เนื่องจากช่วงสงกรานต์ปี 63 ทุกคนไปไหนกันไม่ได้ ต่างก็ต้องอยู่แต่บ้านกัน เพราะเจ้าไวรัสตัวร้าย Covid-19 ทำให้นึกถึงสมัยก่อนในเวลาที่จับเจ่าอยู่บ้าน หลายคนก็เริ่มจะหยิบสมุดอัลบั้มรูปภาพมานั่งดูไปเพลิน ๆ ทบทวนความทรงจำเก่า ๆ แต่สมัยนี้เรามักฝากรูปกันไว้ที่ Facebook และเมื่อถึงวันนั้น ๆ ที่เป็นอดีต FB ก็สามารถส่งภาพเหล่านั้นกลับมาเตือนความทรงจำให้เราได้ เหมือนกับช่วงกลางเดือนเมษายนของปี 2562 โดยปกติอากาศจะร้อนอบอ้าวมาก บริษัท ปตท ได้จัดงานที่จังหวัดระยอง ซึ่งใช้ชื่อว่า มหัศจรรย์ไม้เมืองหนาว ครั้งที่ 8 : ทิวลิปบานที่ระยอง ณ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งในงานจะทำให้คนไทยได้มีโอกาสชื่นชมความงามของดอกไม้เมืองหนาวที่บานสะพรั่งมากมาย โดยไม่ต้องบินไปต่างประเทศและนางเอกของงานก็คือดอกทิวลิปดอกโต ๆ ที่มีหลากหลายสีสัน บางสีก็ส่งกลิ่นหอมฟุ้งจรุงใจพร้อมทั้งรูปแบบของงานที่มีการออกแบบตกแต่งอย่างสวยงาม ดังกับผู้เข้าชมงานได้ไปเดินอยู่ในหมู่บ้านฝรั่ง ที่มีสวนดอกไม้ตามทางเดิน ปลูกดอกไม้ที่รั้วบ้านบ้าง มีซุ้มดอกไม้ที่หน้าบ้านบ้าง มีสะพานไม้ข้ามลำธารและมีสะพานกระจกที่ใต้สะพานเต็มไปด้วยสวนดอกไม้ฟังจากเจ้าหน้าที่ของ ปตท อธิบายคือเป็นการนำพลังงานความเย็นที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการเปลี่ยนสถานะแอลเอ็นจีให้เป็นก๊าซ มาใช้ในการสร้างความเย็นให้กับโรงเรือนเพาะปลูกพันธุ์ไม้และผลไม้เมืองหนาว รวมถึงการนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ได้จากการแยกก๊าซธรรมชาติมาเร่งการเจริญเติบโตของพืชเหล่านั้นและสามารถกำหนดเวลาตามต้องการได้ในการเข้าชม จะเสียค่าบัตรคนละ 40 บาท และได้รับ wrist band มาผูกไว้ที่ข้อมือ บอกเลยว่า wrist band น่ารักมาก เราตั้งใจว่าจะนำกลับบ้านไปเป็นของที่ระลึก แต่เจ้าหน้าที่ขอให้ดึงออกแบบขาดเลยก็ได้ และหยอดคืนใส่ในตู้สำรวจความพึงพอใจช่องที่เราต้องการ ขณะเดินออกจากประตูทางออกซึ่งเป็นคนละด้านกับประตูทางเข้าเมื่อจ่ายเงินค่าบัตรเข้าชมแล้วและได้ wrist band เป็นที่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะช่วยผูกที่ข้อมือเรา จากนั้นต้องนั่งรอคิวและรอบเวลาในการเข้าชม เมื่อถึงรอบเวลาของเรา เจ้าหน้าที่จะประกาศให้เตรียมตัวและเดินแถวเข้าประตูทางเข้า เมื่อเดินพ้นประตูไปจะเป็นห้องโถงที่กว้างมากและมีอากาศที่เย็นสบายจนบางคนอาจจะรู้สึกว่าหนาวก็เป็นได้ คือถ้าให้หลับตาแล้วสัมผัสด้วยความรู้สึกก็จะอารมณ์เดียวกับที่เราไปเดินอยู่ในต่างประเทศเรามีเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงที่จะเดินชมความสวยงามของดอกไม้ที่มากมาย หลากหลายพันธุ์และเก็บภาพได้อย่างอิสระ มีกติกาในการเดินชมดอกไม้ คือห้ามเข้าไปถ่ายภาพในดงดอกไม้และไม่จับต้องดอกไม้ที่สวยงามเหล่านั้น ถ้าอยากได้บริเวณทางออกด้านนอกจะมีขาย ซึ่งเราเองก็เสียเงินซื้อมา 1 ดอก ประมาณ 50 บาท เพราะความหลงใหลในดอกทิวลิปที่เปรียบเหมือนดอกไม้ในเทพนิยายสมัยอ่านนิทานตอนเด็ก ๆ แต่เท่าที่เราสังเกตเห็น ดอกไม้บางดอกก็ดูจะมีสภาพบอบช้ำเหมือนผู้เข้าชมจับต้องและมีบางดอกที่คอตกหรือหักร่วงบ้าง แต่ก็ดีใจที่มีไม่มากนักและบางจุดก็เหมือนจะมีการเดินเข้าไปถ่ายภาพท่ามกลางมวลดอกไม้เช่นกัน อาจจะเป็นเพราะเราเองที่มาในช่วงวันหลัง ๆ แล้วก็เป็นได้ นอกจากสภาพตามธรรมชาติที่ดอกไม้จะเปลี่ยนแปลงไป บางดอกที่บานสะพรั่งอวดความสวยงามเต็มที่แล้วก็อาจจะโรยราไปบ้าง แม้ว่าก็จะมีดอกใหม่ ๆ ผลิบานขึ้นมาทดแทน แต่เราก็ไม่อยากให้เกิดจากมือของผู้เข้าชมที่ไปจับต้องดอกไม้เหล่านั้น ทั้งหมดนี้คือความทรงจำและความประทับใจของเรา เสียดายที่ปี 63 เราไม่ได้มีโอกาสไปชมดอกทิวลิปที่บานสะพรั่งในหน้าร้อนของเมืองไทยได้ด้วยผลงานแห่งการคิดค้นที่ดูแลธรรมชาติ ของ บริษัท ปตท.ท้ายสุดนี้ เราก็หวังไว้ว่าในปี 64 เราคงมีโอกาสได้ไปชมดอกทิวลิปที่จังหวัดระยองกันอีกครั้ง โดย บริษัท ปตท. และไม่ลืมที่จะจัดเตรียมพร้อพต่าง ๆ ไปเก็บภาพสวย ๆ ในบรรยากาศทุ่งดอกทิวลิป ที่สำคัญอย่าลืมเลือกใส่เสื้อผ้าสีขาวกันนะคะ เพื่อที่เวลาถ่ายภาพจะได้ดูโดดเด่นอยู่ท่ามกลางสีสันของดอกไม้ที่สวยงาม เนื้อหาโดยผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียนและเพื่อนร่วมก๊วน