เคยมีความฝันอยากออกเดินทางท่องเที่ยว ไปกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า เพื่อน กันไหม เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีความฝันว่า ครั้งหนึ่งอยากออกเดินทางท่องเที่ยวที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้แบบมีสิ่งมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "เพื่อน" เกาะคอไปด้วยกัน ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ฝันไว้แบบนั้นเมื่อมีโอกาสจึงไม่ลังเลที่จะรีบคว้ามันไว้ทันที การเดินทางครั้งนี้มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อชาวแก๊งมีความคิดที่ตรงกันว่าอยากไปทิ้งตัวที่ไหนสักที่เพื่อ เติมพลังให้ร่างกาย เติมความสุขให้หัวใจ และหา Inspirationใหม่ ๆ ให้ชีวิต แน่นอนเมื่อเหล่าคนที่ตัวสนิทแต่มีความคิดที่ต่างกันความมันส์ย่อมบังเกิด จากการตั้งคำถามว่า " จะไปที่ไหนกันดี " คำตอบที่ได้กลับมากมายประหนึ่ง จะไปกันเป็น 10 วัน ทั้งที่จริง ๆ แล้ว จะไปกันแค่ 2 วัน 1 คืน เหล่าชายหนุ่มสาย Adventure อย่างพวกเราอยากไปสูดโอโซนให้ชื่นปอดบนยอดเขาที่มีป่าไม้สีเขียว ส่วนผู้หญิงที่มีความอ่อนไหวประดุจสายลมที่โบกพริ้ว กลับอยากเอาตัวเองไป "นั่งโง่ๆ ริมทะเล" แล้วถามว่าสุดท้ายชายหนุ่มอย่างพวกเรามีสิทธิเลือกด้วยหรอ ก็ยอมเขาไปตามระเบียบ หลังจากที่ได้จุดหมายคือทะเลแล้วเราก็ต้องมาเลือกกันว่าจะไปที่ไหน เพราะพวกเรามีเวลาแค่น้อยนิด ทะเลที่ที่มีหาดสวย น้ำใส และใกล้เมืองกรุงคงหนี้ไม่พ้นชลบุรี ด้วยความที่แก๊งนี้ไปทั้งทีจะขึ้นรถอย่างเดียวก็คงธรรมดาไปงานนี้อยาก "ลอยทะเล" ไปเป็นชาวเกาะ เกาะสวยและใกล้ ไปง่าย การเดินทางใช้งบน่ารัก ก็น่าจะเป็น "เกาะล้าน" ก่อนการเดินทาง เมื่อตกลงกันได้เราจึงจัดสรรหน้าที่ในก๊วนแก๊งว่าใครต้องทำอะไรบ้าง เช่น หาที่พัก หาพาหนะที่จะเดินทาง และจากคำพูดที่ว่า "กองทัพต้องเดินด้วยท้อง" สิ่งที่ขาดไม่ได้คือเสบียงอาหาร (ของกิน) เมื่อได้ครบทุกอย่าง วันเดินทางใกล้เข้ามาทุกที พวกเราตกลงกันว่าจะไปรับเพื่อนคนสุดท้ายที่จะร่วมเดินทางและตั้งต้นการออกเดินทางที่ สิ ง ห์ บุ รี พาหนะที่ใช้ในการเดินทางครั้งนี้คือ รถตู้ ล้อของมันจะเคลื่อนที่เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายเมื่อ เข็มนาฬิกาชี้ที่เลข 00.00 น. (พวกเราจะออกเดินทางจากสิงห์บุรีในเวลาเที่ยงคืนเพราะจากการคำนวนแล้วเราจะเดินทางถึงท่าเรือในเวลาที่เรือออกพอดี คือ 07.00 น.) ปล.