เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก จึงไม่แปลกที่ เกาะสีชัง มักจะมีผู้คนแวะเวียนมาเยือนอยู่บ่อยๆ สถานะจริงๆ ของเกาะนี้ เป็นหนึ่งใน 11 อำเภอของจังหวัดชลบุรี เรียกให้ถูกก็คือ อำเภอเกาะสีชัง นั่งเรือจากเกาะลอย ศรีราชา มาราวๆ ครึ่งชั่วโมงก็ถึงยังจุดหมาย เกาะสีชัง การเดินทางท่องเที่ยวรอบๆ เกาะ ไปได้ทั้งแบบเช่ารถสกายแล็บ ลักษณะคล้ายกับรถตุ๊กตุ๊ก มีคนขับให้ ซึ่งตกลงกันได้ว่าจะให้พาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง กับอีกอย่างคือเช่ารถมอเตอร์ไซค์แว้นเที่ยวเอง สำหรับใครที่ไปแบบพักค้างคืน ที่พักบางแห่งอาจแถมรถมอเตอร์ไซค์ให้ใช้ฟรี แต่ครั้งนี้ไปแบบเช้า-เย็นกลับ และเลือกไป 3 สถานที่หลัก คือ พิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ และหาดถ้ำพัง โดยการเช่าเหมารถสกายแล็บ ราคาอยู่ที่ประมาณ 200 บาท จุดหมายแรก มุ่งหน้ายังพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน พระราชวังเก่าที่ตั้งอยู่บนเกาะ แห่งเดียวในเมืองไทย ที่นี่มีโบราณสถานให้เที่ยวชมมากมาย ตามทางเดินร่มรื่นที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ ก่อนอื่นเราแวะไปที่ศาลรัชกาลที่ ๕ กราบสักการะพระองค์ท่าน เพื่อความเป็นศิริมงคลก่อนออกท่องเที่ยว จากนั้น ก็เดินลัดเลาะไปตามทางที่มีป้ายบอกสถานที่แต่ละแห่งเอาไว้อย่างชัดเจน จุดนี้บอกเลยว่าประทับใจกับเรือนไทยโบราณ 3 หลัง ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน คือ เรือนวัฒนา เรือนผ่องศรี และเรือนอภิรมย์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน เรือนวัฒนา ตั้งตามพระนามสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี เป็นตึกสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีเฉลียงด้านหน้า หลังคาเป็นทรงปั้นหยา เรือนผ่องศรี ตั้งชื่อตามพระนาม พระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระวรราชเทวี ลักษณะเป็นเรือนทรงกลม มีประตูอยู่โดยรอบ เรือนอภิรมย์ ตั้งชื่อตามพระนาม พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ เป็นอาคารชั้นเดียวยาวๆ มีเฉลียงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จากเรือนทั้งสามหลัง เราจะเดินไปที่จุดไฮไลท์ สะพานอัษฎางค์ สะพานไม้สีขาวทอดยาวไปในทะเล เรียกว่าเป็นจุดเช็กอิน ที่ใครมาเกาะสีชัง ต้องแวะถ่ายรูปตรงนี้ แต่ก่อนจะไปถึงสะพานยอดฮิต ก็สะดุดตากับ เรือนไม้ริมทะเล ซึ่งเป็นเรือนไม้สีเขียว ที่ปัจจุบันนำมาทำเป็นร้านกาแฟ ตั้งประจันหน้ากับท้องทะเล เรียกว่าจิบชา กาแฟ อร่อยๆ แกล้มกับวิวน้ำและขอบฟ้า สุดชิล เราออกจากพิพิธภัณฑ์ฯ ก็มุ่งหน้าไปต่อกันที่หาดถ้ำพัง ช่วงเที่ยงๆ แดดกำลังดี น้ำทะเลใสแจ๋ว ผู้คนเล่นน้ำพอมีให้เห็นอยู่บ้างแบบบางตา เป็นชายหาดทรายสวยน้ำใส ที่ผู้คนไม่น่าจะรู้จักกันมากนัก มีเตียงผ้าใบให้นอนเล่น และอาหารอร่อย พร้อมเสิร์ฟ นั่งชมวิวเพลินๆ รับลมทะเล จากนั้นก็ไปกันที่ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ซึ่งต้องเดินขึ้นบันไดไปยังด้านบน ชนิดทำเอาหอบไปเหมือนกัน แต่พอขึ้นไปถึง ต้องบอกว่าคุ้มค่า ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพรเพื่อความสุขใจ แล้วยังได้ชมวิวชุมชนผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ด้วย หลังคาสีแดง แซมด้วยสีเขียวบ้าง สีฟ้าบ้าง ตัดกับต้นไม้สีเขียวชอุ่ม ดูแล้วชื่นใจสบายตา เกาะสีชัง สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ที่ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน เสน่ห์น่าหลงใหลก็ไม่เคยจาง ภาพทั้งหมดโดย : ผู้เขียน