อื่นๆ
ยังไม่อยากตาย
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 7 ปี ที่แล้ว ในจังหวัดปราจีนบุรี มันเกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหมู่บ้านของฉันเอง และความหลอนยังคงตาตรึงใจฉันและชาวบ้านในระแวกนั้นอย่างไม่รู้ลืม วันนี้ทางเราจึงอยากจะเอาเรื่องราวความหลอนที่น่าสะพรึงกลัวนี้มาแชร์ให้คุณผู้อ่านได้จินตนาการตาม โดยมีจุดประสงค์เพื่อบอกเล่าเรื่องราวเท่านั้น ไม่ได้จะลบหลู่แต่อย่างใด คำเตือน : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
หญิงสาวคนหนึ่ง เป็นพี่ข้างบ้านของฉันเอง เธออาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับฉันมาตั้งแต่เกิด แต่ก็น่าเสียดายที่เรื่องราวชีวิตของเธอนั้นสั้นเกินไป เธอมีนามสมมติว่า “พี่พลอย” ความตายได้พรากชีวิตวัยสาวของเธอไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ พี่พลอยเสียชีวิตด้วยวัยเพียงแค่ 25 ปีเท่านั้น เธอป่วยเป็นโรคร้าย โรคที่สังคมยากที่จะยอมรับได้ นั่นก็คือ โรคเอดส์
Advertisement
Advertisement
ขอบคุณรูปภาพ https://mgronline.com/china/detail/9560000091464
ก่อนหน้านี้พี่พลอยใช้ชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายมาโดยตลอด เพราะความจนทำให้เด็กกำพร้าทั้งพ่อและแม่ ที่อาศัยอยู่กับตาและยาย หนำซ้ำยายยังพิการเดินไม่ได้ ทำให้ตาคือเสาหลักของบ้านเพียงคนเดียว รายได้ที่ได้มาไม่พอใช้ พี่พลอยจึงต้องลาออกจากโรงเรียนตั้งแต่ ม.2 แกเลยตัดสินใจหนีเข้าเมืองกรุงมาทำอาชีพขายบริการเพราะความเข้าใจผิด คิดว่าเป็นอาชีพเดียวที่จะได้เงินเยอะๆ เพื่อมาช่วยเหลือครอบครัว งานของเธอคือการสนองกิเลสตัณหาของผู้ชายหื่นกามทั้งหลายที่ไม่รู้จักพอ อยู่มาไม่ถึงสองปี ในที่สุดโรคร้ายก็เข้ามาฆ่าชีวิตเธอ หลังจากที่พี่พลอยรู้ตัวว่าติดเชื้อ HIV เธอหนีกลับมายังบ้านเกิด โดยที่ไม่ยอมบอกให้ใครรู้ แม้กระทั่งตากับยาย แต่พี่พลอยก็คอยระมัดระวังตัวตลอด เธอไม่ยอมใช้ของร่วมกับใครเพราะกลัวโรคร้ายจะไปติดคนอื่น
Advertisement
Advertisement
และการจะไปหาหมอรักษานั้น ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เพราะฐานะของเธอยากจนมาก แต่นานวันเข้าแผลที่ตัวเธอก็เริ่มพุพอง เน่า มีน้ำเหลืองใหลออกมา ส่งกลิ่นเหม็น จนทำให้ชาวบ้านเกิดความสงสัยว่าพี่พลอยป่วยเป็นอะไรกันแน่ จนในที่สุด “พี่น้ำ” เพื่อนสนิทวัยเดียวกันของพลอยก็แอบไปเจอยาในกระเป๋า และรู้ทันทีว่าเพื่อนสาวติดเชื้อเอดส์ หลังจากนั้นพี่น้ำจึงรีบตีตัวออกห่างพี่พลอย เพราะกลัวจะติดเชื้อไปด้วย เมื่อมีหนึ่งคนที่รู้ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่คนอื่นจะไม่รู้ด้วย ในที่สุดข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปจนชาวบ้านเริ่มตีตัวออกห่างครอบครัวนี้
ขอบคุณรูปภาพ https://board.postjung.com/847099
