Feel Sooooo Good @เกาะกูด ฉายาที่ได้รับคือ "อันดามันแห่งทะเลตะวันออก" ความว้าววว...ของวันแรกที่มาถึงมันยังไม่เท่าเมื่อเช้าที่ว้าวววว...ว้าวววว...ว้าวววว เพราะ น้ำใสมากกกก วิวดีสุด!!!! นี่แอ๊ปๆว่าอยู่มัลดีฟส์ก็ไม่น่าแปลก แต่ไม่สิ ทะเลไทยก็สวยใสไม่แพ้ใครเหมือนกัน ขนาดแดดแรงขนาดนี้คุณลุงฝรั่ง รีสอร์ทข้างๆยังพาลูกมาโดดน้ำแล้วโดดน้ำอีก เล่นชิงช้ากลางน้ำกันกลางแดดเปรี้ยงๆนี่ล่ะ เด็กกรี๊ดกร๊าดยังกับโดนฉลามสัก10ตัวไล่งับ🦈🦈มาย้อนรอยเริ่มต้นการเดินทางกันดีกว่า จากกรุงเทพฯเราเลือกใช้บริการของ เรือเร็วบุญศิริ ซื้อแพ็ครถ+เรือ ราคาไป-กลับ 1,700 บาท เราเลือกขึ้นรถรอบแรก ตี5 ดูหน้าไม่น่าจะตื่นได้ แต่เพื่อให้ได้ถึงเกาะไวๆเราก็ทำได้นะ ขึ้นรถที่บางลำพู The Street Hostel ออกเดินทางยาวๆไป ใช้เวลาบนรถ 5 ชั่วโมง นอนตายกันไปยาวๆ จนถึงบริษัทบุญศิริ ต่อรถรางไม่ถึง 3นาที ก็พาเรามาถึงท่าเรือแหลมศอก จ.ตราด นี่มันเรือ Ferry ข้ามฝาก ฮ่องกง มาเก๊า หรือเปล่านะ? (พูดถึงก็คันมืออยากจะโยกสะเหลือเกิน) ไม่ถึงขนาดนั้นแต่ก็ดีในระดับนึง นั่งเรืออีก 1 ชั่วโมง นิดๆ ก็ถึงท่าเรืออ่าวสลัด ยังไม่จบนะจ๊ะ ต่อรถสองแถวอีก ครึ่งชั่วโมง ทั้งหมดก็ 6 ชั่วโมง เดี๋ยวมาดูกันว่า6ชม.ที่เสียไปจะคุ้มค่ามั้ย แต่เมื่อ 4 ปีที่แล้วเราก็เคยมากกันครั้งนึงแล้ว ตอนนั้นพักที่ Away Resort สวย สงบ มาก น้ำหน้าหาดเป็น2สี พายเรือแคนนูวนไปค่ะ วนจริงๆนะ ตอนนั้นพายไม่เป็น 555++ ระหว่างทางที่เรานั่งรถสองแถว บรรยากาศเขียวๆสลับกับบ้านคน ถือได้ว่าความอุดมสมบูรณ์ยังคงมีอยู่ ในเกาะนี้มีน้ำตกด้วยนะ ดีจริงๆ หน้าเป็นทะเลหลังเป็นน้ำตก ได้2บรรยากาศไปในตัว แต่เราชอบทะเลมากกว่าเราเลยเลือกพักที่นี่เลย "To The Sea" รีสอร์ทใหม่เก๋ๆ ค่าเสียหาย 3 วัน2คืน 1,500-.บาท/คน เดินมา Check-in ต้องสะดุดตากับพี่หมาฝรั่ง "คูเปอร์" หน้าโหดสุด แต่จริงๆใจดี ชอบว่ายน้ำทะเลเป็นชีวิตจิตใจ เจอมะพร้าวไม่ได้นางจะงับๆๆ เป็นเด็กน้อยไปเลย และแว๊ปแรกที่ประทับใจคงเป็นวิวยอดฮิตที่ไว้ชมพระอาทิตย์ตกดินนี่ล่ะ "หญ้าสีเขียวสดที่มองแล้วช่างสดชื่นสบายตา ช่างรับกับทิวแถวของต้นมะพร้าว ที่ถูกวางไว้ให้กลมกลืนกับท้องฟ้าสีครามและน้ำทะเลสีมรกต เสียงคลื่นและลมที่พัดเข้ามาประดุจเสียงเพรียกหาจากท้องทะเล" "เมิงๆ พี่เค้ารอยกกระเป๋าอยู่" แหม่....