เก่งภาษา 50 ล้าน คือหนังสือที่เขียนขึ้นโดยอาจารย์บัณฑิต อึ้งรังสีและคุณแมรี่ อึ้งรังสี ผู้เป็นภรรยา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแบ่งปันเคล็ดลับและความรู้ในการเรียนภาษาที่สองจากประสบการณ์จริง ผ่านการทดลองด้วยตัวของพวกเค้าเองมาแล้วและได้ผลลัพธ์เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถใช้ได้กับการเรียนรู้ทุกภาษาทั่วโลกไม่ได้เน้นเพียงแต่ภาษาอังกฤษเท่านั้นภาพโดยผู้เขียนในปัจจุบันนี้เราต้องยอมรับว่าการเก่งภาษาที่สองหรือที่สามนั้นย่อมได้เปรียบทางโอกาสมากกว่าคนอื่น ๆ อีกทั้งยังสามารถทำเงินจากความเก่งและความรู้ทางด้านภาษาได้มากกว่าคนทั่วไปอีกด้วย ซึ่งหนังสือเล่มนี้จะทำให้ผู้ที่อยากเก่งภาษาอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้นได้รู้ว่าการฝึกภาษาไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงแค่รู้วิธีฝึกที่ถูกต้องผลลัพธ์ก็จะปรากฎให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม ภาพจาก Pixabayโดยขั้นแรกในการฝึกภาษาอาจารย์บัณฑิตจะพาพวกเราทุกคนไปปรับ Mindset ให้ถูกต้องและถูกทิศทางกันก่อนในบทที่ 1 A WINNING MINDSET ซึ่งผู้เขียนได้ข้อคิดหลายอย่างจากบทแรกนี้ และผู้เขียนจะนำ 10 ข้อคิดที่ได้จากบทที่ 1 มาฝากท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ1. แรงจูงใจ คือ พลังทวี หากเรายิ่งมีแรงจูงใจมากเท่าไหร่ ยิ่งมีพลังทวีแห่งความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น เพราะมนุษย์เราสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ หากเขามีความอยากได้มันมากพอ หน้าที่ของเราคือ "หาแรงจูงใจของตนเองให้เจอ"2. การเรียนภาษาไม่เกี่ยวกับความฉลาด คนที่จะเก่งภาษาได้ไม่จำเป็นต้องฉลาดเสมอไป ขอแค่คุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน รู้ว่าจะเรียนภาษานี้ไปทำไม เพื่ออะไร หากคุณหาคำตอบที่ชัดเจนให้กับตัวเองได้ เท่านี้คุณก็จะมีพลังในการเรียนรู้อย่างมหาศาลและจะไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซึ่งพลังที่จะมาดันหลังคุณตรงนี้แหละ ที่จะทำให้คุณเก่งภาษาได้อย่างใจนึก3. คุณเป็นในสิ่งที่คุณเชื่อ ธรรมชาติของมนุษย์ คือ อะไรที่เชื่อว่าตนไม่เก่ง สู้คนอื่นไม่ได้ ก็ไม่อยากทำแต่อะไรที่เรารู้สึกเก่งกว่าคนอื่น ๆ เราจะยิ่งอยากทำสิ่งนั้นมากขึ้นและมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ทำให้เราเก่งในเรื่องนั้นมากขึ้นไปอีก และในส่วนที่ด้อยเราก็หลีกเลี่ยงที่จะไม่ทำมันและแน่นอนว่าความด้อยนั้นก็จะติดตัวเราไปอย่างนั้นเรื่อย ๆ ไม่มีการพัฒนา ดังนั้นจงเลือกที่จะเชื่อในตัวเอง เชื่อว่าเราทำได้แล้วลงมือทำมันซะตั้งแต่วันนี้ !!ภาพจาก Pixabay4. ความเชื่อมาก่อน ความจริงมาทีหลัง ถ้าคุณเข้าใจข้อนี้แล้วใช้มันกับทุกด้านของชีวิต โลกของคุณจะเปลี่ยนแน่นอน และความสำเร็จในการเรียนภาษามันเป็นเรื่องของการควบคุมความคิด ถ้าคุณเชื่อว่าคุณไม่เก่ง คุณทำไม่ได้ ทุกความพยายามจะกลายเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ แต่ถ้าคุณเชื่อว่าคุณทำได้ คุณเก่ง ทุกการเรียนรู้และการพยายามจะกลายเป็นเรื่องสนุกสำหรับคุณ5. ข้อแก้ตัว คือ อาการของคนอ่อนแอ ไม่มุ่งมั่น