ฉันยังจำเหตุการณ์วันที่พี่พลอย พี่สาวข้างบ้านจากไปได้เป็นอย่างดี เมื่อเวลาประมาณตีสองของคืนวันหนึ่ง ตาของพี่พลอยวิ่งมาเคาะประตู้หน้าบ้านฉันกลางดึก พร้อมกับร้องเรียกให้คนช่วย ตาแกบอกว่าหลานสาวไม่สบายป่วยหนัก มันร้องโอดครวญเหมือนคนกำลังจะขาดใจตาย และบอกให้พ่อฉันพาไปส่งโรงพยาบาล เพราะพ่อมีรถกระบะ ตอนนั้นทุกคนรู้แล้วว่าพี่พลอยคงอยู่ได้อีกไม่นาน มีเพียงตาและยายของพี่พลอยเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าหลานสาวป่วยเป็นอะไรกันแน่ เมื่อได้ฟังอย่างนั้นครอบครัวของเราก็ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด เพราะเราสงสารพวกเขามากกว่า พ่อตัดสินใจพาพี่พลอยไปส่งโรงพยาบาล
Advertisement
Advertisement
ขอบคุณรูปภาพ https://www.pinterest.com/pin/352547477075623962/
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลก็ช้าเกินไปเสียแล้ว ก่อนที่พี่พลอยจะสิ้นใจ ฉันยังจำเหตุการณ์นั้นได้ดี พี่พลอยดิ้นด้วยความทุรนทุราย แกคงทรมานมาก ก่อนตายแกบอกกับทุกคนว่ายังไม่อยากตาย...แต่ใครจะห้ามความตายได้ ในที่สุดเราทุกคนก็ต้องตายอยู่ดี อยู่ที่ใครจะตายก่อนกัน พี่พลอยเพ้อจนวินาทีสุดท้าย คำพูดสุดท้ายที่ทุกคนได้ยินยังคงเป็นคำเดิมคือ...หนูยังไม่อยากตาย พี่พลอยพูดคำนี้ออกมา ก่อนสิ้นใจในที่สุด
งานศพของพี่พลอยคนไม่เยอะมากเพราะแกไม่มีญาติพี่น้องเลย มีเพียงตากับยาย ส่วนพ่อแม่ก็เสียไปตั้งแต่เด็กๆ ด้วยความสงสารของชาวบ้าน ทุกคนช่วยกันออกเงินค่าทำศพให้ ทางวัดก็ไม่คิดค่าน้ำค่าไฟใดๆ ทั้งสิ้น เพราะรู้ว่าครอบครัวของพี่แกลำบากมาก แต่หลังจากที่ศพของพี่พลอยถูกเผา ในคืนเดียวกันนั้นเอง ความเฮี้ยนก็ทำเอาชาวบ้านถึงกับแตกตื่น นอนไม่หลับกันเกือบทั้งหมู่บ้าน
ขอบคุณรูปภาพ https://bit.ly/32lxlK7
ตกดึกประมาณตีหนึ่ง ป้าข้างบ้านเล่าว่าได้ยินเสียงผู้หญิงเดินร้องไห้ผ่านหน้าบ้านไป ป้าจำได้ว่าเสียงเหมือนพี่พลอยเลย พอเปิดหน้าต่างออกมาดูกลับไม่พบเจอใครเลยแม้แต่คนเดียว ส่วนลุงบ้านหลังถัดไปก็เล่าว่า มีคนมาเคาะประตูบ้านร้องเรียก “ช่วยด้วยๆ” สี่ห้าครั้ง แต่พอเปิดประตูออกมาก็ไม่เห็นใครเช่นเดียวกัน ส่วนบ้านฉันก็เจอกับเขาด้วย จู่ๆ แตรรถกระบะพ่อก็ดังขึ้นมาสองครั้งติดกัน ทั้งๆ ที่ไม่มีใครไปทำอะไรเลยสักอย่าง แต่ที่หนักหน่อยเห็นทีจะเป็นพี่น้ำ เพื่อนสนิทของพี่พลอย พี่น้ำเล่าว่าได้ยินเสียงคนร้องไห้สะอึกสะอื้นมาแต่ไกล เป็นเวลาประมาณตีสอง จึงตื่นขึ้นมากลางดึก บ้านพี่น้ำมีสองชั้น ข้างบนเป็นไม้ ส่วนข้างล่างเป็นปูน พี่น้ำนอนอยู่ชั้นบน แกเดินลงบันใดที่อยู่ในตัวบ้านมาโดยที่ไม่เปิดไฟ เพราะมันดึกมากแล้วเลยไม่อยากเปิดไฟรบกวนคนในบ้าน
พอเดินลงมาที่ประตูหน้าบ้าน เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ได้ยินชัดและใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พี่น้ำบอกตอนนั้นยอมรับว่ากลัวมาก แต่ในใจก็อยากรู้ว่าใครเป็นอะไร ทำไมมาร้องไห้ดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ จึงค่อยๆ แง้มประตูหน้าบ้านออกมาเล็กน้อยพร้อมกับส่องสายตาออกไปตระเวนดูข้างนอก แต่แล้วสิ่งที่เห็นก็ทำเอาพี่น้ำถึงกับช๊อค!! จนเป็นลมล้มพับไปเลย นั่นก็คือ ร่างของหญิงสาวเพื่อนสนิทวิณญาณของพี่พลอยกำลังเดินร้องไห้ มือปาดน้ำตาผ่านหน้าเธอไปอย่างช้าๆ ระยะเผาขน แต่ก่อนที่พี่พลอยจะเดินผ่านไป เธอหันกลับมามองหน้าพี่น้ำเป็นครั้งสุดท้าย ใบหน้าของพี่พลอย เละ มีแผลเน่า กลิ่นเหม็นโชยมาตามสายลม และสิ่งที่พี่พลอยทำ ก็คือ...ยิ้มให้พี่น้ำพร้อมกับโบกมือบ้ายบาย......
ความคิดเห็น