โอ้เมื่อมีไฟ ไฟ ไฟ ลุกขึ้นแจ่มจ้า สุขอุราเมื่อเรามาพร้อมหน้ากัน นี้ฤดูร้อนหรือกองไฟ ทำไมร้อนขนาดนี้ ถ้าได้ไปเล่นน้ำ ฟังเสียงคลื่นทะเล จิบเครื่องดื่มเย็นๆสักที่คงจะฟินน่าดู เที่ยววันหยุด เสาร์ อาทิตย์ ใช้เวลาไม่มากแต่ความสุขเต็มร้อย ครั้งนี้เราไปกันที่ เกาะสีชัง เกาะชื่อดังของ จ.ชลบุรี เราอ่านคำโฆษณามาว่า ที่เกาะนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสงบและทรัพยากรธรรมชาติที่ยังคงสมบูรณ์อยู่ ฟังดูดีนะ ความตั้งใจของเราคือการมาทะเล และแน่นอนว่าเราจะไปแต่ทะเล ที่อื่นไม่แวะ แน่วแน่มาก ฮ่าา เรามาพิสูจน์กันว่าจริงสมคำโฆษณาหรือเปล่า พร้อมแล้วก็จัดกระเป๋า ขึ้นรถ ลุย!เกาะสีชัง เป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก ของ จ.ชลบุรี สามารถเที่ยวได้ทั้งแบบ วันเดย์ทริป และ นอนค้างคืน เกาะสีชังเป็นเกาะสงบ วิถีชีวิตชุมชนยังไม่เปลี่ยนไปมากนักเหมาะสำหรับคนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย เราเลือกที่จะนอนค้างคืน 1 คืน เพราะอยากรู้ว่าที่เกาะสีชังเนี่ย ภายใน 24 ชั่วโมงเป็นแบบไหน การเดินทาง เราเดินทางกันด้วยรถบัส ขึ้นรถที่ สถานีเอกมัย กรุงเทพ - สัตหีบ ใช้เวลาประมาณ 3.5 - 4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพจราจร ลงที่ โรบินสัน ศรีราชา ข้ามสะพานลอย แล้วมองหาพี่วินแถวนั้น ไป ท่าเรือจรินทร์ เลยจ่ะพี่จ๋า มาถึงท่าเรือซื้อตั๋วข้ามไปเกาะ เรือข้ามไม่เล็ก ไม่ใหญ่ แอบเห็นนักท่องเที่ยวเอาน้องหมาโกลเด้นขึ้นเรือมาเที่ยวด้วย น่ารักมากเลย นั่งให้ลมตีหน้าเปิดหัวไปเพลินๆ ดีนะวันนั้นอากาศไม่ร้อน น้ำกระเด็นขึ้นมาพอให้ชุ่มช่ำ แต่สีน้ำไม่น่าเล่น ถ้าใกล้เรือขนของก็จะมีคราบน้ำมันลอยมาให้เห็น เห้อ ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงเกาะสีชัง ช่วงก้าวขึ้นบันไดจะขึ้นบก ก้าวขาสูงนิดนึงนะเพราะทางนี้เกือบตกทะเล ขาสั้นสะดุดบันได ก้าวไม่พ้น อนาถจริงๆ หลังจากเรียกขวัญกำลังใจกลับมาได้ ก็โทรเรียกที่พักให้มารับที่ท่าเรือ เราเช่ารถมอเตอร์ไซต์กับทางที่พัก ที่เกาะคิดค่าเช่าเฉลี่ย 250 - 300 บาทต่อวัน เราสามารถไปเช่ากับเจ้าอื่นก็ได้แต่เราจองกับที่พักเลยดีกว่า สะดวกดี ได้รถแล้วเราก็ไปแว้นๆกัน ถนนบนเกาะถือว่าดีไม่เป็นหลุมเป็นบ่อเพราะไม่มีรถใหญ่สัญจร ใหญ่สุดที่เราเห็นก็คือ รถขนน้ำ ไซส์ประมาณรถดูดส้วมตามต่างจังหวัด จะมีทางลาดชันและโค้งเยอะหน่อย รถเกียร์ออโต้ขับได้สบายๆ แต่ไม่ค่อยเหมาะกับมือใหม่ที่กะจะมาหัดขับที่นี่นะ เพราะทางลาดก็ลาดหนักพอตัว ที่แรกที่เรามาคือ หาดถ้ำเขาพัง หาดนี้จะอยู่ช่วงกลางของเกาะ หาดนี้อนุญาติให้เล่นน้ำได้ (เกาะสีชังไม่ได้อนุญาติให้เล่นน้ำได้ทุกหาด) ที่หาดนี้คนจะเยอะกว่าทุกหาดเพราะมีร้านอาหาร แต่ไม่ใช่ร้านแบบภาคใต้นะ ที่นี่ไม่มีบาร์หรือร้านสไตล์เรกเก้อะไรแบบนั้น ที่นี่คือหาดไทยสไตล์ ร้านอาหารแบบกางเต้นท์ผ้าใบ มีให้เลือกไม่มาก นักท่องเที่ยวไม่เยอะ ค่อนข้างสงบ กินอิ่มก็ถึงเวลาไปลุยน้ำ ทรายที่นี่ไม่ละเอียดเท่าภาคใต้ แต่ความใสต้องยกให้เขาเลย ใสมาก เปลือกหอยค่อนข้างเยอะ แนะนำว่าใส่รองเท้าหน่อยก็ดี เวลาคลื่นซัดกับโขดหิน เสียงมันฟังแล้วผ่อนคลายดีจัง ไปกันต่อที่ ท่ายายทิม เราขับลงมาใต้สุดของเกาะ นี้คือวิวระหว่างทาง ที่นี่เงียบมาก ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย น่าจะเพราะน้ำที่นี่ไม่สามารถเล่นได้และไม่มีหาด แต่เราก็ว่าสวยไปอีกแบบ สวยอันตราย ต้องยกให้เลย เพราะตรงนี้เป็นหินก้อนใหญ่และค่อนข้างคม เปลือกหอยที่เกาะตามหินบาดเท้าเพื่อนเรามาแล้ว ให้ดูว่าหินก้อนใหญ่จริงๆจุดนี้ เราบังเอิญไปเจอหินก้อนนี้สีสวยดี ถ่ายรูปน้องเขาหน่อย แล้ววางลงที่เดิม เวลาเดินเหมือนต้องวางแผนชีวิตเพราะต้องคำนวนว่าเหยียบไปตรงไหนข้อเท้าจะไม่พลิก เพราะหินสามารถพลิกแพลงได้ทุกจุดจริงๆ ฮ่าาา เคลื่อนทัพมากันที่จุดยอดฮิต ช่องเขาขาด อ่านรีวิวมาเขาบอกกันว่าต้องมารอดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ เราก็อ่ะ รอ แต่ระหว่างรอก็เดินดูรอบๆ หาจุดสวยๆนั่ง นางแบบบอกว่ามุมเผลอ ซึ่งเราคนถ่ายก็รู้แหล่ะว่าไม่เผลอ ฮ่าาา แต่ลมก็เป็นใจเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยใช้ได้ เดินขึ้นเนินเขาไปเรื่อยๆก็เอ้ะ สรุปเราควรนั่งตรงไหน เพราะข้างบนนี้ซากอาคารอะไรสักอย่างอยู่ แอบหลอนอยู่เด้อพี่จ๋า สงสัยจะดูหนังเยอะ รอไปรอมาก็เอ้ะ เราน่าจะมาเร็วเกินไป พระอาทิตย์ไม่ตกสักที ย้ายโลเคชั่นดีกว่าเดี๋ยวค่อยกลับมา มานั่งอยู่ที่ หาดท่าวัง ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก พิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน เรานั่งดูเรือสินค้ากัน งงมาก ไม่ดูพระอาทิตย์ตกแต่มาดูเรือสินค้า ซึ่งแน่นอน นั่งเพลินพระทิตย์ตกข้างหลังเราค่ะ อดดู ฮ่าาา ระหว่างทางก็เจอน้องหมู มากันเป็นเครอบครัว ไม่กลัวคนด้วย น่ารักเชียว พอขับรถเข้ามาในเขตชุมชนเพื่อหาอะไรกิน จะรู้สึกได้เลยว่าแทบไม่เห็นนักท่องเที่ยวเลย ส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านมาจับจ่ายตลาดกัน ที่เป็นแบบนี้เพราะนักท่องเที่ยวบางส่วนมาวันเดย์ทริปกัน เช้า-เย็นกลับ ช่วงดึกที่นี่เลยค่อนข้างสงบ มีร้านกินข้าวแหล่ะแต่ก็ไม่ได้เยอะมากมายเหมือนแหล่งท่องเที่ยวอื่น สำหรับเราค่อนข้างประทับใจกับที่นี่เพราะเหมาะกับคนหาที่สงบๆ ธรรมชาติยังสมบูรณ์ ชาวบ้านน่ารัก ทะเลยังคงความสวยอยู่ แนะนำสำหรับใครที่อยากจะพักผ่อนจริงๆ เกาะสีชังตอบโจทย์ จริงๆที่นี่มีอีกหลายที่สวยๆเยอะแยะไปหมด ไม่ได้มีแค่ทะเล เช่น สะพานอัษฎางค์ เรือนไม้ริมน้ำ(เรือนเขียว) ระฆังหินและเจดีย์เก่าแก่ เยอะแยะไปหมด แต่เราเน้นทะเลเพราะการขับรถเล่นแล้วไปจอดมองทะเลเป็นความสุขอย่างนึงของเราเลย แล้วความสุขของเพื่อนๆหล่ะเป็นแบบไหน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน