อื่นๆ

น้ำตาศพ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
น้ำตาศพ

พี่ชายข้างบ้าน นามสมมติว่า พี่ภูมิ แกเป็นคนเรียนเก่งมาก และพึ่งเรียนจบคณะแพทย์ศาสตร์ในมหาวิทยาลัยชื่อดังอันดับต้นๆ ของประเทศ พอจบมาได้ 2 เดือน ก็ถูกส่งตัวไปประจำการในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่จังหวัดปราจีนบุรี เป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์นิติเวช ที่คอยชันสูตรพลิกศพ เพื่อค้นหาสาเหตุการตาย จนฉันเคยแอบถามพี่ภูมิว่าทำไมถึงมาทำงานตำแหน่งนี้ ไม่กลัวหรอ? แกตอบว่า "ไม่กลัวหรอก" เหมือนเราได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ช่วยให้ครอบครัวของคนตายได้รู้สาเหตุการตายที่แท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการตายที่เป็นคดีความ และพี่ภูมิเป็นตัวแปลสำคัญในการบ่งชี้ว่าใครเป็นคนฆ่า ซึ่งช่วยให้ตำรวจสามารถจับคนร้ายเข้าคุกได้

.

ขอบคุณรูปภาพ https://www.dailynews.co.th/foreign/228653

Advertisement

Advertisement

แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น บวกกับเราเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกัน และอายุห่างกันไม่มาก ฉันอายุ 25 ปี ส่วนพี่ภูมิอายุ 27 ปี ฉันจึงแอบถามพี่ภูมิต่อว่า ทำอาชีพนี้แล้วเคยมีเหตุการณ์หลอนๆ เกินขึ้นไหม พี่แกหัวเราะ ก่อนจะตอบว่า “มีบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา บางอย่างวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถอธิบายได้” ตอนแรกพี่ภูมิกะว่าจะไม่เล่า แต่ฉันคะยั้นคะยอจนแกรำคาญจึงตัดสินใจเล่าให้ฟัง

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เป็นตอนที่พี่ภูมิกำลังจะเรียนจบคณะแพทย์ พี่ภูมิไปฝึกงานในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในจังหวัดปราจีนบุรีนี่แหละ แต่เป็นโรงพยาบาลเล็กๆ ในชุมชนที่สภาพค่อนข้างทรุดโทรม มีหมอและพยาบาลรวมๆ แล้วไม่ถึง 10 คน ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตีสอง แกเข้าเวรดึก สถานการณ์ทุกอย่างเป็นไปปกติเหมือนเช่นทุกวัน ในขณะที่พี่ภูมิกำลังนั่งกินกาแฟอยู่ในห้องฉุกเฉิน เสียงรถหว๋อของหน่วยกู้ภัยก็ดังขึ้น พยาบาลตะโกนเข้ามาบอกว่าให้เตรียมตัวเพราะมีคนไข้ถูกยิง

Advertisement

Advertisement

ตอนนั้นพี่ภูมิรีบวางแก้วกาแฟลง ก่อนจะวิ่งออกไปข้างนอก เหตุการณ์ข้างนอกห้องฉุกเฉินวุ่นวายมาก เสียงรถหว๋อเปิดดัง ญาติคนไข้มาเป็นสิบ บุรุษพยาบาลรีบนำตัวคนที่ถูกยิงเข้าห้องฉุกเฉิน สภาพของชาย อายุน่าจะประมาณ 27-28 ปี นอนจมกองเลือดอยู่บนเตียงคนไข้ในห้องฉุกเฉิน เนื่องจากตอนนั้นพี่ภูมิเป็นแค่เด็กฝึกงาน ยังไม่มีประสบการณ์ก็แอบตกใจเล็กน้อย แต่ก็ทำได้แค่เพียงช่วยส่งอุปกรณ์การแพทย์ให้หมอและพยาบาล ชายผู้โชคร้ายถูกยิงเข้าที่ท้ายทอย เขานอนตะแคงเพื่อให้หมอผ่าเอาลูกระสุนออกมา

.

ขอบคุณรูปภาพ https://www.thehouse.online/story438/

คนไข้นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงเพราะเสียเลือดไปเยอะ จนท้ายที่สุดแล้วก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ทำให้เขาสิ้นใจในที่สุด แม้จะรู้ว่าเขาไม่มีลมหายใจแล้ว แต่ด้วยจรรยาบรรณความเป็นหมอก็ต้องปฎิบัติหน้าที่ต่อให้เสร็จ พี่ภูมิเล่าว่าวินาทีสุดท้ายที่ชายคนนั้นกำลังจะหยุดหายใจ จู่ๆ เขาก็ลืมตาขึ้นมา จ้องมองมาที่ใบหน้าของพี่ภูมิเหมือนคนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็พูดออกมาไม่ได้ หลังจากนั้นเขาก็สิ้นใจไปในที่สุด

Advertisement

Advertisement

มาทราบชื่อเสียงเรียงนามจากญาติผู้ตายอีกทีว่า นามสมมติผู้ตาย ชื่อ นายวัตร วันเกิดเหตุผู้ตายกินเหล้ากับกลุ่มเพื่อน พอเหล้าหมด จึงอาสาขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง โดยมีเพื่อนสนิท นามสมมติ ชื่อ นายเอก ไปเป็นเพื่อน ในขณะที่นายวัตรเป็นผู้ขับและนายเอกนั่งซ้อน จู่ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้น ตอนนั้นนายวัตรไม่รู้ตัวว่าตนเองถูกยิง จึงขับรถไปต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอนายเอกสังเกตุเห็นเลือดที่ไหลออกมาจากท้ายทอยเพื่อน จึงตะโกนขึ้นด้วยความตกใจ เท่านั้นแหละนายวัตรก็ล้มลงไปพร้อมๆ กับรถมอเตอร์ไซค์

.

ขอบคุณรูปภาพ https://variety.thaiza.com/horror/280504/

ปริศนาการถูกยิงยังคงไม่คลี่คลายคดี ตำรวจยังไม่ทราบว่าใครกันแน่ที่เป็นคนร้าย แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นคู่อริของผู้ตาย พี่ภูมิเล่าต่อว่า วันที่ต้องเอาศพนายวัตรเข้าไปไว้ในห้องดับจิตเพื่อรอชันสูตร เป็นวันเดียวกันที่เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ในตอนนั้นพี่ภูมิเป็นคนเข็นเตียงศพเข้ามาเก็บเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นเวลาประมาณตี 3 กว่าๆ ด้วยความที่เป็นโรงพยาบาลเก่า สภาพทรุดโทรม จู่ๆ ไฟทางเดินระหว่างทางไปห้องดับจิตก็ดับๆ ติดๆ บอกได้เลยว่าวังเวงมาก ถ้าคนไหนกลัวผีคงช็อคตายไปนานแล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับพี่ภูมิ

เมื่อเข้ามาถึงห้องดับจิตก็มีศพอื่นๆ นอนเรียงรายกันอยู่มากมาย พี่ภูมิจอดเตียงเข็น ล็อคขา ก่อนจะเดินหันหลังออกมา แต่ยังไม่ทันจะได้หันหลัง จู่ๆ ผ้าขาวช่วงบนที่คลุมใบหน้าของศพไว้ก็เปิดขึ้นมา เผยให้เห็นใบหน้าของชายคนนั้น พี่ภูมิสงสัยว่ามันเปิดขึ้นได้ยังไงทั้งๆ ที่ไม่มีลมพัดเลยสักนิด แม้จะไม่ใช่คนกลัวผีแต่พี่ภูมิก็ยอมรับว่าเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว ยังไม่ทันที่ภูมิจะหันหลังเดินออกไป จู่ๆ ศพก็ลืมตาขึ้นมาจ้องหน้าที่ภูมิเหมือนที่เคยทำตอนยังมีชีวิตอยู่ เพียงครู่เดียวศพก็มี น้ำใสๆ ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง พี่ภูมิตกใจมาก แบบนี้วิทยาศาสตร์ก็น่าจะอธิบายยากแล้ว เมื่อเห็นท่าจะไม่ดี แกรีบวิ่งหนีออกมาจากห้องดับจิตทันที

.

ขอบคุณรูปภาพ https://shock.mthai.com/scare-shock/7456.html

เช้าวันต่อมา พี่ภูมิไม่คิดจะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเพราะกลัวคนอื่นกลัวไปด้วย แต่ก็แอบได้ยินพยาบาลคุยกันว่าศพผู้ตายที่ถูกยิงเมื่อคืน ตอนนี้ตำรวจจับตัวคนร้ายได้แล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก คนร้ายคือ นายเอก เพื่อนสนิทเขานั่นแหละที่เป็นคนยิง นายเอกสร้างเรื่องขึ้นมาหรอกทุกคน แต่จริงๆ แล้วตนเองเป็นคนยิงเองกับมือ โดยใช้จังหวะที่นายวัตรเป็นคนขับและตนนั่งซ้อนควักปืนออกมายิงเพื่อน โดยมีแรงจูงใจมาจากเรื่องหึงหวง เพราะจับได้ว่าแฟนสาวแอบไปเป็นชู้กับเพื่อนสนิทของตัวเอง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์