ทริปกระชับรักครั้งนี้ เราจะพาคู่รักและเพื่อนๆไปท่องเที่ยวไม่ไกลจากกรุงเทพ ฯ มากนัก นั้นก็คือ พัทยา เนื่องด้วยตอนนี้มีแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในพัทยาเกิดขึ้น แต่อยู่กลางทะเล เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ที่เขาเรียกกันว่า "คาเฟ่ตกหมึก" ทริปครั้งนี้เป็นทริปสั้นๆ แค่ 2 วัน 1 คืน เป็นทริปที่กระทันหันมาก และเป็นอะไรที่บังเอิญมากเช่นกัน เราได้ไปซื้อโปรโมชั่นที่พักลดราคา 50% จากใน Shopee ไว้เงื่อนไขคือสามารถเลือกที่พักได้ในเฉพาะพัทยาเท่านั้น เราก็เลยมาคิดกันว่า...ไปพัทยาจะมีอะไรเหรอ? ก็มีแต่ทะเลคงน่าเบื่อ แต่ห้องพักลดราคาจนล่อตาล่อใจขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว ถึงยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ขอแค่ได้ซื้อไว้ก่อนก็ยังดี 555 แต่...แล้วเราก็ไปเจอคาเฟ่ตกหมึกแห่งนี้ นี่เลยเป็นจุดหมายของเราในทริปครั้งนี้ งั้นเราไปเที่ยวกันเลย.... เราออกเดินทางช่วงประมาณ 11 โมง โชคดีมากที่รถไม่ติดเลย เราขับกันไปเรื่อยๆ จนเกือบถึง ฉะเชิงเทรา เราแวะหาข้าวกิน เพราะหิวมากๆ ไปเจอร้านริมทางเล็กๆ ชื่อร้านข้าวแกงคุณยาย ก็เลยลองเข้าไปกิน แต่ร้านเล็กๆริมทางแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่ากับข้าวและอาหารอร่อยมากๆ แถมราคาถูกมาก เราสั่งข้าวคลุกกะปิ ราคาจานละ 40 บาท แต่ได้เยอะมาก สั่งเต้าเจี้ยวหลนพร้อมชุดผัก ราคาเพียง 30 บาท และสั่งแหนมเนืองชุดเล็กมา ราคา 60 บาท แต่กิน 2 คนคืออิ่มมาก ร้านอาหารริมทางบ้านคุณยาย เมื่อท้องอิ่มเราก็ออกเดินทางกันต่อ ก่อนจะเข้าตัวเมืองพัทยา เราได้แวะไปถ่ายรูปเล่นที่ แกรนแคนยอนคีรี ที่ตั้งซอย คีรีนคร 8/1 ตำบล ห้วยกะปิ อำเภอเมืองชลบุรี ชลบุรี เป็นเหมืองแร่เก่า แต่เป็นจุดเช็คอินที่ใครมาชลบุรีต้องแวะมาถ่ายรูป ไม่เสียค่าเข้า แต่เสียค่าจอดรถคันละ 20 บาทเราก็ได้รูปสวยๆมาฝากเพื่อนๆด้วย แกรนแคนยอนคีรี ถ่ายรูปจนพอใจแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อไปยังที่พักในตัวเมืองพัทยา ที่พักที่เราเลือก คือ โรงแรม Flipper Lodge Hotel เป็นโรงแรม 3 ดาว ที่ตั้ง 520/1 ถนนเลียบชายหาดพัทยา ซอย 8 เมืองพัทยา ชลบุรี เราได้ราคาที่พักโปรโมชั่นราคาเต็ม 1,000 บาท ลดเหลือ 499 บาทพร้อมอาหารเช้า ในใจก็แอบคิดว่าจะดีหรือป่าว? แต่พอถึงที่พักคือโอเคมาก และอยู่ติดชายหาด เดินข้ามถนนไปก็ถึงทะเลแล้ว พนักงานต้อนรับดีมาก โรงแรมที่พัก เราเดินทางมาถึงที่พักประมาณบ่าย 2 โมงเย็น จึงมีเวลานอนพักผ่อนเก็บแรงให้ร่างกายสดชื่น ได้ถึง 3 ชั่วโมง เพราะว่าเราจะไปตกหมึกกันตอน 5 โมงเย็น คาเฟ่ตกหมึก คือ แพที่ลอยอยู่กลางทะเล ถ้าต้องการขึ้นแพ ต้องจองล่วงหน้า สามารถติดต่อทักข้อความไปยังเพจ Facebook ชื่อ คาเฟ่ตกหมึกได้เลย วันหนึ่งจะรับคนแค่ 200 คนเท่านั้น ทางคาเฟ่จำกัดจำนวนคน เมื่อเราจองขึ้นแพได้แล้ว จะมีเรือสปีดโบ๊ทมารอรับเราที่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย ท่าเรือแหลมบาลีฮาย ซึ่งจะมีรอบเรือที่มารอรับตามเวลานี้ เริ่มรอบแรก คือ 4 โมงเย็น , รอบ 5 โมงเย็น , และรอบ 6 โมงเย็น ขอแนะนำว่าให้ไปตั้งแต่รอบแรกจะดีกว่า เพราะสามารถเลือกที่นั่งตกหมึกได้ ยิ่งไปช้าจะไม่มีที่นั่งดีๆ ถ้าไปเร็วจะได้มีเวลาถ่ายรูปสวยๆกลางทะเลด้วย แต่ข้อเสียคือแดดจะยังร้อนอยู่ ตอนที่เราไปรอบ 5 โมงเย็นคนบนแพเริ่มเยอะแล้ว หาที่นั่งริมๆแพไม่ค่อยได้ ต้องรอให้คนที่มาก่อนเขาย้ายไปตกหมึกตรงจุดอื่น ถึงจะหาที่นั่งได้ แพคาเฟ่ตกหมึก ตะวันเริ่มตกดิน ราคาค่าขึ้นแพคนละ 400 บาท 1 คนจะได้เบ็ดตกหมึก 1 คัน และสามารถตกหมึกได้จนถึงเที่ยงคืน บนแพคาเฟ่มีเครื่องดื่ม มีอาหารขายและ มีดนตรีสดเล่นให้ฟัง ส่วนราคาอาหารและเครื่องดื่มราคากลางๆ ไม่แพงมาก และไม่ถูก เหมือนราคาร้านอาหารทั่วไป รสชาติอาหารใช้ได้เลย ช่วงก่อนตะวันตกดินยังพอมีแสงสวยๆให้เราได้ถ่ายรูป และบนแพคาเฟ่นี้มีมุมสวยๆจัดไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปหลายมุมเลย มุมสวยๆถ่ายรูป พอแสงเริ่มหมด เราก็เริ่มสั่งอาหารมากินกัน และเริ่มตกหมึก เชื่อมั้ยว่าตอนแรกก็สนุกดี แต่พอนานเข้าตกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ เราจะเริ่มเบื่อๆ 555 แกว่งเบ็ดไปๆมาๆ อยู่เกือบ 2 ชั่วโมง จนเริ่มท้อ และเมื่อยข้อมือมาก เพราะคนที่เขาตกได้ เขาแนะนำว่าต้องยกเบ็ดขึ้นๆลงๆล่อหมึก ยกขึ้นยกลงช้าๆ ให้เหมือนเหยื่อที่กำลังว่ายน้ำอยู่ เรา 2 คนตกอยู่จนถึง 2 ทุ่มก็ยังไม่ได้ ตกไปนั่งกินข้าวไป นั่งคุยกันไป ตกหมึกไปกินข้าวไป บรรยากาศตกหมึก เวลาผ่านไปจนประมาณเกือบ 3 ทุ่ม พระเจ้า...เราได้หมึกตัวแรกแล้ว จะบอกว่าร้องดีใจลั่นแพเลยมีแต่คนมอง 555 ดีใจสุดๆ คิดว่ามาครั้งนี้จะตกหมึกไม่ได้แล้ว เอาจริงๆนะมาตกหมึกแบบนี้ไม่ต้องเป็นคนที่มีฝีมือเลย ใช้ดวงล้วนๆ เมื่อตกตัวแรกได้ ตัวที่สอง สาม สี่ ห้า และ หก ก็ตามมาติดๆ เหมือนยิ่งดึกยิ่งตกง่าย ตกจนคนบนแพบอกว่า ''น้องนี่ทำบาปขึ้นจริงๆ ตกได้เอาๆ '' 555 นี้คือคำชมใช่มั้ยคะ ไฮไลท์มาของคาเฟ่ตกหมึกคือ การกินหมึกสด ซาชิมิ หมึกตัวที่เราตกได้ เราจะให้พนักงานแร่สดให้กิน จะบอกว่าคุ้มค่ากับการรอคอย มันหวานมาก สดกรอบ ฟินมาก หมึกตัวแรกของเรา กินสดแบบซาชิมิ สรุป เรา 2 คนตกหมึกได้ทั้งหมด 6 ตัว ตกได้คนละ 3 ตัว ถือว่ามากแล้ว บางคนบนแพตกไม่ได้เลยก็มี ถอดใจกันกลับขึ้นฝั่งตั้งหลายคน เมื่อเรากินหมึกซาชิมิที่ตกได้จนอิ่มพอใจแล้ว ก็จองเรือสปีดโบ๋ทกลับเข้าฝั่งเวลาประมาณ 5 ทุ่ม และเดินทางกลับที่พัก บรรยากาศตอนกลางคืนท่าเรือแหลมบาลีฮาย ความสนุกและความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ...เราตื่นนอนกันประมาณ 9 โมงเช้าและอาบน้ำเตรียมเก็บของ ลงมาทานอาหารเช้าของโรงแรมช่วง 10 โมง จะบอกว่าอาหารเช้ากินแบบได้ไม่อั้น สั่งเท่าไหร่ก็ได้ สั่งเป็นชุด ไม่ต้องเดินไปตักเอง คุ้มและดีสุดๆ อาหารเช้า เมื่อรับประทานอาหารเช้าจนอิ่มแล้ว เราก็เช็กเอาท์ออกจากโรงแรมและเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ... ทริปกระชับรักครั้งนี้ ไม่เพียงแต่สนุกและมีความสุขเท่านั้น แต่เป็นทริปที่สอนความอดทนในเรื่องการรอได้อย่างดี และทำให้เรารู้ว่าการรอคอยนั้นถึงอาจนานไปบ้างแต่มันก็คุ้มค่า เป็นอีกทริปที่สอนประสบการณ์การตกหมึกครั้งแรกของเราสองคน และเป็นอีกทริปที่มีความสุข... ครั้งหน้าทริปกระชับรักของเราสองคนจะพาเพื่อนๆและคู่รักทุกคู่ไปเที่ยวที่ไหนอีก รอติดตามกันนะคะ เครดิตภาพโดยผู้เขียน กำลังหาที่เที่ยวหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !