สวัสดีค่าทุกคน วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ "การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์" กันค่ะ หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินคำนี้มาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่แท้จริงของมันซักเท่าไหร่ ซึ่งการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์นี้ คือการที่นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ได้ไปท่องเที่ยวในสถานที่ใดที่หนึ่งเพื่อที่จะพัฒนาทักษะของตนเอง ซึ่งได้มาจากการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม หรือจะเป็นคุณลักษณะของพื้นที่ท่องเที่ยวนั้น ทำให้เกิดประสบการณ์ที่น่าจดจำและประทับใจ และความภาคภูมิใจในตัวเอง "ชุมชนกระแสบน" เป็นอีกหนึ่งชุมชนที่มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เราสามารถทำกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ได้ทุกกิจกรรมเลย โดยชุมชนนี้ตั้งอยู่ที่ ต.กระแสบน อ.แกลง จ.ระยอง ห่างจากกรุงเทพฯเพียงร้อยกว่ากิโลเท่านั้นเองค่ะ ตัวเราเองก็ได้มีประสบการณ์ไปท่องเที่ยวยังที่แห่งนี้มาได้ซักพักแล้ว เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ และความประทับใจให้กับทุกคนค่ะ การท่องเที่ยวในชุมชนแห่งนี้ เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชนกระแสบน หลังจากที่ได้ออกมาต่อต้านโครงการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่อาจจะสร้างความเสียหายให้กับเเหล่งน้ำและทรัพยากรต่าง ๆ ในชุมชน ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันคิดหาวิธีที่จะทำให้ชุมชนเป็นที่รู้จักมากขึ้นเพื่อที่จะเป็นการรักษาทรัพยากรของชุมชนไว้ จึงได้เกิดเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนขึ้นมา โดยการนำเอกลักษณ์ของชุมชนมาเป็นจุดเด่นในการสร้างกิจกรรมท่องเที่ยวขึ้น (รูปภาพโดยผู้เขียน) เรามาเที่ยวที่นี่แบบ One day trip คือไปเช้าเย็นกลับนั่นเองค่ะ เดินทางด้วยรถตู้ 1 คันกับผู้ร่วมเดินทางอีก 9 คน โดยจุดเริ่มต้นของกิจกรรมทั้งหมดนั้นอยู่ที่วัดกระแสคูหาสวรรค์ พอเรามาถึงก็มีการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนในชุมชน มีการทำมงกุฏดอกไม้ เสิร์ฟน้ำกระเจี๊ยบที่มีหลอดเป็นไม้ไผ่ที่ชาวบ้านเหลาขึ้นมาองจากต้นไผ่ในชุมชน เราประทับใจมาก เป็นการต้อนรับที่อบอุ่นสุด ๆ (รูปภาพโดยผู้เขียน) (รูปภาพโดยผู้เขียน) จากนั้นก็มีการไปกราบพระสำคัญของชุมชนภายในอุโบสถ รวมถึงฟังประวัติความเป็นมาของที่แห่งนี้ จากผู้ใหญ่ที่อยู่ในชุมชนมานาน มีความรู้และประสบการณ์มากมาย จากนั้นทางชาวบ้านก็พาเราไปยังศาลาอเนกประสงค์ที่อยู่ติดกันกับวัด โดยกิจกรรมแรกที่เราได้ทำนั้นก็คือ การทำขนมนิ่มนวล ขนมที่เป็นเอกลักษณ์ประจำชุมชนโดยมีคนในชุมชนสอนและลงมือทำไปพร้อม ๆ กับพวกเรา ขนมนิ่มนวลเป็นขนมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของชาวระยอง ทำมาจากข้าวจ้าวและข้าวเหนียว พวกเราได้มานั่งห่อขนมกัน สนุกมาก ๆ ทำไปก็กินไปแข่งกับเพื่อน ๆ เพลิน ๆ (รูปภาพโดยผู้เขียน) (รูปภาพโดยผู้เขียน) ทำขนมเสร็จก็มีกิจกรรมตำข้าวสีข้าว