กำลังอิน แล้วผู้กำกับสั่ง Cut! สะเฉยเลย เมื่อเข้าสู่ห้องพักหลังจากถ่ายรูปเสร็จก็ขอทิ้งตัวตากแอร์ก่อนเลย แดดแรงแบบน่าเอากลับไปตากผ้าที่บ้านมาก พอมีแรงสักหน่อยก็ได้เวลากินค่ะ ในรีสอร์ท.นี่ล่ะ กินกันเสร็จก็เดินไปแหย่ พี่คูเปอร์ ต่อ นางอยากได้น้องหมา Douglas ของเรา อยากเอาไปกอดหรือไปขย้ำก็ไม่รู้ แลบลิ้นแพร่บๆ พี่ฟร้อนบอกว่าเค้าชอบนะคะตุ๊กตา สงสัยอยากได้ เห่อๆ ขายต่อป่ะละพี่คูเปอร์ 555++ กินเสร็จกลับห้องนอนต่อ รอให้แดดอ่อนแล้วจะออกไปเล่นน้ำกัน พกหน้ากากมาด้วย กะไปดำน้ำเต็มที่ กว่าแดดจะอ่อนก็ปาไป สี่โมงครึ่ง วันนี้จะไปเล่นแคนนู กับ Paddle Board แต่เห็นคลื่นแล้ว คือ โอ้ววว...แรงไปไหนเนี่ย ถ้าเปลี่ยนเป็นกระดานโต้คลื่นนี่ได้เลย 🏄 (คนที่พายอยู่ก็ยังคงไม่ไปไหนถูกคลื่นซัดกลับมาเรือแทบล่ม งั้นเราไปลองดำน้ำดูดีกว่า) ดำลงไป อือหือ...ขุ่นมาก นี่มันพายุทรายใต้ทะเลหรือเปล่า เลยถอดใจไปเล่นชิงช้ากลางน้ำดีกว่า ถือว่าเป็น Signature ของ To The Sea เลยนะเจ้าชิงช้ากลางน้ำเนี่ย พอพระอาทิตย์เริ่มจะตกดินผู้คนก็ต่างมากันจุดชมวิวยอดฮิต ส่วนพวกเราหรอ แช่ตัวอยู่ในสระน้ำอุ่นมาสักพักละ เราเลือกชมวิวจากขอบสระนี่มันได้ Feel สุดๆ “แสงพระอาทิตย์สีส้ม ที่เหมือนจะอ่อนแรงจากการใช้พลังงานมาเมื่อกลางวัน สะท้อนกับทะเลทอดยาวมาตามคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง ทอดยาวมาถึงหน้าเรา ณ ตอนนั้น ก็ยังคงมีคนพายเรือแคนนูกันเหมือนจะประกอบให้ฉากนี้สมกับเป็นพระอาทิตย์ตกดิน เสียงเจ้าคูเปอร์เห่าอย่างสนุกสนานอยู่กับการวิ่งเล่นน้ำทะเล เหมือนกับว่าชาติที่แล้วเกิดเป็นนางเงือกสะอย่างงั้น ไม่อาจละสายตาจากวิวแบบนี้ได้ เหมือนอยากจะหยุดเวลาไว้สัก 1 ชม.