สถานที่พักผ่อนยอดฮิตของใครหลายคนคงหนีไม่พ้นทะเล อยากไปยืนรับลมแรงให้ชายผ้าปลิว เงยหน้ามองฟ้าสีคราม ก้มดูน้ำทะเลใส กินอาหารทะเลสดรสหวานลิ้น ความครบเครื่องแบบนี้ที่ทำให้ทะเลเป็นที่สุดของสถานที่ผ่อนกายพักใจหลาย ๆ คน บทความนี้จะพาไปชมสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนเคยไปมาแล้ว และหลายคนก็อยากไปอีก ชมฟ้าครามน้ำใส ไปเกาะสีชัง เกาะสีชัง อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ที่นี่เป็นอำเภอที่เล็กที่สุดในประเทศไทย เป็นเกาะที่แยกตัวออกมาจากแผ่นดินใหญ่ การเดินทางไปเกาะสีชังต้องนั่งเรือข้ามเกาะ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เมื่อเหยียบลงพื้นสะพานท่าเรือ คุณจะพบว่าทั้งธรรมชาติ สิ่งปลูกสร้างของที่นี่คลาสสิกมาก เหมือนหยุดเวลาไว้เมื่อ 50 ปีก่อน คุณจะเห็นหลายมุมที่คุ้นตาว่าเคยปรากฏภาพในละครแนวพีเรียดมาแล้ว เกาะสีชังเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่วันเดียวก็เที่ยวครบ บทความนี้จึงนำเสนอ 3 จุดไฮไลท์บนเกาะสีชัง แดดอ่อนยามเช้าขึ้นเขาไปlสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเกาะสีชัง ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานของเจ้าพ่อเฮ่งเจีย เจ้าแม่กวนอิม พระสังกัจจาย เนื่องจากเกาะสีชังมีชาวไทยเชื้อสายจริงอาศัยอยู่มาก ช่วงตรุษจีนที่ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่จึงคึกคักเป็นพิเศษ นอกจากได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว บนเขานี้เป็นจุดที่สามารถมองภาพมุมสูงได้ทั้งเกาะ วิวเต็มตา 360 องศา ความประทับใจเต็มร้อย คุณสามารถใช้เวลาทั้งวันได้ที่พระจุฑาธุชราชฐาน หรือพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน เป็นพระราชวังบนเกาะ ซึ่งในอดีตเจ้านายชั้นสูงแปรพระราชฐานพักผ่อนคลายร้อน ที่นี่จึงมีลักษณะเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์งดงามหลายหลัง บริเวณโดยรอบเป็นสวนร่มรื่น คุณสามารถเดินเล่นผ่อนคลายได้ตลอดวัน ไฮไลท์สำคัญของที่นี่ คือ สะพานไม้สีขาวทอดยาวไปในทะเล ให้บรรยากาศโรแมนติกมากซะจนคู่รักหลายคู่ต้องมาถ่ายพรีเวดดิ้งเก็บภาพความประทับใจ ยามเย็นอยากให้คุณไปจบวันที่ช่องเขาขาด ที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่ไม่ควรพลาด มีสะพานไปยาวเลาะเลียบเขาขนาดกับทะเล คุณสามารถเดินลงจากสะพานไปนั่งชมวิวไปศาลาไม้ หรือจะเดินยาวลงไปย่ำทรายบนชาดหาดเล่น ตอนที่พระอาทิตย์แตะมือกับผิวน้ำ ทะเลใสที่มองเห็นเป็นที่ฟ้าครามอมเขียวจะถูกย้อมด้วยแสงสีส้มอ่อน ให้ความรู้สึกอบอุ่นปลอดโปล่งจนปล่อยวางทุกอย่างได้ เกาะสีชังเป็นสถานที่ผ่อนกายพักใจได้ดีจริง ๆ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน (อังคณา แก้ววรสูตร)