แหล่งเรียนรู้ในปัจจุบันเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย ซึ่งแต่ละที่ก็มีจุดเด่นและสิ่งที่หน้าสนใจแตกต่างกันไป บางที่อาจรวบรวมเรื่องราวหรือเหตุการณ์สำคัญ ๆ เอาไว้ หรือบางที่คือสถานที่จริงที่มีเรื่องเล่าหรือตำนานมากมาย และบางที่ก็รวบรวมของแปลก ๆ และของหายากเอาไว้ ที่เกริ่นมาทั้งหมดบางคนคิดออกแล้วใช่ไหมคะว่าคือที่ไหน บางคนร้องอ๋อขึ้นมาทันที แต่บางคนยังงงอยู่ งั้นขอเฉลยเลยนะคะว่าสถานที่ที่รวมของแปลกจากทั่วโลกมาไว้ที่ประเทศไทยแล้ว นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ Ripley’s Believe It or Not เพราะที่แห่งนี้ไม่ได้มีแค่ของแปลก แต่ยังรวบรวมเหตุการณ์สำคัญหรือเรื่องเล่าที่หน้าสนใจไว้เยอะมาก เป็นดินแดนที่ใครได้เข้าไปแล้วจะหลงรักและไม่อยากให้จบ ปลื้มตั้งแต่ต้นทางจนถึงสุดทางเลย ตื่นเต้นกันเลยใช่ไหมคะว่าจะเริ่ดขนาดไหน เรามาดูไปพร้อมๆกันเลยค่ะภาพจากผู้เขียนมาเริ่มกันที่ทางเข้ากันเลยนะคะ จะมีเครื่องบินของจริงที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ที่คนสามารถเข้าไปด้านในเพื่อถ่ายรูปได้ หากมองจากข้างนอกตึกจะเหมือนเครื่องบินบินชนตึกและทะลุเข้ามา โดยเครื่องบินลำนี้มีเรื่องเล่าว่านักบินคนหนึ่งได้ประสบอุบัติเหตุเครื่องตก แต่ก็รอดออกมาได้โดยร่มชูชีพ แต่ดันไปติดบนยอดของต้นไม้ที่สูงมาก และไม่สามารถลงมาได้ แต่เขารอดชีวิตมาได้ด้วยลิงน้อยแสนน่ารัก ที่คอยส่งผลไม้เพื่อเป็นของประทังชีวิตให้แก่นักบินคนนี้ น้องอาจจะคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน 55555 ส่งผลไม้ให้เรื่อย ๆ จนได้รับความช่วยเหลือและรอดมาได้ในที่สุด ช่างเป็นเรื่องราวที่ประทับใจอย่างมาก เราจะเห็นว่ามีตุ๊กตาคนและน้องลิงห้อยอยู่ด้านบนของเครื่องบิน ที่ดูแล้วอดเอ็นดูไม่ได้ภาพจากผู้เขียนก่อนจะเดินเข้าไปด้านในก็หันไปเจอของเล่นฝึกสมาธิ โดยนำเหล็กค่อย ๆ เคลื่อนผ่านไปแต่อย่าให้โดนกับสิ่งรอบข้าง หากโดนจะมีสัญญาณแจ้งเตือน เรายืนดูเค้าเล่นมา 2 - 3 คน ยังไม่มีใครไปถึงครึ่งทางเลย จนเล่นเองบ้าง 5555 จบ ไปได้ยังไม่ถึงโค้งแรกก็มีเสียงเตือนแล้วจ้า งั้นเราเดินไปดูข้างในเลยแล้วกันภาพจากผู้เขียนภาพจากผู้เขียนเดินเข้ามาด้านในห้องแรกจะเจอ มร. โรเบิร์ต ริบลีส์ ที่เขาจะมาทักทายและแนะนำตัวของเขาเอง แต่เป็นภาษาอังกฤษนะ ถึงแม้ว่าเสียชีวิตไปแล้ว 50 กว่าปี แต่อย่าตกใจไปที่เห็นเขา เพราะที่เห็นเป็นเพียงคอมพิวเตอร์กราฟฟิคเท่านั้นค่ะ ถัดจากห้องที่ มร. โรเบิร์ต ริบลีส์ แนะนำตัวก็จะเป็นพื้นที่จัดแสดงเรื่องราวและสิ่งของพิสดารที่ มร.