การเดินทางต้องมีการวางแผนและศึกษาลายละเอียดทุกครั้งนะครับในทริปนี้เราวางแผนกันนานพอสมควรแต่ในบทความนี้ขออนุญาติเล่าย่อๆพอสังเขิป หาข้อมูลเพิ่มเติมตามเว็ปไซต์ต่างๆได้เลยนะครับ การเดินทางเริ่มขึ้น สิ ง ห์ บุ รี : เวลา 20.00 น. บ้านเพื่อนที่ สิงห์บุรี พวกเราชาวแก๊งอยู่กันพร้อม หน้าพร้อมตาทานอาหารค่ำพร้อมกันก่อนออกเดินทางพูดคุยเฮฮาสนุกสนานปะปนไปกับความรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตากันครั้งแรก พอทานอาหารค่ำเสร็จเรามีเวลาพักสายตาก่อนออกเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงจากนี้ ถามว่าจะนอนกันจริง ๆ หรอ ก็คงไม่หรอกเพราะมันไม่ใช่เวลานอนเลยหาอะไรทำเพลิน ๆ คุยบ้าง เล่นเกมบ้าง เมื่อเข็มนาฬิกาชี้เลข 00.00 น. ก็เป็นสัญญาณว่าได้เวลาออกเดินทางแล้ว เสียงเครื่องยนต์จากรถตู้ที่จอดหน้าบ้านดังขึ้นพวกเราก็พากันขึ้นรถ เมื่อขึ้นครบคุณลุงคนขับก็หันมายิ้มให้แล้วพูดว่า " ไอ้หนูลุงยังไม่ได้นอนเลย " จังหวะซิทคอมมากๆ เมื่อชาวแก๊งทั้งหมดหันควับมองหน้ากันและกัน และพูดว่าจะรอดไหมเนี่ย #ทริปแรกอย่าให้เป็นทริปสุดท้ายเลย ด้วยความที่ต่างคนต่างตื้นเต้นจึงคุยกันไม่หยุดประหนึ่งไม่ได้คุยกันมานานทั้งๆที่พึ่งคุยกันล่าสุดก่อนจะขึ้นรถแต่ก็คุยกันได้ไม่นานหนังตามันก็เริ่มหนักสักพักจากเสียงพูดก็กลายเป็นเสียงกรนแทนผมหลับไปตอนไหนไม่รู้อากาศดีมากเนื่องจากเดินทางกลางคืนไม่ร้อนแถวโชคดีวันที่เดินทางมีฝนพรำตลอดทางเลย ตื่นมาอีกทีรล้อรถก็มาหยุดอยู่ที่ จุดพักรถมอเตอร์เวย์ ช ล บุ รี แล้ว ช ล บุ รี : เวลา 04.30 น. จุดพักรถมอเตอร์เวย์ชลบุรี ไม่รู้ลุงขับเร็วหรือหลับไปนานกันแน่มีความรู้สึกว่าถึงเร็วมาก ลุงคนขับบอกว่าขับอีกแค่ ชั่วโมงกว่าๆก็จะถึเกาะล้านแล้ว หลังจากพักรถ และให้พวกเราลงมายืดเส้นยืดสายสักครู่ก็ถึงเวลาเดินทางต่อ จุดหมายปลายทางของพวกเราคือ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย พัทยา เพื่อขึ้นเรือต่อไปยังเกาะล้าน พวกเราจะขึ้นเรือไปในเที่ยว 07. 00 น.รถขับมาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง ครึ่งเศษก็ถึงยังท่าเรือแหลมบาลีฮาย พัทยา แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านหมู่เมฆเคล้าสายฝนพรำยามเช้ามันช่างเป็นอะไรที่สดชื่นเหลือเกิน ทุกคนที่หลับใหลอยู่บนรถที่แอร์กำลังดีก็ตื่นขึ้นด้วยท่าทางงัวเงียทุกคน หลังจากทำภารกิจส่วนตัวบนรถกันแล้ว ภารกิจกิจที่ว่านี้คือสำหรับสุภาพสตรีนะครับ กล่าวคือ เสริมความงามบนใบหน้า เธอคนหนึ่งกล่าวไว้ว่า "ปากไม่แดงไม่มีแรงเดิน" พวกผมนี่ขำกันลั่นเลยครับ หลังจาเสร็จเรียบร้อยชาวแก๊งของผมก็ไม่ลีลาเร่งฝีเท้าเดินจ่ำอ้าวไปขึ้นเรือทันใด (ท่าเรือแหลมบาลีฮาย เดินไปจ่ายดังตอนขึ้นเรือได้เลยครับ ราคา 30 บาท ไปอย่างเดียวนะครับ )หลังจากจับจองที่นั่งบนเรือเรียบร้อยได้เวลาเรือก็ออกเดินทางข้ามไปยังเกาะ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ครับ ถึงแล้ว เ ก า ะ ล้ า น เ ก า ะ ล ้า น : เมื่อเรือเดินทางมาถึงพวกเราก้าวขึ้นฝั่งและเดินสำรวจรอบๆบริเวณ ว่ามีพาหนะอะไรที่จะพาพวกเราออกเดินทางไปชมความสวยงามของหาดต่างๆ ตัวเลือกมีหลากหลายทั้ง รถจักยานยนต์ คันละ 300 น้ำมันเต็มถัง เที่ยวได้รอบเกาะ นี่เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว แต่เรามาเดี๋ยวเดียวก็จะกลับเลยตัดสินใจไม่เลือกตัวเลือกนี้ เราไปเจอแผนที่ของเกาะแล้วเลือกหาดที่อยากไปหาดนั้นคือ หาดตาแหวน หลังจากนั้นจึงเลือกที่จะขึ้นสองแถว คนละ 10 บาทไปยังหาดตาแหวน ตลอดทางที่เราเดินทางไปพวกเราสนุกสนานเฮฮามากเพราะเป็นครั้งแรกที่ขึ้นสองแถวกันครบแก๊ง รถเดินทางประมาณ 10 นาทีก็ถึงหาตาแหวน พวกเรากระโดดลงจากรถทันทีไม่ได้กระโดดลงมาเพราะตื่นเต้นนะแต่กระโดลงมาเพราะปวดฉี่ต่างหาก ทุกคนต่างหาห้องน้ำเพื่อเข้าไปทำธุระส่วนตัวพอเสร็จพวกเราออกมาเจอกันที่จุดนัดหมายแล้วเดินไปชมความสวยงามของทะเล ตอนนี้เป็นบรรยากาศที่ดีมาก แดดอ่อนรำไรยามเช้าคุกเคล้ากับเสียงคลื่นที่กระทบเม็ดทรายร่างกายได้สัมผัสสายลมเบาๆที่พัดเข้าปะทะกับร่างกายเท้าของพวกเราสัมผัสกับเม็ดทรายสีขาวบนชายหาด ตอนนี้คำเดียวที่อยู่ในหัวคือ "ละมุน"มาก เ ก า ะ ล้ า น : พวกเราสัมผัสบรรยากาศแบบนี้อยู่สักพัก ก่อนจะก้มมองเข็มนาฬิกามันย้ำเตือนว่าพวกเราต้องเดินทางไปที่ต่อไปแล้ว เราใช้เวลาในทริปนี้อย่างคุ้มค่าเพราะมีโอกาสน้อยครั้งมากที่ผมและชาวแก๊งจะได้มาเที่ยวด้วยกันแบบนี้ เราเดินทางกลับท่าเรือด้วยรถสองแถวคันเดิมและต่อเรือ กลับไปยังฝั่ง พวกเราใช้เวลาอยู่ด้วยกันบนเกาะล้านนี้ประมาณ 7 ชั่วโมงกว่า แม้มันจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็นช่วงเวลาที่มีค่ามาก ๆ สำหรับพวกเรามาก เ ก า ะ ล้ า น : การเดินทางครั้งนี้อาจจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่ได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศแต่เต็มอิ่มกับความรู้สึก ไม่ได้ภาพผ่านเลนส์กล้องที่สวยงามแต่ได้ภาพผ่านเลนส์สายตาที่สวยงามในความรู้สึก หน่วยเวลาที่อยู่บนนั้น อาจจะเป็นแค่เลขหลักเดียว แต่ถ้านับหน่วยความรู้สึกแล้วคงจะบอกได้ว่ามันเทียบเท่าหรือมากกว่านล้านหน่วยเสียอีก 7 ชั่วโมง แต่ ล้านความรู้สึก สัญญาว่าเราจะได้พบกันอีก : เ ก า ะ ล้ า น ช ล บุ รี