โรคซึมเศร้าไม่ได้เป็นเรื่องธรรมชาติและไม่ได้เป็นผลมาจากวิวัฒนาการ มนุษย์เราสามารถแสดงออกทางอารมณ์และเปลี่ยนอารมณ์ได้ แต่การที่คนๆ หนึ่งจะมีแต่อารมณ์เศร้าจึงเป็นสิ่งที่บอกให้เรารู้ว่า ร่างกายทำงานผิดปกติ "โรคซึมเศร้า" เป็นการเจ็บป่วยทางความรู้สึก ดังนั้นการรักษาที่ทำให้ปรับเปลี่ยนอารมณ์ของผู้ป่วยให้ดีขึ้น จึงเป็นการรักษาที่ได้ผล ถึงแม้ว่าวิธีการนั้นจะเป็นการรักษาแบบทางเลือกก็ตาม โรคซึมเศร้าทำให้คนพยายามฆ่าตัวตายทุกวัน การปกปิดมันไว้จะทำให้มันหนักขึ้น ถ้าเราไม่ยอมรับมัน อาการก็จะยิ่งแย่ลง คนที่ยอมรับว่ามีอาการโรคซึมเศร้าจะจัดการหาทางรักษาและฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น โรคซึมเศร้าไม่ใช่เรื่องปกติของคนยากจน และมันรักษาให้หายได้ และคนที่ค้นหาความหมายของชีวิต คนที่เรียนรู้จากความสูญเสียหรือความยากลำบาก มักจะฟื้นฟูกลับมาใช้ชีวิตตามปกติและมีอนาคตที่ดีได้ โรคซึมเศร้าสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ โรคซึมเศร้าชนิดรุนแรง และ โรคซึมเศร้าเรื้อรัง ในที่นี้จะกล่าวถึงชนิดเรื้อรังเพียงโดยสังเขปด้านล่าง ส่วนบทความทั้งหมดจะเน้นไปที่โรคซึมเศร้าชนิดรุนแรงเท่านั้น โรคซึมเศร้าชนิดรุนแรง (Major Depression) เป็นอาการซึมเศร้าอย่างที่ส่งผลกระทบถึงชีวิตการทำงานหรือการเรียน รวมไปถึงการนอนหลับและการกินอยู่ได้อย่างเป็นปกติสุขอย่างรุนแรง โรคซึมเศร้าเรื้อรัง (Persistent Depressive Disorder) แม้จะมีอาการและความรุนแรงของอาการน้อยกว่า แต่ภาวะซึมเศร้าชนิดนี้จะคงอยู่กับผู้ป่วยยาวนานกว่ามาก เป็นเวลาอย่างน้อยตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป ซึ่งผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรังก็อาจมีบางช่วงเวลาที่ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้าชนิดรุนแรงร่วมด้วย การรักษาโรคซึมเศร้า การรักษาโรคซึมเศร้าในปัจจุบัน หลัก ๆ มีด้วยกัน 3 วิธี คือ การใช้ยาต้านซึมเศร้า (Antidepressants) การพูดคุยบำบัดทางจิต (Psychotherapy) และการกระตุ้นเซลล์สมองและประสาท (Brain Stimulation Therapies) โดยมากแพทย์จะรักษาด้วยการใช้ยาต้านซึมเศร้าและการพูดคุยบำบัดกับผู้ป่วยควบคู่กันไป ส่วนในรายที่มีอาการรุนแรงมาก มีพฤติกรรมมุ่งทำร้ายทำตัวเองหรือฆ่าตัวตาย จึงจะเลือกใช้การกระตุ้นเซลล์สมองและประสาทเพื่อรักษาได้ทันท่วงที ทั้งนี้แพทย์ยังต้องพิจารณาอีกด้วยว่าจะใช้ยาตัวใด การพูดคุยบำบัด และการกระตุ้นเซลล์สมองรูปแบบใดจึงจะปลอดภัยและเหมาะสมกับผู้ป่วยรายนั้น ๆ ที่สุด เครดิตรูปภาพ :ภาพโดย rujirawan จาก pixabay ภาวะซึมเศร้าไม่มีวิธีการป้องกันที่แน่นอน เนื่องจากสาเหตุอาจเกิดจากโรคบางประการ เช่น ความผิดปกติในสมอง อาการเจ็บป่วย หรือการใช้ยาที่เกิดภาวะซึมเศร้าแทรกซ้อนได้ ถือว่าเป็นปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุม แต่การสร้างพฤติกรรมทางสุขภาพที่ดีด้วยการเลือกรับประทานอาหารและออกกำลังกาย การรักษาสภาวะอารมณ์ให้แจ่มใสด้วยการทำกิจกรรมเพื่อความสนุกสนานและผ่อนคลาย นับเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะซึมเศร้าได้