ได้มั๊ย แต่ยังไม่ทัน 5นาที พระอาทิตย์ก็รีบลับขอบฟ้าไปสะแล้วเหลือไว้แต่เมฆสีไอศกรีมวอลล์ Rainbow” สวยจนอยากกิน หรือหิวไม่รู้555++ แลว่าจะเป็นอย่างหลัง พวกเราเลย Delivery Pizza เกาะกูดกันเลย จัดเต็ม ขอเมนูทาง Inbox ก็จัดเลย พิซซ่าฮาวาเอี้ยนชีส พี่คะเพิ่มชีสเข้าไปอีกค่ะ (สภาพออกมาคือ ชีสหนากว่าแป้ง 555+++) นอกจากพิซซ่าก็มีสปาเก็ตตี้, สลัดกุ้งทอด คือกินเข้าไปนี่มันขึ้นถึงคอ แค่เห็นที่ตัวเองโพสหน้าเฟสนี่แทบอ้วก คือพอก่อนนะช่วงนี้พิซซ่าชีส ของเก่านี่ กี่เดือนถึงจะเบิร์นออก อิ่มแล้วก็นอนกันสบาย รอฝนดาวตกตอน 5 ทุ่มแต่กลับกลายเป็นฝนตกสะงั้น งั้นก็นอนกันยาวๆไป วันที่สองก็ยังคงเป็น Step เดิม ตื่นมาแทบไม่ทันอาหารเช้า 9 โมงเช้าจ้า นอนกันเพลินสุดๆ เช้ามาเลยขอไปเดินชมเก็บบรรยากาศยามเช้าสะหน่อย (ก่อนเที่ยงมันก็ยังเช้าอยู่เนอะ) เพื่อให้เวลาคุณป้าแม่บ้านมาทำห้องให้ สภาพคือเปิดมาตกใจ เหมือนมีโจรบุกห้อง คือมีความยุ่งเหยิง และรกมาก กุลสตรีทั้งคู่ก็งี้ ป้าแม่บ้านเพลียแป๊ป! เรากะว่าจะเดินไปสะพานยาวที่ยื่นออกไปทะเลสะหน่อย มองไป โอ้วไกลจัง แถมคนเยอะด้วย ไปรีสอร์ทข้างๆแล้วกันนะ 555+++ เดินไปหยุดที่ปลายสะพานคือแบบ น้ำสีสวยมากกกก มันใสแจ๋ว มองทะลุลงไปเห็นพื้นทรายปลาน้อยแหวกว่าย ยังกับเป็นกระจกเลย แอบเห็นปลาตัวใหญ่ว่ายอยู่ใต้สะพานด้วย อยากโดดลงไปเลย แต่แดดร้อนมากกกก เพราะแดดแรงแบบนี้หรือเปล่านะ น้ำถึงสวยใสได้ขนาดนี้ เดินกลับมานอนตายต่อที่ริมสระรีสอร์ทตัวเอง จนแดดเริ่มไล่ เข้าห้องนอนตายเหมือนเดิม ตื่นมาโทรสั่งส้มตำปูปลาร้า ข้าวเหนียว ไก่ย่างจาก น้ำตกคลองเจ้า ไม่ต้องถึงน้ำตกเราก็จกส้มตำได้นะ 5555++ (เมนูนี่เล็งมาตั้งแต่กรุงเทพฯเลยนะ) ตอนเย็นก็ออกไปเดินเล่นสะพาน คิดว่ายื่นออกไปไกลน้ำจะใสๆ แต่ก็ยังคงเป็นพายุทะเลทรายแบบเมื่อวาน คลื่นลมค่อนข้างแรง ลงไปแค่แปปเดี๋ยวรู้สึกอยากจะให้อาหารปลาขึ้นมาทันที 5555++ เลยตัดสินใจไปแช่สระน้ำนอนดูพระอาทิตย์ตกดีกว่า วันนี้ฟ้าสวยมาก แถมมีสายรุ้งให้เราเห็นตั้ง 2 เส้นเลยนะ ฝนจะตกอีกแล้วมาตรงเวลาแบบกรุงเทพฯเลยนะ เวลาแห่งวันหยุดช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้ต้องกลับแล้ว เวลา6ชม.ที่เราฝ่าฟันมามันก็คุ้มค่าดีนะ อย่างน้อยมาสูดอากาศบริสุทธิ์ นอนฟังเสียงคลื่น เสียงลม เสียงนกชิวๆริมหาด กลับไปก็น่าจะมีพลังงานในการต่อสู้ชีวิตในเมืองได้อีกเยอะ ทริปหน้าชาจน์แบตที่ไหนดีนะ ช่วงนี้แบตชีวิตเสื่อม อยากจะชาจน์ มันทุกอาทิตย์เลย อิอิ 🤣