบคุณฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) (ศมส.) สาวิตรี ตลับแป้น (รัตนา) https://db.sac.or.th/museum/museum-detail/830