คนที่ไม่ประสบความสำเร็จมักมีข้อแก้ตัวมากมายว่า้เพราะเหตุใดเขาจึงทำไม่ได้ และหาเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ มาสนับสนุนข้อแก้ตัวนั้น ซึ่งมันยิ่งทำให้คุณห่างไกลความสำเร็จมากเข้าไปอีก ดังนั้นหากคุณอยากเก่งภาษาจงยกเลิกข้อแก้ตัวทั้งหมด และหันมาฝึกโฟกัสที่แรงจูงใจตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ ไปจนถึงแรงจูงใจขนาดใหญ่ แล้วอารมณ์ทางบวกจะเข้ามาแทนที่อารมณ์ทางลบโดยอัตโนมัติ6. ชีวิตเรานั้นสั้นเกินกว่าจะมานั่งกลัวการลองทำอะไรใหม่ ๆ หากคุณมีโอกาสได้พูดคุยกับชาวต่างชาตินั่นถือเป็นครูชั้นยอดในการช่วยให้คุณเก่งภาษาได้แบบติดจรวด อย่าอายหากคุณพูดสำเนียงเค้าไม่ได้ ไม่ต้องกลัวคนหัวเราะเยาะเมื่อคุณพูดผิด พูดถูก เลิกกลัวการขายหน้าแล้วพุ่งชนเป้าหมายไปเลย เพราะการพูดบ่อย ๆ โดยเฉพาะการได้สื่อสารกับเจ้าของภาษาโดยตรงจะทำให้คุณเก่งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อนั้นคุณจะได้กุญแจในการเปิดประตูไปสู่โลกใบใหม่ที่มีโอกาสลอยล่องให้คุณได้ไขว่คว้าภาพจาก Pixabay7. จงตั้งเป้าหมายและวางแผนเดินไปสู่เป้าหมายนั้น การตั้งเป้าที่ใหญ่และชัดเจนพร้อมทั้งจิตนาการผลลัพธ์ของความสำเร็จนั้นบ่อย ๆ จะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจในการลงมือทำมากขึ้นและยังเสริมความเชื่อในตัวเองเข้าไปได้มากขึ้นอีกด้วย นั่นหมายถึงยิ่งคุณมีความเชื่อมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งส่งเสริมให้เกิดการกระทำมากขึ้นแบบทวีคูณ8. หาต้นแบบให้ชัด การมีบุคคลตัวอย่างไว้ในใจ ว่าเราอย่างเก่งภาษาแบบคนนี้ ออกสำเนียงได้เหมือนคนนี้ จะทำให้เราเห็นเป้าหมายได้ชัดเจนว่าเราอยากเก่งภาษาแบบไหน เลือกคนที่ตรงใจเรามากที่สุดเพราะการมีต้นแบบที่ดีจะช่วยเสริมพลังในการลงมือทำให้เราได้อีกมหาศาล9. วิธีเรียนภาษาที่ได้ผลดีที่สุด คือ การเรียนแบบธรรมชาติ เราจะไม่สามารถประสบผลสำเร็จในการเรียนภาษาได้เลยหากเราเรียนภาษาแบบฝืนธรรมชาติ จำได้มั้ยว่าเราพูดภาษาไทยได้จากอะไร คำตอบคือการค่อย ๆ ซึบซับจากครอบครัวและคนรอบข้าง เด็กทุกคนไม่ว่าชาติไหนก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา เราสามารถเลียนแบบวิธีธรรมชาติในการเรียนภาษาของเด็ก ได้โดยการ 1. ฟัง 2. เลียนแบบ 3. ใช้10. ความสำเร็จในการเรียนภาษา 99% มาจากผู้เรียนและ 1% มาจากผู้สอน การเรียนภาษาเราต้องเป็นคนรับผิดชอบ ต้องสร้างสิ่งแวดล้อมขึ้นมาเอง ขวนขวายเองอย่าพึ่งตัวผู้สอนหรือคอร์สต่าง ๆ มากเกินไป จงเป็นผู้เชี่ยวชาญแห่งการเรียนรู้ด้วยตนเอง ครูผู้สอนไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลาแต่เราต่างหากที่อยู่กับตัวเองตลอด หากอย่างเก่งภาษาจงใช้มันให้มาก ฝึกพูดให้บ่อยและจงเป็นครูให้ตัวเองภาพจาก Pixabayเป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับข้อคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผู้เขียนได้มาจากหนังสือเก่งภาษา 50 ล้าน ในบทที่ 1 อันเป็นเรื่องของการปรับ Mindset ที่ถูกต้องเพื่อการเรียนภาษาที่จะได้ผลลัพธ์กันอย่างชัดเจนและถูกทิศ ถูกทาง ผูัเขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านที่กำลังจะเริ่มฝึกภาษานะคะสนใจสั่งซื้อหนังสือเก่งภาษา 50 ล้าน คลิกที่นี่