เดือนเมษายนของทุกปีแม้อากาศจะร้อนระอุ แต่สิ่งที่ยังคงปฏิบัติเพื่อแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับนั้นยังมีไม่เสื่อมคลายในความเป็นลูกหลานเลือดมังกร จากที่เกริ่นมาหลายๆคนคงรู้คำเฉลยกันแล้ว😊 ใช่ค่ะ..สิ่งนั่นคือ เทศกาลไหว้เช็งเม้ง (Qingming Festival) ซึ่งปีนี้ตรงกับช่วงวันที่ 2 - 8 เมษายน 2566 และสุสานที่เรามากันคือที่ สุสานเจ็งเล้ง อ.บางพระ จ.ชลบุรีเพิ่มเติม: จากที่สืบทอดกันมา วันตรงของการไหว้คือ วันที่ 5 เมษายน ของทุกปี (ตามปฏิทินจีน)แต่พบว่าการไปวันตรงพร้อมๆกันก็ทำให้การจราจรค่อนข้างแออัด ดังนั้นเพื่อสอดคล้องกับเทศกาลสำคัญและช่วยแก้ปัญหาด้านจราจร ในทุกๆปีสุสานต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่สุสานบรรพบุรุษจะอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด เช่น ชลบุรี สระบุรี เป็นต้น จะขยายช่วงเวลาการไหว้ให้อยู่ช่วง 3 สัปดาห์ ซึ่งในปีนี้สามารถเริ่มไหว้ได้ตั้งแต่ 15 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2566 ทำให้เอื้ออำนวยเรื่องการจัดเวลาเผื่อให้สมาชิกแต่ละครอบครัวสามารถวางแผนเดินทางมาไหว้พร้อมกันได้เท่าที่สามารถทำได้คนจีนแต้จิ๋วจะอ่านว่า "เช็งเม้ง" ส่วนภาษาจีนกลางอ่านว่า "ชิงมิง"(Qingming) บางครั้งก็สงสัยว่าทำไมต้องไหว้หน้าร้อนจะไหว้ในฤดูอื่นๆได้ไหม🙈 แต่จากที่เคยอ่าน เช็งเม้ง คือช่วงเวลาที่เปลี่ยนจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิของจีน ถือเป็นช่วงที่อากาศดี เหมาะมาเที่ยวชมธรรมชาติในบรรยายกาศที่มีใบไม้ผลิดอก ออกผลกัน ซึ่งก็จริงนะเหมือนเวลาหน้าท่องเที่ยวคนมักเลือกช่วงมีสีสันของฤดูกาลนั่นเอง แล้วกลายเป็นวันไหว้บรรพบุรุษได้อย่างไร? อาจต้องหาอ่านเพิ่มเติมในตำนานที่เล่าต่อกันมาแต่ที่พวกเรารับรู้จากที่พ่อแม่เล่าก็คือบรรพบุรุษตอนมีชีวิตอยู่ก็ชวนญาติชวนเพื่อนๆมาซื้อที่ในสุสาน มีการดูพื้นที่ ดูทิศทางคล้ายกับการดูฮวงจุ้ยด้วย มีความเชื่อว่า.ถ้าที่ทางที่ได้ซื้อนั้นดี ก็จะส่งต่อความอุดมสมบูรณ์ชั่วลูกชั่วหลาน และการมีสุสานของบรรพบุรุษที่ล่วงลับทำให้ลูกหลานคนรุ่นหลังได้มีโอกาสระลึกถึงบุญคุณ อาจเป็นกุศโลบายที่บรรพบุรุษของเราอยากให้ลูกหลานยังคงความสัมพันธ์ฉันท์ญาติมิตร อย่างน้อยปีละครั้งก็ได้มาพบปะเจอกัน ได้มาสานต่อและทำสิ่งดีๆร่วมกัน โดยใช้โอกาสในเทศกาลนี้ การมาสุสานในแต่ละปี ก็ยังได้รับรู้เเละเห็นสถานที่ๆรวมบรรพบุรุษของเรา