"ก้อนหิน" ขนาดใหญ่ ถ้าวางไว้หน้าบ้าน สวนสาธารณะ เพื่อประดับตกแต่งสวยงาม ก็อาจจะเรียกว่า "สวนหิน" สวยตามรสนิยมของคนตกแต่ง แต่กลุ่มก้อนหินขนาดใหญ่ ที่จัดวางเรียง จนเห็นเป็นทรงกลม มีทั้งซ้อนกัน และวางแบบอิสระ สร้างความมหัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นจนกลายเป็น "หินพิศวง" หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลางได้ก็เพราะว่า มันใหญ่เกินกว่าจะคาดเดาได้ว่า มันมาจากไหน มาได้อย่างไร และทำไมต้องมาวางอยู่บริเวณที่เรียกว่า "ที่ราบซัลลิสเบอร์รี่" ซึ่งอยู่ห่างไกลผู้คน บริเวณตอนใต้ของประเทศอังกฤษ และมีสไตล์การวางแบบเรียกหา "Story" คือ มีถึง 112 ก้อน ถ่ายภาพจากมุมสูงจะเห็น 3 ชั้น และเป็นการวางแบบมีเทินข้างบน ใช่แล้ว มันคือ Stonehenge (สโตนเฮนจ์) Stonehenge จะมาจากไหนก็ช่าง ใครจะสร้าง Story ได้น่าเชื่อถืออย่างไรไม่รู้ แต่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างก็เดินทางไปชมกันเพื่อสัมผัสหินปริศนา และเกิดเป็นภาพจำในใจของคนอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้มีโอกาสไปเห็นของจริง จึงทำให้ภาพของหินก้อนใหญ่ที่วางในลักษณะเดียวกันกับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่สวนนงนุช ดึงดูดสายตาของนักท่องเที่ยวอย่างผู้เขียน ต้องเข้าไปชมใกล้ ๆ และถ่ายภาพเก็บเอาไว้ จะเพียงนั่งรถรางผ่านแล้วผ่านเลยไม่ได้ ที่สวนนงนุช จังหวัดชลบุรี ได้สร้าง "สโตนเฮนจ์" จำลองเอาไว้ให้คนไทยได้ชม หินก้อนมหึมาที่นำมาสร้าง มีบันทึกไว้ว่า มีการนำเข้ามาจากต่างประเทศเลยทีเดียว จากจัดวางเลียนแบบสิ่งมหัศจรรย์ในประเทศอังกฤษ ทำเป็นวง ๆ เช่นกัน แต่ไม่ได้อยู่บนที่ราบ หากแวดล้อมด้วยสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงาม แต่ความเก่าที่ปล่อยไปตามธรรมชาติ ทำให้ดูเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และจะเป็นของเก่าที่อยู่ไปนานเท่านานคู่กับสวนนงนุช เสียดายอยู่นิดหนึ่งที่ไม่สามารถถ่ายภาพมุมสูงเพื่อให้เห็นภาพรวมทั้งหมดของ สโตนเฮนจ์ แห่งนี้ได้ สโตนเฮนจ์ในอังกฤษ นักโบราณคดี และผู้เชี่ยวชาญในหลาย ๆ ด้าน ต่างสืบค้นเพื่อหาที่ไปที่มา และตั้งสมมุติฐานตามความรู้ความสามารถของตนเอง แต่สำหรับสโตนเฮนจ์ที่สวนนงนุชนั้น มีความชัดเจนด้วยจารึกบนศิลา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษว่า สถานที่นี้ นงนุช ตันสัจจา ขอมอบให้เป็นมรดกทางการศึกษาแก่ชนรุ่นหลังเพื่อนเรียนรู้และพัฒนาสืบไป ที่นี่ทำให้คนไทย และชนรุ่นหลังได้มีโอกาสมาเห็น แม้จะไม่ใช่สถานที่จริง แต่ก็มีความใกล้เคียง หากวันหนึ่ง ที่อังกฤษสามารถให้คำตอบถึงที่ไปที่มาของหินปริศนาทั้ง 112 ก้อนนั้นได้ สโตนเฮนจ์ของสวนนงนุช คงได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกไม่น้อยไปกว่ากัน **ภาพโดยผู้เขียน**