โรเบิร์ต ริบลีส์ ได้มาจากการเดินทางไปรอบโลกและเก็บสะสมไว้ (Ripley’s Study Gallery) เช่น โต๊ะบิลเลียดขนาดจิ๋ว, ปิเอตา งานปฏิมากรรมจากถุงกระดาษ และอื่นๆอีกมากมายภาพจากผู้เขียนภาพจากผู้เขียนภาพจากผู้เขียนภาพจากผู้เขียนมาต่อกันห้องที่ 2 กันเลยนะคะ จะเป็นห้องภาพมายาลวงตา (Illusion Gallery) ส่วนตัวแล้วชอบห้องนี้มาก เพราะจะมีของเล่นของเราลองเล่น แถมยังได้เกร็ดความรู้อีกเยอะมาก ซึ่งมีไกด์นำเที่ยวเค้าพูดขึ้นมาประโยคหนึ่งมา ทุกอย่างที่เห็นล้วนเป็นภาพลวงตา ถึงเห็นว่ามีอยู่จริง แต่ไม่สามารถจับต้องได้ ซึ่งมันสอดคล้องกับห้องนี้มาก ๆ เลยค่ะภาพจากผู้เขียนภาพจากผู้เขียนตู้นี้คือตู้อัญมณีที่ดูแล้วสวยมาก ด้านล่างจะเขียนว่าอย่าเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น และหากใครหยิบอัญมณีอันนี้ได้เอากลับบ้านไปได้เลย แต่ก็ไม่มีใครสามารถหยิบมันได้สักคน เพราะมันคือภาพลวงตา และเรามาต่อที่ห้องที่ 3 กันเลยค่ะภาพจากผู้เขียนห้องนี้คือห้องสัตว์และมนุษย์พิศวง (Human and Oddities Gallery) เป็นห้องที่พูดถึงเรื่องราวเหลือเชื่อต่างๆ ของมนุษย์และเหล่าคนดังในอดีต รวมถึงสัตว์ต่างๆที่ค่อนข้างแปลก เช่นม้าสามขาตัวเดียวในโลก ชายที่สูงที่สุดในโลก ชายที่ตัวเล็กที่สุดในโลก หรือชายที่อ้วนที่สุดในโลกภาพจากผู้เขียนภาพจากผู้เขียนภาพจากผู้เขียนห้องต่อไปคือห้องชนเผ่ายุคโบราณ (Primitive Gallery) เป็นห้องที่รวบรวมของพิสดารในสมัยยุคโบราณของชนเผ่าต่างๆทั้งในทวีปเอเชียและแอฟริกา ไม่ว่าจะเป็นหัวคนย่อส่วนของแท้จากเอกวาดอร์, ส้อมกินคนของเผ่าฟิจิ, ชามหัวกะโหลกของทิเบต ซึ่งในห้องนี้ค่อนข้างมืด ดูแล้วหลอน ๆ มีเสียงของคนชนเผ่าร้องตามหลังมาเรื่อย ๆ จนระแวงว่าจะมีใครวิ่งตามมาไหม และก็ไปเจอทีเด็ดที่ทำให้หลอนกันเลยค่ะภาพจากผู้เขียนดูภายนอกก็เหมือนไม่มีอะไรใช่ไหมคะ คุณต้องลองเดินเข้าไปด้านในและยืนอยู่ตรงนั้นสักพัก และอยู่ดี ๆ คุณจะหล่นไปด้านล่างนิดหน่อย แบบพื้นยุบลงไปแล้วไอตัวที่อยู่ด้านหน้าก็จะพุ่งตัวมาหาคุณ ตอนแรกที่เห็นแฟนยืนมองก็ไม่ได้คิดอะไร แฟนพาเข้าไปด้านในแล้วเดินออกมาทิ้งให้เราอยู่คนเดียวก็ยังสงสัยอยู่ แต่ตอนนี้เข้าใจละ ทำไมใจร้ายกับเค้าขนาดนี้ กรี๊ดลั่นห้องเลยค่ะ นักท่องเที่ยวต่างวิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น บางคนก็สงสารแต่ส่วนใหญ่หัวเราะมากกว่า แฟนเราเลยจับเราที่นั่งร้องไห้ออกมาเพื่อให้คนอื่นเล่นต่อ ไม่ได้ห่วงกันเลย ชิ และก็มีเหยื่อติดกับ เหมือนเราเห็นภาพเดิมคือมีผู้ชายชาวจีนเดินจูงมือแฟนมาให้เข้าไปด้านใน และทิ้งแฟนให้อยู่คนเดียว และเหตุการณ์ที่เคยเกิดกับเราก็เกิดขึ้น โห !!!! ร้องดังกว่าเราอีก ตอนแรกเราก็ยังกลัวนะ แต่พอเห็นคนอื่นโดนก็อดขำไม่ได้ 55555 ใครที่ไปห้องนี้ต้องลองค่ะภาพจากผู้เขียนภาพจากผู้เขียนเหมือนจะหมดแต่ยังไม่หมด ยังมีอีกห้องที่อาจจะเป็นห้องใหม่ที่เค้าเพิ่งสร้าง เป็นห้องที่เล่าถึงเรื่องราวของฉลาม อธิบายถึงสายพันธ์ุของฉลาม วิธีเอาตัวรอดจากฉลาม รวมถึงบาดผลที่ต่อสู้กับฉลาม ภาพจากผู้เขียนแค่ทางเข้าก็สยองแล้วนะ เหมือตัวเองเข้าไปในกรงฉลามเลยภาพจากผู้เขียนภาพจากผู้เขียนภาพจากผู้เขียนโอ๊ยยยย รอยแผลที่ฉลามกัด จะเหมือนเกินไปแล้วนะ สยอง ไม่กล้าดู แต่ถ่ายรูปมา 5555ภาพจากผู้เขียนสนุกครบเครื่องจริง ๆ สำหรับ พิพิธภัณฑ์ ริบลีส์ เชื่อหรือไม่! Ripley’s Believe It or Not หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ ที่มีชื่อเสียงของโลกต้นกำเนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่รวบรวมความมหัศจรรย์จากทั่วทุกมุมโลกที่มีทั้งความลี้ลับพิสดาร ความงดงามที่น่าประทับใจ ความสนุกที่ไม่เหมือนใครของที่นี่ ทำให้การชมพิพิธภัณฑ์ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไป แต่กลับทำให้ชื่นชอบมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังช่วยให้เราเปิดโลกกว้างมากยิ่งขึ้น ว่าโลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่รอเราอยู่ เพื่อรอให้คุณค้นหา สำหรับใครที่อยากไปสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ ๆ สามารถเที่ยวชมได้ที่ชั้น 3 ศูนย์การค้ารอยัล การ์เด้น พลาซ่า พัทยาใต้ ใกล้ Walking Street Pattaya โดยราคาสามารถดูโปรโมชั่นได้ที่ด้านหน้าขายตั๋ว มีทั้งแบบราคารวมเครื่องเล่น หรือจะซื้อแบบเดี่ยวก็สามารถแจ้งพนักงานผีได้เลย แต่ดูดี ๆ นะ เพราะเรากำลังซื้อแล้วมีพนักงานผีมาแกล้งด้านหลัง จนอยากจะคืนเงินเลย 5555 หากใครไม่กลัว ก็ไปสัมผัสความหลอนกันได้เลย หึหึหึภาพจากผู้เขียนสามารถดูแผนที่ได้ที่ลิ้งนี้เลยค่ะ : https://www.google.com/maps