มีเหล่ากง เหล่าม่า อากง อาม่า เหล่ากู๋ เหล่าอี๊ และญาติอาวุโสที่ล่วงลับไปนี่คือศูนย์รวมพลังงานดีๆ ต้นกำเนิดความรักและเมตตา แบบอย่างการใช้ชีวิต การฝ่าฟัน การสร้างอาชีพ สร้างครอบครัววงศ์ตระกูลที่บรรพบุรุษมอบให้พวกเรา ส่วนพวกเรายังระลึก🙇ถึงคุณความดี ตอบแทนท่านด้วยความกตัญญู รู้คุณ และยังมีสิ่งสำคัญที่แฝงคอยเตือนพวกเรา นั่นคือเกิด แก่ เจ็บ ตาย สิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เรายังมีลมหายใจ ใช้สติปัญญาทำในสิ่งที่ดีที่ควร จัดสรรกันไป "เช็งเม้ง” (ภาษาแต้จิ๋ว)เช็ง หมายถึง สะอาด บริสุทธิ์เม้ง หมายถึง สว่าง ความหมายโดยรวม คือช่วงเวลาแห่งความแจ่มใส รื่นรมย์จากความหมาย..เราเองลองมานั่งนึกทบทวนดูจากการที่ได้มาไหว้ ก็ดูจะสอดคล้องกันนะค่ะ🙇"วันเช็งเม้ง" วันที่ลูกหลานจะรวมนำ ใจดีๆ ไปแสดงความเคารพและแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษมีการตระเตรียมแบ่งงานกันไป ตั้งแต่วางแผนวันที่จะไหว้ สมัยก่อนอาจจะต้องเป๊ะ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปก็ปรับให้สมดุลกันการจัดซื้อของไหว้จำพวก เนื้อสัตว์ ติ่มซำ อาหารคาว-หวาน ผลไม้ กระดาษไหว้ ประทัด ดอกไม้ เป็นต้น เราแบ่งกันไปช้อปตามที่ต่างๆ เช่น โลตัส สมัยก่อนการไหว้อาจจะต้องครบเซต เช่น ซาแซ คือเนื้อสัตว์มงคล 3 อย่าง โหงวก้วย คือผลไม้มงคล 5 ชนิดกับข้าวจะลงมือผัดและทำเตรียมกันมา แต่ครั้งนี้ใช้วิธีสั่งอาหารโดยเลือกร้านอาหารที่ใกล้สุสาน นั่นคือร้าน ครัวชาวเขื่อน อ.บางพระ จ.ชลบุรี สิ่งของและจำนวนที่นำมาไหว้จะเน้นถึงความหมายอันเป็นสิ่งมงคล แต่พอมายุคปัจจุบันเราก็ยังคงจัดและปรับให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจ ความสะดวก แม้สิ่งของหรือจำนวนอาจจะไม่ได้จัดครบ แต่พวกเราก็คงความเคารพและปรับเปลี่ยนตามเหมาะสมและคงความหมายอันเป็นมงคลภายในสุสาน ก่อนฤดูกาลไหว้ เจ้าหน้าที่สุสานก็จะมีการดูแลบำรุงรักษาพื้นที่สุสาน ดูแลหญ้าของแต่ละฮวงซุ้ย ในวันไหว้ ผู้มาไหว้ก็ติดต่อกางเต็นท์ผ้าล่วงหน้าของแต่ละฮวงซุ้ยที่จะไหว้ จุดเเรก เมื่อเข้ามาภายในสุสาน แต่ละบ้านก็จะไหว้ ทีกง (ฟ้าดิน) แป๊ะกง (เจ้าที่) กันก่อน ศาลจะอยู่ด้านหน้าก่อนเข้าเขตสุสานบรรพบุรุษไหว้เจ้าที่บอกกล่าว ขออนุญาต ด้วยธูป เทียนแดง ส้ม ดอกไม้ กระดาษไหว้ ตั้งไหว้ก่อนเพราะขากลับออกมาค่อยมาลาของไหว้และเหี่ยง(เผา) กระดาษจากนั้นเข้ามาที่ตัวสุสานกัน ลูกหลานก็ช่วยกันปัดกวาดพื้นบ้านของบรรพบุรุษ (ฮวงซุ้ย )ให้สะอาดด้านบนของสุสาน ส่วนใหญ่จะให้เด็กๆขึ้นไปเรียงดอกไม้ ตกแต่งพื้นที่ให้สวยงาม สดใส แม้จะร้อนแต่ก็ให้ใจเต็มที่มาก เด็กๆได้ฝึกความอดทน(ร้อน😂) ได้สนุกไปด้วยกับการดีไซน์ซุ้มดอกไม้ โปรยกระดาษ สีรุ้งต่างๆ บางซุ้มมีปักธงแล้วแต่ความสะดวก ความเหมาะสมเลยพื้นที่ส่วนกลาง ใช้ผ้า เสื่อปู ทยอยลำเลียงของ เพราะแต่ละสุสานจัดไหว้ 2 ที่จุดไหว้แป๊ะเอี๊ย เทพที่รักษาบ้านอยู่ฝั่งด้านข้าง ไหว้ธูป ปักเทียน ถวายของไหว้ เช่น ซาลาเปา ผลไม้ เครื่องดื่ม กระดาษไหว้ พวงมาลัย ไหว้บอกกล่าวท่านก่อนจุดไหว้บรรพบุรุษ ตั้งข้าวถ้วย ตะเกียบ ช้อน เครื่องดื่มบนแท่น ส่วนของไหว้ต่างๆ ที่นำมาจัดวางเป็นประเภท คาว หวาน ผลไม้ ขนม เครื่องดื่มกระดาษไหว้ในแบบต่างๆ เช่นของใช้ ใบเบิกทาง เงิน ทองแท่ง ฯลฯลำดับการไหว้ จะให้ผู้อาวุโสไหว้ก่อนจากนั้น ลูกหลานเรียงตามมา ไหว้ที่หลักๆคืออากง อาม่า จากนั้นก็เดินไปไหว้ตามสุสานบรรพบุรุษที่ล่วงลับซึ่งจะอยู่ใกล้กันค่ะ แต่ถ้าสุสานอยู่ห่างออกไปก็ส่งใจระลึกถึง เพราะแต่ละสุสานจะมีลูกหลานของแต่ละครอบครัวไหว้เช่นกันการไหว้เราจะมากันแต่เช้าสัก 7-8 โมงกำลังดี เพราะเวลาในการไหว้ จะไหว้เสร็จทุกจุดก่อนเที่ยงวัน จากนั้นลาของไหว้ เผากระดาษ และจุดประทัดขอเก็บภาพบรรยากาศกันสักนิด แบบไวๆ ตาพร้อมยิ้มแบบออโต้เพราะอากาศร้อนมากอย่างไรแนะนำว่า จิบน้ำบ่อยๆ หาอุปกรณ์ป้องกันแดด จัดสรรและคำนึงถึงความปลอดภัยของคนทุกวัย รุ่นใหญ่-เล็ก ดูแลกันไปตั้งแต่เริ่มไปถึงการจัดเก็บให้เรียบร้อยสมัยก่อนไหว้เสร็จจะใช้เวลานั่งกินข้าวร่วมกัน แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนบวกกับทีมมีทั้งผู้อาวุโสและเด็กเล็ก ดังนั้นจึงต้องขอแจกจ่ายของไหว้ แบ่งกันไปให้แต่ละบ้านเพื่อเสริมสิริมงคล แล้วก็แยกย้ายกันก่อน แต่ถ้ามีการเตรียมอุปกรณ์พร้อม ก็สามารถนั่งกิน นั่งชิลๆพูดคุยกัน หน้าสุสานบรรพบุรุษ รูปแบบไหนก็สุขทางใจได้เช่นกันไวมากๆ ครึ่งวันเช้ากับภารกิจไหว้บรรพบุรุษ ก่อนแยกย้าย พวกเราก็ไหว้ทำความเคารพ ขอพรบรรพบุรุษคุ้มครอง อำนวยสิ่งอันเป็นมงคลแก่ลูกหลานให้กลับไปดำเนินชีวิตต่อยอด..สู้ๆกันต่อไป ขอบคุณเสมอที่ติดตามอ่านบทความเรา กดติดตาม แชร์กันได้นะค่ะ😊 เครดิตภาพปกและภาพประกอบ ทั้งหมด โดย นัยใจพิกัด : สถานที่Lotus's Rangsit02 958 3700 สุสานเจ็งเล้ง ครัวชาวเขื่อน081 762 91397-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์