ใส่หน้สกากอนามัย= ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหรอ ? เชื้อไวรัสโคโรน่าเป็นเชื้อที่อยู่ในประเทศจีน จากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นเชื้อเกี่ยวกับปอดอักเสบที่เชื่อว่ามาจากค้างคาว และมีผู้เสียชีวิตจำนวนหลักสิบราย ไม่มีวัคซีนรักษา ลักษณะอาการเบื้องต้น มีไข้สูงเกิน 38 องศา ไอเจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ เป็นต้น ซึ่งทางประเทศจีนได้ทำการปิดเมืองอู่ฮั่นเพื่อไม่ให้ผู้ติดเชื้อออกไปสู่ประเทศอื่น แต่ก็ได้มีผู้ติดเชื้อชาวจีนจำนวนนึงหลุดมาประเทศไทยที่จังหวัดเชียงใหม่กรุงเทพฯและหัวหิน ในประเทศไทยก็ยังไม่มีวัคซีนรักษาฉะนั้นผมก็เป็นประชาชนคนหนึ่งที่ไม่อยากติดเชื้อนี้จึงได้ทำการป้องกันเบื้องต้น นั่นคือการใส่หน้ากากอนามัย เพราะเราก็ไม่รู้ว่ามีผู้ติดเชื้อหลงอยู่ในจังหวัดเราหรือเปล่าฉะนั้นเราก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อน "กันไว้ดีกว่าแก้เดี๋ยวถ้าแย่จะแก้ไม่ทัน" ถ่ายรูปเองครับนามปากกา"หมูน้อย" วันที่ 27 มกราคม 2563 ผมได้ทำการเดินออกจากหอไป big c สิ่งที่เกิดขึ้นคือประชาชนทั่วไปในบิ๊กซีที่เดินสวนกับผมก็ทำท่าทางรังเกียจเดินออกห่างอย่างเร็วและมองด้วยสายตาที่รังเกียจเอามากๆ ตัวผมเสียความรู้สึกนะ เหมือนถูกสังคมรังเกียจ ทั้งๆที่ผมแค่ป้องกันเฉยๆ แต่อย่างน้อยๆก็ยังดี ที่พนักงานทุกคนใน big c ไม่ได้ทำท่าทางรังเกียจเพราะพนักงานทุกคนก็ใส่หน้ากากอนามัยเหมือนกัน พอซื้อของเสร็จแล้วผมก็เดินกลับ ถ่ายรูปเองครับนามปากกา"หมูน้อย" พอกลับมาก็ซื้อข้าวหมูแดงห่อ 1 ห่อตามปกติ คนที่รอซื้อข้าวหมูแดงข้างๆผม กลับมองมาหาผมที่ใส่หน้ากากอยู่ แล้วทำสายตาน่าขยะแขยงแล้วก็เดินออกห่างจากผม มันทำให้ผมรู้สึกแย่อีกเหมือนกัน ถ่ายรูปเองครับนามปากกา"หมูน้อย" หลังจากได้ข้าวหมูแดงมาผมก็กลับขึ้นห้องพัก พอผมได้เจอสังคมแบบนี้ก็กลับมานั่งคิดว่า จากที่เราคิดเองเนี่ยมันมีอะไรบ้างที่ป้องกันเราจากเชื้อไวรัสนี้ได้ ก็มีไม่กี่ข้อคือ ใส่หน้ากากก่อนออกไปที่สาธารณะทุกครั้ง อย่าอยู่ใกล้ผู้ติดเชื้อหรือสัมผัส จะไปไหนมาไหนกลับมาแล้วต้องล้างมือให้สะอาด ระหว่างวันอย่าเอามือไปขยี้ตาหรือจมูก ให้ทำการล้างมือให้สะอาดก่อนทุกครั้ง ฉะนั้นคนที่เขาใส่หน้ากากอนามัยและเดินอยู่ทั่วไปบางทีเขาไม่ได้เป็นโรคอะไรหรอกเขาอาจจะแค่กันฝุ่นหรือป้องกันเชื้อโรคต่างๆที่จะเข้ามาก็เท่านั้นมันเป็นความสบายใจของบุคคลนั้นๆ อย่าได้รังเกียจกันเลย มันทำให้เสียความรู้สึก เขาทำแค่ป้องกันตัวเองเท่านั้น ถ้าเขาเป็นโรคร้ายแรงจริงๆ ก็คงไม่เดินออกมาข้างนอกตามที่สาธารณะหรอกครับ เขาคงรักษาตัวอยู่บ้าน ไม่ก็โรงพยาบาลแล้วจริงไหมครับ แต่ว่าคนส่วนใหญ่หลบหรือหลีกเลี่ยงจากคนที่ใส่หน้ากากก็ไม่แปลกเช่นกัน เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้มีโรคระบาดร้ายแรงที่ติดต่อจากการหายใจได้ เยอะแยะ เช่น โรคไวรัสอีโบล่า โรคไวรัสซาร์ส โรคไวรัสนิปาห์ เป็นต้น ก็มีเชื้อมาจากค้างคาว อาการป่วยคล้ายๆกัน และติดต่อกันได้ง่าย ดังนั้นก็ไม่แปลกเช่นกันที่จะมีคนหลีกเลี่ยงผู้คนที่ใส่หน้ากากเพราะทุกคนมีโอกาสติดเชื้อหมดทุกคน ผลกระทบของเชื้อไวรัสโคโรน่านี้ส่งผลเชิงเศรษฐกิจอย่างมาก รายได้จากไทยที่ได้จากการท่องเที่ยวของจีนหรือสิ่งของค้าขายนั้นหายไปหลายล้าน ที่จันทบุรีนั้นก็มีผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนักเช่นกัน เพราะจันทบุรีเป็นเมืองส่งทุเรียนออกไปจีนเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นเศรษฐกิจโดยรวมของไทยจึงวิกฤตและประชาชนในเมืองจะต้องปรับการอยู่ที่เข้มงวดกับตัวเองมากขึ้นเพื่อลดโอกาสติดโรคเชื้อไวรัสโคโรน่า ด้วยการใส่หน้าอนามัยเดินออกสู่ที่สาธารณะทุกครั้ง กินร้อนช้อนกลาง ดังนั้นเรามาใส่หน้ากากอนามัยกันเถอะ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่าและเชื้อโรคต่างๆ