เป็นการตำข้าวและสีข้าวในวิธีแบบดั้งเดิม ไม่ใช้เครื่องจักร อันนี้ดูป้า ๆ เขาทำแล้วรู้สึกอยากทำบ้าง ดูสนุก คิดว่าคงไม่ยากเท่าไหร่ แต่พอได้มาลองทำเท่านั้นแหละค่ะ อยากจะวางเลย มันยากและก็เหนื่อยมาก เราเลยได้เรียนรู้ว่ากว่าจะได้ข้าวออกมากินแต่ละเม็ดนั้นไม่ง่ายเลย (รูปภาพโดยผู้เขียน) (รูปภาพโดยผู้เขียน) พอมื้อเที่ยงเราก็ได้ไปกินข้าวกันบนแพริมแม่น้ำประแส ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัด อาหารที่เสิร์ฟมานั้นก็จะเป็นอาหารพื้นบ้าน เช่น ยำหัวปลี และ แกงข่าไก่ที่ใส่มาในถ้วยที่ทำจากกะลามะพร้าว ข้าวสวยก็เป็นข้าวห่อใบตอง ทำให้ข้าวหอมที่สุดเลยล่ะค่ะ บวกกับวิวริมแม่น้ำสวย ๆ บอกได้คำเดียวว่ามื้อนี้จอยมาก ๆ (รูปภาพโดยผู้เขียน) (รูปภาพโดยผู้เขียน) หลังจากกินข้าวเสร็จก็มาถึงไฮไลท์เด็ดของที่นี่ นั่นก็คือการล่องเรือชมตัวลั้ง หรือ กิ้งก่ายักษ์ที่ทุกคนรู้จักนั่นเองค่ะ โดยเจ้าตัวลั้งเนี่ยถือเป็นสัตว์สงวน เพราะแต่ก่อนคนชอบจับน้องมากิน ทำให้เหลือจำนวนน้อยมาก ๆ ในประเทศไทย ทำให้มีกฎหมายเพื่อคุ้มครองเจ้าตัวลั่งนี้ ซึ่งเราจะสามารถพบน้องลั้งได้ตามชายฝั่งแม่น้ำประแสบน เนื่องจากน้องลั้งมีพฤติกรรมที่ชอบอยู่พื้นที่เป็นบริเวณริมแม่น้ำ ลำธารนั่นเองค่ะ การจะเจอน้องได้ก็ต้องนั่งเรือออกไปตามแม่น้ำกระแสซักพัก พี่คนขับเรือตาดีมาก พี่เขาสามารถเห็นตัวลั้งได้ในระยะ 5 เมตรกันเลยทีเดียว ไอเราก็มองหานานมาก ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน เนื่องจากเจ้าตัวนี้มีสีเขียว ที่กลมกลืนกับป่าริมน้ำ ต้องสังเกตุดี ๆ ถึงจะเห็นค่ะทุกคน เราเจอประมาณ 5 ตัวเห็นจะได้ค่ะ แต่เห็นแบบเสี้ยว ๆ ของน้อง ฮ่า ๆ ๆ ล่องเรือไปได้ซักพัก ก็ไปขึ้นฝั่งอีกท่าเพื่อที่จะเดินไปสวนผลไม้ของลุงจริต โดยทางสวนผลไม้ของคุณลุงจริตก็มีการต้อนรับเราด้วยผลไม้ที่มีในช่วงนั้น เสียดายว่าช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่ทุเรียนหมดเเล้ว จึงได้ชิมผลไม้อยู่แค่ไม่กี่อย่างก็คือ กล้วย กับสละ ชิมลูกแรกไปแล้วก็จะมีลูกที่สองตามมา ต่อด้วยลูกที่สามสี่ หยุดกินไม่ได้เลยค่ะทุกคน ฮ่า ๆ ๆ (รูปภาพโดยผู้เขียน) แต่ที่สวนของคุณลุงจริตไม่ได้มีแค่ผลไม้เท่านั้นนะคะ ยังมีการทำมังคุดกวนอีกด้วย เราก็ได้ลงมือกวนมังคุดร่วมกับชาวบ้านในชุมชนด้วย มังคุดกวนจะรสชาติคล้าย ๆ กับกล้วยกวน แต่จะออกขมกว่านิดหน่อย กวนไปก็กลัวไป เพราะแอบระแวงว่ามันจะกระเด็นใส่ไหมนะ และนี่ก็เป็นกิจกรรมทั้งหมดที่เราได้ไปร่วมทำกันที่ชุมชนกระแสบน แต่จริง ๆ แล้วที่นี่มีกิจกรรมมากกว่านี้ ซึ่งสามารถเลือกได้เองเลยค่ะว่าอยากทำกิจกรรมอะไรบ้าง ถ้ามาในช่วงที่เป็นฤดูผลไม้ ก็อาจจะมีบุฟเฟ่ต์ผลไม้ให้ด้วยนะคะ เผลอ ๆ อาจได้กินทุเรียนพันธุ์ดีเมืองระยองเป็นของแถม หากใครสนใจก็สามารถมาเที่ยวที่ชุมชนนี้ได้ นอกจากจะได้เที่ยวสร้างประสบการณ์ ความรู้ต่าง ๆ ให้ตัวเองแล้วยังเป็นการช่วยสร้างรายได้และอาชีพให้กับคนในชุมชนอีกด้วยนะคะ ถ้าสนใจสามารถติดต่อได้ตามเบอร์นี้เลยค่า 086-111-3524 คุณแจ็ค (ขอบคุณรูปภาพปกบางส่วนจาก Pixabay : https://pixabay.com/th/photos/จีน-น้ำมังกร-มังกรน้ำ-concincinus-1508328/)